ผู้จัดการรายวัน360-“อุตตม-สนธิรัตน์”ย้ำการเปลี่ยนแปลงภายในพรรค พปชร. ต้องฟังเสียง ส.ส. ที่จะให้พรรคเดินไปในทิศทางไหน ลั่นเวลานี้เป็นเรื่องของการแก้ปัญหาให้ประชาชนและภาคธุรกิจสู้วิกฤตโควิด-19 หลังเจอเกมบีบพ้นเก้าอี้หัวหน้าและเลขาธิการพรรค จากกรณี 18 กก.บห.ไขก๊อก “บิ๊กตู่”ลั่นไม่มีปรับ ครม.แน่นอน "บิ๊กป้อม"ไม่รู้ ไม่เห็น ยิ้มแทนคำตอบ นั่งหัวหน้าพรรคหรือไม่ "ธรรมนัส"มึน "วิรัช"เรียกประชุมส.ส.เพื่ออะไร “สิระ”จ่อชงชื่อ “บิ๊กป้อม” เป็นหัวหน้า “อนุชา” เลขาธิการพรรค
นายนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยถึงกรณีการลาออกของกรรมการบริหารพรรค 18 คน ว่า การตัดสินใจลาออกกระทำได้ เพราะเป็นไปตามกระบวนการทางการเมืองภายในพรรค แต่ยืนยันการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่จะเกิดขึ้น ควรต้องมาจาก ส.ส. ที่ตัดสินใจว่าจะให้พรรคเดินไปในทิศทางไหน ไม่ใช่กรรมการบริหารพรรค
“มองว่า ยังไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดเรื่องตัวบุคคล วันนี้น่าจะเป็นเวลาที่ทำงานเพื่อคนไทย เพื่อประเทศไทยมากกว่า เพราะพรรคเพิ่งผ่านกฎหมายสำคัญ พรรคมีหน้าที่ต้องสนับสนุนนายกรัฐมนตรี เดินหน้าประเทศไทย มากกว่าทำการเมือง”นายอุตตมกล่าว
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงภายในพรรค ไม่จำเป็นต้องให้กรรมการบริหารพรรคต้องลาออก แต่การเปลี่ยนแปลงควรเกิดขึ้นในที่ประชุมใหญ่ของพรรค และอยู่ในกรอบของระบอบประชาธิปไตย ต้องฟังเสียง ส.ส. และพรรคเองก็เป็นสถาบัน ต้องทำให้ประชาชนเห็นว่าพรรคเดินหน้าไปในทิศทางที่เป็นประชาธิปไตย
“การเปลี่ยนแปลง ไม่น่าเกิดขึ้นในเวลานี้ ในเวลาที่นายกรัฐมนตรี บอกให้หยุดปัญหาทางการเมืองเอาไว้ก่อน ในเวลาที่ประเทศเผชิญปัญหาสถานการณ์โควิด-19 เพราะหลังโควิด-19 ประเทศยังต้องเผชิญกับสถานการณ์เลวร้าย ภาคธุรกิจจะเผชิญปัญหาใหญ่ ประชาชนจะตกงาน สำคัญที่สุดตอนนี้ไม่ใช่เวลาของการเมือง แต่มีคนบางกลุ่มต้องการเล่นการเมือง เพื่อผลประโยชน์ใคร”นายสนธิรัตน์กล่าว
”สมศักดิ์”ปูดจะมีข่าวใหญ่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่นายอุตตม และนายสนธิรัตน์ จะออกมาชี้แจงถึงกรณีกก.บห.พรรค จำนวน 18 คนลาออก ในช่วงเช้านายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะกรรมการบริหารพรรค พปชร. ได้ให้สัมภาษณ์ว่า จะมีข่าวใหญ่ ขอให้ติดตามดู ในส่วนของคณะกรรมการบริหารพรรค ก็คงมีเรื่องของการปรับเปลี่ยนกรรมการบริหาร และคงได้เห็นในช่วงบ่ายขอให้ติดตามดู
”ไพบูลย์”รับลูกแจ้ง 18 กก.บห.ลาออก
นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค พปชร. ได้แถลงในช่วงบ่ายว่า กรรมการบริหารพรรคได้ลาออกแล้ว 18 คน ตามข้อบังคับพรรค เมื่อกก.บห. ลาออกเกินกึ่งหนึ่ง ทำให้นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค และกก.บห.พรรค สิ้นสุดทั้งคณะ
สำหรับกก.บห.พรรคพปชร. ที่ลาออกจำนวน 18 คน ประกอบด้วย 1.นายสันติ พร้อมพัฒน์ 2.นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ 3.นายสุพล ฟองงาม 4.ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า 5.นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ 6.นายไผ่ ลิกค์
7.นายนิโรธ สุนทรเลขา 8.นายสัมพันธ์ มะยูโซ้ะ 9.นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ 10.นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ 11.นายชาญวิทย์ วิภูศิริ 12.นายสกลธี ภัททิยกุล 13.นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ 14.นายสุรชาติ ศรีบุศกร 15.นายนิพันธ์ ศิริธร 16.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ 17.นายสมศักดิ์ เทพสุทิน 18.นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ
”บิ๊กตู่”ลั่นไม่มีการปรับ ครม.
