ผู้จัดการรายวัน 360 - "อนุทิน" ชง ศบค.เคาะ Travel Bubble 26 มิ.ย.นี้ คาดเป็นแบบ MOU นำร่องกลุ่มนักธุรกิจ-มีตั๋วทำงาน เข้ามาก่อนการท่องเที่ยว เตือน ปชช.ใช้ชีวิตวิถีใหม่ อย่าทำไข่แตก หลังติดเชื้อในประเทศเป็น 0 มา 23 วัน ยังไม่สรุปยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เผื่อเหตุไม่คาดฝัน ชี้ไม่กระทบคน เหตุไม่มีเคอร์ฟิวแล้ว ศบค.แถลงไม่พบไทยติดเชื้อ เล็งพัฒนาแอปฯ“ไทยชนะ”เป็นโลโก้ แสดงถึงความปลอดภัยของร้านค้าที่มีคิวอาร์โค้ด พร้อมให้เช็กอิน-เช็กเอาต์เป็นกลุ่ม
วานนี้ (17 มิ.ย.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดประชุมมอบนโยบายการจัดการสถานการณ์โควิด-19 แก่ชมรมโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป (รพศ./รพท.) ชมรมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแห่งประเทศไทย และชมรมผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชนแห่งประเทศไทย โดยนายอนุทิน กล่าวช่วงหนึ่งว่า ไทยเข้าสู่การผ่อนคลายระยะที่ 4 ทำได้ขนาดนี้ เพราะบุคคลากรสาธารณสุขทำงานอย่างเข้มข้น การ์ดอย่าตก เราไม่มีผู้ป่วยในประเทศเป็นเวลา 23 วัน รออีก 1 สัปดาห์ก็จะครบ 28 วันระยะปลอดภัย ขออย่างเดียวไข่อย่าแตก ดังนั้น บุคลากรสาธารณสุขต้องเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ เพื่อพร้อมเผชิญเหตุหากเกิดมีผู้ป่วยเข้ามา ก็ต้องรุกเข้าไปแก้ปัญหาอธิบายประชาชนให้ทราบและเข้าใจ
นายอนุทิน กล่าวภายหลังการประชุมว่า ได้เน้นย้ำและติดตามเรื่องการใช้งบประมาณ ทั้งงบ ปกติและงบโควิด-19 เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกัน เพราะมารับฟังจาก รมว.สธ.โดยตรง ซึ่งย้ำว่าการใช้งบต้องเป็นประโยชน์ทุกบาททุกสตางค์ เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการให้บริการประชาชน ส่วนเรื่องงบบางอย่างที่ถูกตัด ได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) จัดลำดับความสำคัญของโครงการ เพื่อให้ถูกตัดงบออกไปน้อยที่สุด ส่วนตัวเลขที่ถูกตัดยังไม่ทราบ แต่ดูโครงการก็มีเยอะ พยายามคุยกับสำนักงบประมาณ บางอย่างเอากลับเข้ามาได้ แต่บางอย่างก็ต้องไปแปรญัตติ
สำหรับการจับคู่การเดินทางระหว่างประเทศ (Travel Bubble) ตอนนี้มอบกรมควบคุมโรค (คร.) และ นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ รองปลัด สธ. ดูแลเรื่องนี้ ขณะนี้ต้องจัดคิวพบเอกอัครราชทูตหลายประเทศที่ประสานเข้ามา มีหลายประเทศร่างกรอบการควบคุมป้องกันโรค การคัดกรองคนเดินทางเข้าไทย และคัดกรองการเข้าประเทศของเขา จึงต้องมาดูว่าสอดคล้องกับมาตรการในประเทศไทยหรือไม่ โดยอยู่บนพื้นฐานความปลอดภัยในการควบคุมโรคและเศรษฐกิจ เรื่องนี้ผู้เกี่ยวข้องจะมีการหารือและเสนอต่อนายกรัฐมนตรี และ ศบค.ชุดใหญ่พิจารณาในวันที่ 26 มิ.ย.นี้
