xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

อยู่อย่าง “สง่า” ลาสุด “อาลัย” “ตั้ว-ศรัณยู วงษ์กระจ่าง”

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -
เธอผู้เป็นพลังใจให้มวลชน เธอผู้กล้าฝ่าหนกลางฝนห่า
เธอผู้ถือธงธรรมนำประชา เธอคือดาวผ่องหล้านภาดิน
บนเวทีละคร ขจรจบ เจนจัดครบบทบาท ทุกศาสตร์ศิลป์
เวทีสื่อสารสื่อ ระบือระบิล ศิลปินหนึ่งนำเป็นตำนาน
กำกับโลกการแสดงก็แกร่งกล้า กำกับโลกโชคชะตาก็กล้าหาญ
ทั้งโลกจริงโลกแสดงแกร่งตระการ ให้ผู้คนกล่าวขานอยู่นานยาว
โอ้ว่าดวงดาวคล้อยมาลอยล่วง อัญเชิญดาวหยาดดวงคืนห้วงหาว
ไปส่องแสงศรัทธาในฟ้าพราว ให้ฟ้าฝากเฝ้าดาวคอยเฝ้าดู
ยืนหยัดชัดเจนเป็นศิลปิน ทั้งงานศิลป์สร้างสรรค์งานต่อสู้
กระจ่างชัดทัดทานต้านศัตรู ศรัณยู วงษ์กระจ่าง กระจ่างใจ


นั่นคือกวีนิพนธ์ชื่อ “ดาวศรัณยู” แสดงความอาลัยต่อการจากไปของ “ตั้ว-ศรัณยู วงษ์กระจ่าง” ที่ประพันธ์โดย “เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์” กวีซีไรต์และศิลปินแห่งชาติ ซึ่งสะท้อนถึงตัวตนและจิตวิญญาณของสุภาพบุรุษที่สุดในโลกผู้นี้ได้เป็นอย่างดี

การจากไปของ “ตั้ว-ศรัณยู” นับเป็นความสูญเสียที่จำต้องบันทึกเอาไว้เป็นประวัติศาสตร์ ด้วยเขามิได้เป็นแค่ “ดารา-นักแสดง” ซึ่งฝากฝีไม้ลายมือให้เป็นที่ยอมรับของแฟนานุแฟนเท่านั้น หากแต่เป็น “นักต่อสู้ทางการเมือง” ที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นเพื่อปรารถนาจะเห็นบ้านเมืองดำเนินไปในทิศทางที่ถูกที่ควร โดยมิได้หวั่นเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อตนเองและครอบครัวอย่างใด

เป็นตัวแทนของ “ภาคประชาชน” ที่ “รักชาติ-รักสถาบัน” มั่นคงดุจขุนเขาโดยที่มิได้มีผลประโยชน์แอบแฝง

เป็นตัวแทนของ “ภาคประชาชน” ที่สะอาดและบริสุทธิ์โดยไม่มีข้อสงสัย จนกล่าวได้ว่าเป็น “พระเอกนักสู้” เพื่อประเทศชาติ เพื่อประชาชนและเพื่อประชาธิปไตย ได้อย่างเต็มปากเต็มคำ

“ตั้ว-ศรัณยู” เป็นหนึ่งใน 100 บุคคลที่ร่วมก่อตั้งพรรคไทยรักไทยขึ้นในปี พ.ศ. 2541 และเป็นหนึ่งในกรรมการบริหารพรรคในระยะแรก ก่อนที่จะถอนตัวออกมาและได้เข้าร่วมเคลื่อนไหวกับ “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ในการต่อสู้เรียกร้องทางการเมือง และเป็นที่รักยิ่งของผู้เข้าร่วมชุมนุม จากนั้นก้าวขึ้นมาเป็นแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยรุ่นที่ 2 ในช่วงที่มีการชุมนุมขับไล่รัฐบาลของสมัคร สุนทรเวช และ สมชาย วงศ์สวัสดิ์

เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้ร่วมชุมนุม ณ ห้วงเวลานั้น จะมีภาพจำเขาในฐานะของศิลปินที่ขึ้นขับขานบทเพลง สร้างความครึกครื้นและผ่อนคลายให้แก่ผู้ชุมนุมทุกค่ำคืนได้เป็นอย่างดี

