วางแผนล้ำลึกอยู่กินยาวเรอะ...?

"โสภณ องค์การณ์"

การระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสในประเทศไทยได้สร่างซา จนแทบไม่เหลือการติดเชื้อภายในประเทศ ที่ผ่านมามีแต่คนติดเชื้อจากกลุ่มซึ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศ ทำให้เห็นว่าสถานการณ์ดีขึ้น รวมยอดผู้เสียชีวิตก็มีน้อย เมื่อเทียบกับจำนวนประชากร

ทำให้โอกาสของรัฐบาลจะมุ่งทำงานเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจให้ได้รวดเร็วกว่าประเทศอื่นๆ และคณะรัฐมนตรีก็วาดฝันไว้ว่าเป็นความสำเร็จ ทำให้อยู่ยาวได้แน่

รัฐบาลคณะ 3 ลุงอาจจะอ้างเครดิตจากผลงานในการจัดการการติดเชื้อโควิด-19 ได้ แม้ในความเป็นจริงความแข็งแกร่งของระบบสาธารณสุขของไทยได้เป็นพลังสำคัญจนได้รับการยกย่องจากทั่วโลก ไม่ใช่ความบังเอิญหรือโชคช่วย

ขณะที่คนไทยเริ่มจะรู้สึกโล่งอกหายใจหายคอได้สะดวกหลังจากถูกมาตรการคุมเข้มปิดล็อกธุรกิจและกิจกรรมต่างๆ นานกว่าสองเดือน พรรคการเมืองแกนนำรัฐบาลได้ทำให้ความหวังของการฟื้นฟูเศรษฐกิจเป็นไปอย่างดีนั้นแทบไม่เหลือ

นักการเมืองจ้องหาผลประโยชน์จะไม่คำนึงถึงเรื่องอื่นใด นอกจากหาจังหวะเพื่อกอบโกยผลประโยชน์เพื่อชดเชยการลงทุนที่หาเสียง พวกกำไรหลายเท่าตัว ขึ้นอยู่กับว่าจะได้ตำแหน่งอะไร และมีเงื่อนไขต่อรองที่คนมีอำนาจเกรงใจหรือไม่

ทั้งหมดอยู่ภายไต้การขับเคลื่อนที่มีเชื้อโกงเป็นพลังหลักสำคัญอย่างยิ่ง

นั่นเป็นเพราะว่าเชื้อโรคร้าย โรคร้าย ไม่ว่าจะรุนแรงขนาดไหนก็สามารถถูกควบคุมและกำจัดได้ แต่ประเทศไทยเชื้อชั่วที่ไม่เคยตายอยู่ยังยืนยงมานานหลาย 10 ปีก็คือเชื้อโกงซึ่งบ่มเพาะการทุจริต คอร์รัปชั่น คู่กับการเมืองน้ำเน่าโดยตลอด
ทำให้เห็นซ้ำซากว่าคนในวงการเมืองยังหวังแต่ผลประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้องจากทรัพยากรแผ่นดิน ไม่เกรงอกเกรงใจชาวบ้าน ผู้เสียภาษีรับภาระแผ่นดิน

เชื้อโกงเป็นเชื้อชั่วที่ทุกรัฐบาลไม่สามารถกำจัดได้ แม้ได้ประกาศนโยบายอย่างขึงขังว่าจะปราบปรามการทุจริตอย่างไรก็ตาม และมีองค์กรสารพัดซึ่งได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่นี้ แต่ไม่ได้ผลว่าการโกงจะลดลงตามที่ประชาชนคาดหวัง
นั่นเป็นเพราะบุคคลที่ถูกแต่งตั้งมาสอบสวนส่วนใหญ่มาจากการเมืองและมาดูแลคนแต่งตั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ถูกตรวจสอบและฟ้องร้องในคดีอาญา

ความวุ่นวายจากการแย่งชิงอำนาจกันในพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารและเลือกหัวหน้าพรรคใหม่ ได้สะท้อนให้เห็นว่าพฤติกรรมของการแสวงหาผลประโยชน์จากทรัพยากรแผ่นดินยังไม่เลิกรา

ความพยายามแย่งอำนาจในพรรคนี้ได้เป็นมาตลอดในช่วงกว่า 1 เดือนหลังจากรัฐบาล 3 ลุงได้จัดตั้งงบรวม 1.9 ล้านล้านบาทเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและช่วยเหลือประชาชนที่ประสบความลำบาก คนตกงานและ คนขาดรายได้

นักการเมืองที่รู้จักกันในกลุ่มอยากมีอำนาจได้พยายามเคลื่อนไหวโดยตลอดแม้กระทั่งในช่วงที่การระบาดของโควิด-19 เพื่อหาทางเข้ามามีส่วนกุมอำนาจรัฐบาล

ยิ่งมีงบประมาณมหาศาลอย่างที่ไม่เคยจัดทำมา ก็จะเป็นลาภสักการะอันมิควรได้ หรือลาภลอยของนักการเมืองเสือหิว ก็ยิ่งทำให้การดิ้นรนให้ได้อำนาจควบคุมพรรคเป็นไปอย่างไม่ต้องอายแสดงเจตนาชัดว่าต้องการเข้ามาใช้เงินก้อนมหาศาล

และไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนส่วนรวมแน่นอน กลุ่มเสือหิวบอกว่านี่เป็นโอกาสจากวิกฤติของชาติซึ่งหาได้ยากยิ่ง ถ้าเป็นเงินก้อนใหญ่ซึ่งสร้างหนี้สินมหาศาล แต่ประชาชนไม่คัดค้านเพราะจะถูกใช้ไปเพื่อการแก้ไขปัญหาของประเทศ

ทันทีที่ร่างพระราชกำหนดผ่านสภา ความพยายามของกลุ่มอยากได้อำนาจและผลประโยชน์ก็ประสบผลสำเร็จ เหลือแต่ว่าขั้นตอนสุดท้ายคือการยึดอำนาจพรรคและผลักดันให้มีการปรับคณะรัฐมนตรีจะสำเร็จลุล่วงหรือไม่

ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความแรงในการกดดันผู้นำรัฐบาลว่าจะยอมโดยดีหรือไม่ ที่ผ่านมาประชาชนได้ฟังนายกฯ ลุงตู่ว่าจะยังไม่มีการปรับคณะรัฐมนตรี แต่นั่นก็เป็นเพียงช่วงที่พูดอยู่ ไม่มีใครรับประกันว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงในช่วง 1 หรือ 2 เดือนนี้

ไม่มีใครรู้ชัดถึงเจตนาที่แท้จริงของคณะ 3 ลุงว่าทำอะไร มีแผน มีผลอย่างไรต่อความอยู่รอดของกลุ่มตัวเองบนฐานอำนาจซึ่งถูกมองว่ามีความพยายามจะสืบทอดต่อเนื่อง จนมั่นใจว่าเมื่อถึงวาระที่ต้องลงจากหลังเสือแล้วจะไม่มีปัญหา

เริ่มมีข่าวปล่อยหรือจะเป็นความจริงหรือไม่ ต้องรอให้การเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ นั่นก็คือสภาวะที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ล้วนเป็นการกระทำเพื่อให้ฐานอำนาจของคณะ 3 ลุงมั่นคงอยู่อีกนาน โดยแบ่งบทกันเล่น โดยที่ประชาชนทั่วไปมองไม่ออก

ส่วนหนึ่งถูกทำให้คิดว่าเป็นความขัดแย้งกันในคณะ 3 พี่น้องพยัคฆ์บูรพา

มีคนมองอีกว่าเป็นการแบ่งบทกันเล่น คือลุงป้อม พี่ใหญ่คุมพรรคการเมืองและประสานกับพรรคอื่นๆ โดยที่หัวหน้ารัฐบาลยังคงเป็นลุงตู่เหมือนเดิม และลุงป้อมจะเป็นผู้ดูแลด้านความมั่นคง คือหน่วยงานภายใต้กระทรวงมหาดไทย

นักการเมืองซึ่งเป็นฐานของรัฐบาลก็จะมีรายการจ่ายรับ การจัดสรรปันส่วนผลประโยชน์จนเป็นที่พอใจ ไม่ส่งเสียงรบกวน เพราะมีทั้งอำนาจ อิทธิพลเงินคุม

สรุปก็คือ ผลประโยชน์ของบ้านเมืองเป็นเพียงผลพลอยได้ เพราะยังเป็นเรื่องจำเป็น การขับเคลื่อนที่ว่านี้ ถ้าเป็นจริง ต้องรอดูว่าคณะรัฐมนตรีที่จะถูกปรับตามฐานอำนาจใหม่จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร ดูแล้วน่าจะมีกลุ่มยอดยี้มากกว่าเดิมเยอะ

ขณะที่ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว ออกอาการหิวโหยน้ำลายย้อยถึงไต้คาง ชาวบ้านเห็นเป็นกลุ่มโหงวเฮ้งโจร ยิ่งทำให้รู้สึกว่าบ้านเมืองคงไม่มีอนาคต ถ้ากลุ่มผู้กุมอำนาจเชื่อมั่นว่าคณะยี้จะอยู่ได้ยั่งยืน ก็ต้องรอกับการทดสอบอารมณ์ของประชาชน

ถ้าแก้ไขปัญหาปากท้อง เศรษฐกิจของชาติไม่สำเร็จ แถมยังมีโกงกินหนักๆ เหมือนเดิม อำนาจแข็งแกร่งแค่ไหนก็เอาไม่อยู่ ดูการลุกฮือในสหรัฐฯ เป็นตัวอย่างได้

คนผิวดำตาย 1 ราย ยังจลาจลทั่วประเทศ คนไทยคงไม่ฆ่าตัวตายครึ่งค่อนประเทศ และยอมให้พวกโหงวเฮ้งโจรเสวยสุขกับทรัพย์สินแผ่นดินจนบ้านเมืองล่มจมเป็นแน่