“การจับคู่คงเป็นลักษณะการทำเอ็มโอยู หากประเทศที่จับคู่เกิดการระบาดขึ้นมาอีก และควบคุมไม่ได้ ก็สามารถยกเลิกได้ ทุกอย่างจะค่อยๆ พัฒนาขึ้นไป ไม่อยากให้กังวล เราต้องกล้าที่จะเริ่มผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ให้มีการเดินทางไปมาหาสู่ ประกอบธุรกิจ อาจจะเริ่มจากผู้ประกอบธุรกิจ เทคนิเชียน บรรดาครู คนทำงานที่มีใบอนุญาตทำงาน เป็นต้น อาจจะยังไม่ถึงขั้นนักท่องเที่ยว เพราะเชื่อว่าต่อให้เปิดประเทศตอนนี้ ทั้งเราและเขาคงยังไม่มีใครจะมาท่องเที่ยว แต่มั่นใจว่าถ้าเราการ์ดไม่ตก ประเทศไทยจะเป็นจุดหมายของการท่องเที่ยวและการทำธุรกิจ” นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามถึงแนวโน้มการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และใช้เพียง พ.ร.บ.โรคติดต่อ นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกันถึงจุดนี้ว่าจะใช้แนวทางไหน ตอนนี้พูดถึงแล้ว พ.ร.ก.ฉุกเฉินยังมีอยู่ แต่คงใช้ในเรื่องการเผื่อเอาไว้ หากมีความจำเป็นต้องบูรณาการทุกภาคส่วน เกิดมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นมา แต่คิดว่าวันนี้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับชีวิตคน เพราะเคอร์ฟิวก็ไม่มีแล้ว คนที่ทำงานหนักก็ยังเป็นบุคลากรทางการแพทย์เช่นเดิม เพราะกิจกรรมกิจการต่างๆ กลับมาเปิดปกติ จำหน่ายสุราได้บ้าง จึงเป็นสิ่งที่ต้องเฝ้าระวังอย่างเต็มที่เหมือนกัน หากพี่น้องประชาชนเห็นใจบุคลากรทางการแพทย์ ตนขอความร่วมมือให้พี่น้องประชาชนเมตตา ใช้ชีวิตวิถีใหม่มากที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดขึ้นอีก เพราะวันนี้เรายังไม่รู้ว่า ยังมีคนติดเชื้อไม่มีอาการหลงเหลืออยู่หรือไม่
ด้าน นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การหารือใน ศบค.ชุดเล็ก เบื้องต้นกรอบที่ 2 ประเทศจะต้องมีตรงกัน คือ 1. จำนวนอัตราการป่วยโควิด -19 จะต้องลดลง ดูให้แน่ชัดว่าการป่วยที่เกิดขึ้นในประเทศนั้นๆ มาจากการแพร่ระบาดในประเทศ หรือผู้ป่วยนำเข้าจากต่างประเทศ และ 2. ศักยภาพและความสามารถด้านการรักษาพยาบาล เป็นต้น
ไทยไร้คนติดเชื้อโควิดนาน 23วัน
วานนี้ (17มิ.ย.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค. แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศว่า ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มทั้งในประเทศ และสถานที่กักกันของรัฐ ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสม 3,135 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 3 ราย ทำให้มีผู้หายป่วยแล้ว 2,996 ราย รักษาตัวอยู่ในรพ. 81 ราย เสียชีวิตยังอยู่ที่ 58 ราย โดยตัวเลขการติดเชื้อภายในประเทศเป็นศูนย์ติดต่อกัน 23 วัน ซึ่งเป็นสถิติของไทย และสถิติที่ดีของโลกด้วย แต่ถ้าจะให้ดีอยากให้เป็น 28 วัน
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อ 8,257,885 ราย เสียชีวิต 445,986 ราย