เขาเชื่อว่า อย่างน้อยบทเพลงเหล่านี้ก็น่าจะเป็นกำลังใจให้ผู้ชุมนุมได้ ยิ่งผู้ชุมนุมน้อย พลังในการต่อสู้ที่จะส่งเสียงไปยังคนเหล่านี้ที่ทำผิดก็ยิ่งน้อย และยิ่งการต่อสู้ยาวนาน ความเหนื่อยล้า การให้กำลังใจก็ยิ่งเป็นเรื่องจำเป็น

“สู่ฝันอันยิ่งใหญ่” บทเพลงสร้างชื่อให้เขาบนเวทีละคร เป็นเพลงแรกที่เขาใช้ประเดิมขึ้นบนเวทีการเมือง ทว่าเพลงที่มวลชนจำกันได้ดีก็คือ “ดูเธอทำ” ซึ่งเป็นเพลงดัดแปลงที่นำมาจากเพลง ของ จ็อบ บรรจบ และได้กลายเป็นหนึ่งในเพลงประจำเวที ที่สามารถเรียกให้ผู้ชุมนุมลุกขึ้นขยับแข้งขยับขา คลายความเมื่อยล้าจากการชุมนุมได้

“ตั้ว-ศรัณยู
” ต่อสู้ทางการเมืองด้วยความสุจริตใจ เป็นสิทธิ เป็นเสรีภาพ ที่เขาเลือกด้วยตัวเขาเอง และไม่สร้างความเกลียดชังให้เกิดขึ้นในสังคมเหมือนดังเช่น “ติ่งการเมือง” ที่สามารถพบเห็นได้เกลื่อนกลาดในทุกวันนี้


และแน่นอนว่า การต่อสู้ทางการเมืองของเขาย่อมส่งผลกระทบกับชีวิตและหน้าที่การงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะงานการแสดงและงานในวงการบันเทิงโดยถึงขั้นที่ถูกถอดออกจากการเป็นผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ของสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งที่ได้ทำมาเป็นเวลานาน แต่นั่นก็ไม่สามารถหยุดยั้งเขาได้ ในทางตรงกันข้ามกลับทำให้ “ตั้ว-ศรัณยู” เลือกเดินบนถนนการเมืองภาคประชาชนเต็มตัวมากยิ่งขึ้น

“ช่วงแรกเข้าร่วมในฐานะเป็นประชาชนธรรมดาคนหนึ่งที่มีความรู้สึกนึกคิดเหมือนกับผู้ที่ชุมนุม แต่เมื่อมีคนเห็นผมเข้าร่วมต่อสู้ด้วยก็ชวนขึ้นเวที ประกอบกับคิดว่าเมื่อร่วมชุมนุมแล้วจะผลักให้คนเหล่านั้นออกหน้า ขณะที่ตัวเองจะหลบอยู่ข้างหลังมันก็ไม่ใช่ ก็เลยขึ้นเวทีให้กำลังใจผู้ชุมนุม

“วันที่อยู่บนถนน ผมเข้าใจว่าทุกคนเป็นประชาชน ผมไม่ได้แยกว่าเป็นดารา ดังนั้นจึงไม่ได้มีการประเมินว่าทำอย่างนี้แล้วจะสุ่มเสี่ยงต่ออาชีพ คิดเพียงว่าพี่น้องอยู่ตรงนี้ เขาเสียสละ เราควรอยู่กับเขา ไม่ได้หวังการเคลื่อนไหวตรงนั้นเพื่อนำไปสู่ผลใดๆ ในภายภาคหน้า”

“ถ้าให้เลือกใหม่ผมก็ยังทำอย่างนี้ แต่ต้องย้ำว่าทั้งหมดที่ทำไม่ใช่การก้าวเข้ามาเป็นนักการเมือง เพราะยังจำสายตาของประชาชนที่ชุมนุมตรงนั้นได้ ผมต้องมั่นใจว่าผมไม่ได้เลือกผิด ในส่วนของวิชาชีพผมก็ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด”


นั่นคือสิ่งที่ “ตั้ว-ศรัณยู" เคยให้สัมภาษณ์ในรายการตอบโจทย์ของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสเมื่อเดือนกันยายนปี 2555 ถึงเหตุผลการเข้ามาในเวทีการเมืองภาคประชาชน