ส่วนสถานการณ์ต่างประเทศที่น่าสนใจ ประเทศนิวซีแลนด์ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 2 ราย นับเป็นครั้งแรกในรอบ 24 วัน ที่พบผู้ติดเชื้อ โดยทั้ง 2 ราย เดินทางกลับมาจากสหราชอาณาจักร จึงทำให้นิวซีแลนด์ต้องเข้มงวดในการเดินทางผ่านชายแดน ขณะที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จากตลาดค้าส่งผัก ผลไม้และเนื้อสัตว์ จำนวน106 ราย ซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อที่เชื่อมโยงกับตลาดซินฟาตี้ ทำให้เทศบาลนครปักกิ่ง สั่งห้ามไม่ให้บริการรถแท็กซี่ บริการเรียกรถ หรือโบกรถสารขับออกจากเมืองตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย. หากฝ่าฝืนจะถูกลงโทษรุนแรง
เมื่อถามถึงกรณีการติดเชื้อในตลาดมาจากสาเหตุปลาแซลมอนติดเชื้อ หรือไม่เพราะบางคนบอกว่าโควิดจะแพร่กระจายในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเท่านั้น หรือถ้าไม่มีจะมีบนเขียงหรือเปล่า หรือว่ามีในตลาดหรืออยู่ในพื้นผิวปลาที่หั่นออกมาจากเขียงนั้น นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สิ่งที่เรารายงานไปก็เป็นรายงานข่าวที่เกิดขึ้นตามสำนักข่าวสากล แต่องค์การอนามัยโลกยังไม่ได้มีข้อสรุปที่ชัดเจน ดังนั้นคำตอบในทางการแพทย์คือ กลับไปที่กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ทำความสะอาดพื้นผิว ถ้าจะกินดิบต้องล้างทำความสะอาดให้ดี และถ้าไปกินที่ร้านค้า ต้องมั่นใจว่าร้านค้ามีระบบดูแลตามที่กระทรวงสาธารณสุข กรมอนามัยวางหลักการไว้ ถ้าเชื่อมั่นในร้านค้าได้ แต่ถ้าไม่เชื่อมั่นก็ต้องปรุงสุก
เมื่อถามถึงกรณีแอปพลิเคชั่น ไทยชนะ ที่ประชาชนไม่มั่นใจในการให้จดชื่อ เบอร์โทร. ในการเข้าร้านค้าต่างๆอาจถูกนำไปใช้ในทางอื่นหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวยืนยันว่า หากใช้แอปพลิเคชั่นไทยชนะ มีความปลอดภัยแน่นอน เนื่องจากมีคณะกรรมการของกระทรวงดิจิทัลฯ ดูแลอยู่ เพื่อไม่ให้มีการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล แต่การให้จดข้อมูล เบอร์โทร.ลงสมุด เจ้าของร้านไม่มีคนมาดูแล หากมีคนถ่ายภาพเอาข้อมูลคนมาลงทะเบียนไป อาจะทำให้ไม่มีความปลอดภัย ร้านต้องมีวิธีดูแลด้วย และต่อไปกระทรวงดิจิทัลฯ ต้องเข้ามาดูระบบและความละเอียดรอบคอบส่วนนี้ให้ด้วย หากร้านมีแอปฯร้านก็ไม่ต้องเก็บข้อมูล ระบบอยู่กับกรมควบคุมโรค หากเกิดการติดเชื้อ ร้านไม่ต้องมารับผิดชอบไม่ต้องไปนั่งค้นดูรายชื่อ เป็นหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขตามหาคนในกลุ่มนั้นขึ้นมา และขณะนี้แอปฯไทยชนะ กำลังพัฒนาให้ระบบเช็กอิน เช็กเอาต์ เป็นกลุ่มได้ หรืออาจจะมีการเปิดจองตั๋วเข้าสถานที่ต่างๆ เช่น สวนสัตว์ ขึ้นรถทัวร์ นอกจากนี้กำลังออกเป็นหมายเลขประจำตัวเพื่อส่งเสริมการขาย สามารถติดตามได้เป็นตัวบุคคล ร้านค้าจะมีการให้เรตติ้ง 3-5 ดาว หากทำได้ดี คนเข้าไปจะเห็นเรตติ้ง จะทำให้ได้ลูกค้าเพิ่ม หลายคนบอกว่าอยากให้พัฒนาขึ้นเป็นโลโก้ หากร้านค้าไหนมีคิวอาร์โค้ดไทยชนะติดอยู่ แสดงว่ามีคุณภาพครบถ้วน ระหว่างร้านมีคิวอาร์โค้ด กับร้านที่ไม่มี ขอให้ไปร้านที่มีคิวอาร์โค้ดไว้ก่อน เพราะถูกจัดการหมดแล้ว แสดงถึงความพร้อมในการให้บริการ ส่วนร้านที่ไม่มีคิวอาร์โค้ด ซึ่งมีประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ ยังไม่พร้อมบริการใคร ต่อไปคิวอาร์โค้ดไทยชนะ จะเป็นโลโก้ด้านความปลอดภัยในการติด หรือไม่ติดโควิด-19
วานนี้ (17 มิ.ย.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดประชุมมอบนโยบายการจัดการสถานการณ์โควิด-19 แก่ชมรมโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป (รพศ./รพท.) ชมรมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแห่งประเทศไทย และชมรมผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชนแห่งประเทศไทย โดยนายอนุทิน กล่าวช่วงหนึ่งว่า ไทยเข้าสู่การผ่อนคลายระยะที่ 4 ทำได้ขนาดนี้ เพราะบุคคลากรสาธารณสุขทำงานอย่างเข้มข้น การ์ดอย่าตก เราไม่มีผู้ป่วยในประเทศเป็นเวลา 23 วัน รออีก 1 สัปดาห์ก็จะครบ 28 วันระยะปลอดภัย ขออย่างเดียวไข่อย่าแตก ดังนั้น บุคลากรสาธารณสุขต้องเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ เพื่อพร้อมเผชิญเหตุหากเกิดมีผู้ป่วยเข้ามา ก็ต้องรุกเข้าไปแก้ปัญหาอธิบายประชาชนให้ทราบและเข้าใจ
นายอนุทิน กล่าวภายหลังการประชุมว่า ได้เน้นย้ำและติดตามเรื่องการใช้งบประมาณ ทั้งงบ ปกติและงบโควิด-19 เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกัน เพราะมารับฟังจาก รมว.สธ.โดยตรง ซึ่งย้ำว่าการใช้งบต้องเป็นประโยชน์ทุกบาททุกสตางค์ เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการให้บริการประชาชน ส่วนเรื่องงบบางอย่างที่ถูกตัด ได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) จัดลำดับความสำคัญของโครงการ เพื่อให้ถูกตัดงบออกไปน้อยที่สุด ส่วนตัวเลขที่ถูกตัดยังไม่ทราบ แต่ดูโครงการก็มีเยอะ พยายามคุยกับสำนักงบประมาณ บางอย่างเอากลับเข้ามาได้ แต่บางอย่างก็ต้องไปแปรญัตติ
สำหรับการจับคู่การเดินทางระหว่างประเทศ (Travel Bubble) ตอนนี้มอบกรมควบคุมโรค (คร.) และ นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ รองปลัด สธ. ดูแลเรื่องนี้ ขณะนี้ต้องจัดคิวพบเอกอัครราชทูตหลายประเทศที่ประสานเข้ามา มีหลายประเทศร่างกรอบการควบคุมป้องกันโรค การคัดกรองคนเดินทางเข้าไทย และคัดกรองการเข้าประเทศของเขา จึงต้องมาดูว่าสอดคล้องกับมาตรการในประเทศไทยหรือไม่ โดยอยู่บนพื้นฐานความปลอดภัยในการควบคุมโรคและเศรษฐกิจ เรื่องนี้ผู้เกี่ยวข้องจะมีการหารือและเสนอต่อนายกรัฐมนตรี และ ศบค.ชุดใหญ่พิจารณาในวันที่ 26 มิ.ย.นี้