สำหรับเขาแล้ว ปัญหาบ้านเมืองนั้นอยู่เหนือความกลัว

และแน่นอนอีกเช่นกันว่า หลังเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองจบลง “ตั้ว-ศรัณยู” ก็มีชะตาชีวิตที่ไม่ต่างจากแกนนำผู้ชุมนุมคนอื่นไม่ว่าจะเป็นสีไหน เพราะต้องขึ้นศาลเพื่อสู้คดีที่เป็นผลมาจากการชุมนุมเป็นจำนวนมาก รวมถึงต้องถูก “ยึดทรัพย์” ซึ่งที่ผ่านมาเขาก็มิเคยปริปากบ่นเรื่องเหล่านี้ให้สังคมได้รับทราบ

“ผมไม่มาคิดหรอกว่า เหวจะอยู่ข้างหน้า หรือมีแม่น้ำมั้ย มันต้องก้าวข้ามไปให้ได้ก่อน ไม่คิดเยอะ เพราะสิ่งที่เป็นปัญหามันชัดเหลือเกิน คนที่ไม่ดีมันยังอยู่”

เป็นคำยืนยันว่า เขาจะต่อสู้จนถึงที่สุด จนกว่าความถูกต้องจะกลับคืนมา

ส่วนเรื่อง “ความเห็นต่างทางการเมือง” นั้น “ตั้ว-ศรัณยู” มีความชัดเจนว่า“ไม่ได้เกลียดชังคนเสื้อแดง เวลาเขาชุมนุมก็เห็นใจหลายๆ คนด้วยซ้ำ การไปอยู่ตรงนั้นไม่ใช่เรื่องสบาย มีความคิดแตกต่างกัน ก็อยู่กันคนละที่ละทางไม่ใช่เจอหน้ากันแล้วจะต้องไปฆ่าแกงกันตลอดเวลา สังคมต้องอยู่ร่วมกันได้ในความคิดต่างกันอยู่ร่วมกันได้ แต่ต้องเคารพกฎหมาย”

ขณะที่ถ้าหากกล่าวถึงความรักที่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น ก็ย่อมปรากฏชื่อ “ตั้ว-ศรัณยู” ยืนหยัดอยู่ในแถวหน้า ดังปรากฏภาพเขาและครอบครัวฝ่าสายฝนที่เทกระหน่ำลงมาไม่ขาดสายไปกราบถวายสักการะและถวายอาลัยเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร บริเวณริมกำแพงพระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2560




โดยในอินสตาแกรมของลูกสาว “น้องลูกหนัง ศรีตลา” ได้โพสต์ภาพดังกล่าว พร้อมกับเขียนแคปชั่นว่า “ครอบครัววงษ์กระจ่างกับสายฝนหน้าพระบรมมหาราชวัง #รักพ่อหลวงสุดหัวใจ”

เป็นภาพประวัติศาสตร์ที่สังคมประทับใจและชื่นชมในหัวใจอันภักดีของ “ตั้ว-ศรัณยูและครอบครัว” จนมีการแชร์ภาพไปในโลกออนไลน์เป็นจำนวนมาก

ณ วันนี้ แม้ “ตั้ว-ศรัณยู” จากไปแล้ว แต่เรื่องราวการต่อสู้และสิ่งที่เขาได้ทำมาตลอดชีวิตจะเป็นที่จดจำและอาลัยรักถึงอย่างมิเสื่อมคลาย

และกล่าวได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า “ตั้ว-ศรัณยู วงษ์กระจ่าง” คือ “นักแสดงผู้ยิ่งใหญ่บนเวที” และคือ “นักต่อสู้ภาคประชาชน” ที่กล้าและเสียสละลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อบ้านเมือง ซึ่งควรค่าต่อการน้อมศีรษะคารวะและบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์

ฝันอันสูงสุดและจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของเขาจักได้รับการสืบทอดตลอดไป เหมือนดังชื่อละครเวทีที่สร้างชื่อให้กับเขาคือ “สู่ฝันอันยิ่งใหญ่” หรือ Man of La Mancha

แผ่นดินนี้จะจดจารจารึกชื่อ “ศรัณยู วงษ์กระจ่าง” ไว้ตราบนานเท่านาน




กำลังโหลดความคิดเห็น