“การจับคู่คงเป็นลักษณะการทำเอ็มโอยู หากประเทศที่จับคู่เกิดการระบาดขึ้นมาอีก และควบคุมไม่ได้ ก็สามารถยกเลิกได้ ทุกอย่างจะค่อยๆ พัฒนาขึ้นไป ไม่อยากให้กังวล เราต้องกล้าที่จะเริ่มผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ให้มีการเดินทางไปมาหาสู่ ประกอบธุรกิจ อาจจะเริ่มจากผู้ประกอบธุรกิจ เทคนิเชียน บรรดาครู คนทำงานที่มีใบอนุญาตทำงาน เป็นต้น อาจจะยังไม่ถึงขั้นนักท่องเที่ยว เพราะเชื่อว่าต่อให้เปิดประเทศตอนนี้ ทั้งเราและเขาคงยังไม่มีใครจะมาท่องเที่ยว แต่มั่นใจว่าถ้าเราการ์ดไม่ตก ประเทศไทยจะเป็นจุดหมายของการท่องเที่ยวและการทำธุรกิจ” นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามถึงแนวโน้มการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และใช้เพียง พ.ร.บ.โรคติดต่อ นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกันถึงจุดนี้ว่าจะใช้แนวทางไหน ตอนนี้พูดถึงแล้ว พ.ร.ก.ฉุกเฉินยังมีอยู่ แต่คงใช้ในเรื่องการเผื่อเอาไว้ หากมีความจำเป็นต้องบูรณาการทุกภาคส่วน เกิดมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นมา แต่คิดว่าวันนี้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับชีวิตคน เพราะเคอร์ฟิวก็ไม่มีแล้ว คนที่ทำงานหนักก็ยังเป็นบุคลากรทางการแพทย์เช่นเดิม เพราะกิจกรรมกิจการต่างๆ กลับมาเปิดปกติ จำหน่ายสุราได้บ้าง จึงเป็นสิ่งที่ต้องเฝ้าระวังอย่างเต็มที่เหมือนกัน หากพี่น้องประชาชนเห็นใจบุคลากรทางการแพทย์ ตนขอความร่วมมือให้พี่น้องประชาชนเมตตา ใช้ชีวิตวิถีใหม่มากที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดขึ้นอีก เพราะวันนี้เรายังไม่รู้ว่า ยังมีคนติดเชื้อไม่มีอาการหลงเหลืออยู่หรือไม่
ด้าน นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การหารือใน ศบค.ชุดเล็ก เบื้องต้นกรอบที่ 2 ประเทศจะต้องมีตรงกัน คือ 1. จำนวนอัตราการป่วยโควิด -19 จะต้องลดลง ดูให้แน่ชัดว่าการป่วยที่เกิดขึ้นในประเทศนั้นๆ มาจากการแพร่ระบาดในประเทศ หรือผู้ป่วยนำเข้าจากต่างประเทศ และ 2. ศักยภาพและความสามารถด้านการรักษาพยาบาล เป็นต้น
ไทยไร้คนติดเชื้อโควิดนาน 23วัน
วานนี้ (17มิ.ย.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค. แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศว่า ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มทั้งในประเทศ และสถานที่กักกันของรัฐ ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสม 3,135 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 3 ราย ทำให้มีผู้หายป่วยแล้ว 2,996 ราย รักษาตัวอยู่ในรพ. 81 ราย เสียชีวิตยังอยู่ที่ 58 ราย โดยตัวเลขการติดเชื้อภายในประเทศเป็นศูนย์ติดต่อกัน 23 วัน ซึ่งเป็นสถิติของไทย และสถิติที่ดีของโลกด้วย แต่ถ้าจะให้ดีอยากให้เป็น 28 วัน
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อ 8,257,885 ราย เสียชีวิต 445,986 ราย
ส่วนสถานการณ์ต่างประเทศที่น่าสนใจ ประเทศนิวซีแลนด์ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 2 ราย นับเป็นครั้งแรกในรอบ 24 วัน ที่พบผู้ติดเชื้อ โดยทั้ง 2 ราย เดินทางกลับมาจากสหราชอาณาจักร จึงทำให้นิวซีแลนด์ต้องเข้มงวดในการเดินทางผ่านชายแดน ขณะที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จากตลาดค้าส่งผัก ผลไม้และเนื้อสัตว์ จำนวน106 ราย ซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อที่เชื่อมโยงกับตลาดซินฟาตี้ ทำให้เทศบาลนครปักกิ่ง สั่งห้ามไม่ให้บริการรถแท็กซี่ บริการเรียกรถ หรือโบกรถสารขับออกจากเมืองตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย. หากฝ่าฝืนจะถูกลงโทษรุนแรง
เมื่อถามถึงกรณีการติดเชื้อในตลาดมาจากสาเหตุปลาแซลมอนติดเชื้อ หรือไม่เพราะบางคนบอกว่าโควิดจะแพร่กระจายในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเท่านั้น หรือถ้าไม่มีจะมีบนเขียงหรือเปล่า หรือว่ามีในตลาดหรืออยู่ในพื้นผิวปลาที่หั่นออกมาจากเขียงนั้น นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สิ่งที่เรารายงานไปก็เป็นรายงานข่าวที่เกิดขึ้นตามสำนักข่าวสากล แต่องค์การอนามัยโลกยังไม่ได้มีข้อสรุปที่ชัดเจน ดังนั้นคำตอบในทางการแพทย์คือ กลับไปที่กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ทำความสะอาดพื้นผิว ถ้าจะกินดิบต้องล้างทำความสะอาดให้ดี และถ้าไปกินที่ร้านค้า ต้องมั่นใจว่าร้านค้ามีระบบดูแลตามที่กระทรวงสาธารณสุข กรมอนามัยวางหลักการไว้ ถ้าเชื่อมั่นในร้านค้าได้ แต่ถ้าไม่เชื่อมั่นก็ต้องปรุงสุก
เมื่อถามถึงกรณีแอปพลิเคชั่น ไทยชนะ ที่ประชาชนไม่มั่นใจในการให้จดชื่อ เบอร์โทร. ในการเข้าร้านค้าต่างๆอาจถูกนำไปใช้ในทางอื่นหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวยืนยันว่า หากใช้แอปพลิเคชั่นไทยชนะ มีความปลอดภัยแน่นอน เนื่องจากมีคณะกรรมการของกระทรวงดิจิทัลฯ ดูแลอยู่ เพื่อไม่ให้มีการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล แต่การให้จดข้อมูล เบอร์โทร.ลงสมุด เจ้าของร้านไม่มีคนมาดูแล หากมีคนถ่ายภาพเอาข้อมูลคนมาลงทะเบียนไป อาจะทำให้ไม่มีความปลอดภัย ร้านต้องมีวิธีดูแลด้วย และต่อไปกระทรวงดิจิทัลฯ ต้องเข้ามาดูระบบและความละเอียดรอบคอบส่วนนี้ให้ด้วย หากร้านมีแอปฯร้านก็ไม่ต้องเก็บข้อมูล ระบบอยู่กับกรมควบคุมโรค หากเกิดการติดเชื้อ ร้านไม่ต้องมารับผิดชอบไม่ต้องไปนั่งค้นดูรายชื่อ เป็นหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขตามหาคนในกลุ่มนั้นขึ้นมา และขณะนี้แอปฯไทยชนะ กำลังพัฒนาให้ระบบเช็กอิน เช็กเอาต์ เป็นกลุ่มได้ หรืออาจจะมีการเปิดจองตั๋วเข้าสถานที่ต่างๆ เช่น สวนสัตว์ ขึ้นรถทัวร์ นอกจากนี้กำลังออกเป็นหมายเลขประจำตัวเพื่อส่งเสริมการขาย สามารถติดตามได้เป็นตัวบุคคล ร้านค้าจะมีการให้เรตติ้ง 3-5 ดาว หากทำได้ดี คนเข้าไปจะเห็นเรตติ้ง จะทำให้ได้ลูกค้าเพิ่ม หลายคนบอกว่าอยากให้พัฒนาขึ้นเป็นโลโก้ หากร้านค้าไหนมีคิวอาร์โค้ดไทยชนะติดอยู่ แสดงว่ามีคุณภาพครบถ้วน ระหว่างร้านมีคิวอาร์โค้ด กับร้านที่ไม่มี ขอให้ไปร้านที่มีคิวอาร์โค้ดไว้ก่อน เพราะถูกจัดการหมดแล้ว แสดงถึงความพร้อมในการให้บริการ ส่วนร้านที่ไม่มีคิวอาร์โค้ด ซึ่งมีประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ ยังไม่พร้อมบริการใคร ต่อไปคิวอาร์โค้ดไทยชนะ จะเป็นโลโก้ด้านความปลอดภัยในการติด หรือไม่ติดโควิด-19