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังการลาออกของ กก.บห. พรรค พปชร. ทำให้มีการปรับเปลี่ยน กก.บห. พรรคใหม่ว่า ก็เป็นเรื่องของพรรคไม่ใช่หรือ ซึ่งก็ต้องมีการเลือกกันใหม่ ส่วนจะต้องมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เลยหรือไม่นั้น ไม่เกี่ยวกับผมสักอัน เป็นเรื่องของพรรคการเมือง ซึ่งผมจะพิจารณาเรื่องการปรับ ครม. ด้วยตนเอง แต่ถึงวาระจำเป็นที่ต้องปรับหรือยัง เป็นเรื่องของผม ตอนนี้ยังไม่มี ยังไม่ตอบ ยังไม่ถึงเวลาที่ผมจะคิดเรื่องนี้ เข้าใจไหม พูดหลายทีแล้วไม่ใช่หรือ วันนี้ประชาชนเดือดร้อนอยู่มากมายมหาศาล และเป็นธรรมดาของพรรคเขาที่จะมีการปรับคณะกรรมการบริหารพรรค ก็เรื่องของเขา เป็นเรื่องของพรรคพลังประชารัฐ
"ก็เห็นหลายพรรคเขาก็ปรับกรรมการบริหารพรรคมาตลอด ครั้งนี้ก็อย่าลืมว่าเขาจัดตั้งมาก่อนเลือกตั้ง มันก็นานพอสมควรแล้ว ก็เป็นเรื่องของเขาที่จะพิจารณาต่างๆ อย่าเอาผมไปเกี่ยวเลย ผมไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค เป็นเรื่องของพรรค ไม่เกี่ยวกับเรื่องครม." นายกฯ กล่าว
”บิ๊กป้อม”ไม่รู้ไม่เห็นใช้ยิ้มแทนคำตอบ
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรค พปชร. ก็ปฏิเสธที่จะตอบคำถามถึงปัญหาภายในพรรคเช่นกัน โดยกล่าวเพียงว่า เป็นเรื่องภายในพรรค ไม่จำเป็นต้องเคลียร์ เพราะพรรคกลมเกลียวกันอยู่แล้ว ส่วนกรณีที่พรรคจะมีมติเลือกตนเองเป็นหัวหน้าพรรค ไม่รู้ ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค ไม่รู้เรื่อง และไม่รู้ว่ามีการเคลื่อนไหวมาก่อน
เมื่อถามว่าถ้ามีการเสนอให้ท่านเป็นหัวหน้าพรรค จะไม่ปฏิเสธใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ไม่ได้ตอบคำถาม เพียงหันมายิ้ม และขึ้นรถออกไปทันที
”ธรรมนัส”มึน“วิรัช”เรียกประชุมส.ส.เพื่ออะไร
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวชี้แจงว่า กรณีแกนนำส.ส.ในพรรค พปชร. มีการจัดประชุม 2 วง หารือที่อาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 31 พ.ค.2563 จนถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นศึกภายใน และเป็นการประลองกำลังระหว่าง 2 ขั้วภายในพรรค ว่า ไม่เป็นความจริง ตนเพียงชวนเพื่อน ส.ส. ประมาณ 50-60 คน มาหารือถึงแนวทางการช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะเกษตรกร ส่วนกรณีที่นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาลเรียกประชุม ส.ส. ต้องถามว่าเรียกประชุมเพื่ออะไร เพราะการเรียกประชุมพรรค ควรดำเนินการโดยใช้ระบบพรรค ยืนยันว่าไม่ได้อยากประลองกำลังกับใคร มีแต่คนอื่นอยากมาประลองกำลัง จริงๆ ส.ส. เขาไม่ตกเป็นเครื่องมือใคร มีแต่ ส.ส.บ้าๆ บอๆ ที่ไร้สาระ ที่ทำแบบนี้
คนใกล้ชิดยัน “ธรรมนัส” ไม่ได้ไขก๊อก
แหล่งข่าวผู้ใกล้ชิด ร.อ.ธรรมนัส ที่มีชื่อเป็น 1 ใน 18 รายชื่อของกก.บห.ที่ยื่นใบลาออก แจ้งว่า ร.อ.ธรรมนัส ไม่รู้เรื่องมาก่อน และไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่เคลื่อนไหวให้มีการปรับโครงสร้างกรรมการบริหารพรรคด้วย เนื่องจากพล.อ.ประยุทธ์ ขอให้หยุดเคลื่อนไหวทางการเมือง เพื่อเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศหลังเจอวิกฤตโควิด-19 ส่วนส.ส.ที่ใกล้ชิดประมาณ 60 คน ก็ไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆ และไม่เห็นด้วยที่แกนนำพรรคบางส่วนออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง เพราะประชาชนจะมองว่าพรรคมาเล่นการเมืองในช่วงบ้านเมืองวิกฤต ซึ่งกระทบต่อภาพลักษณ์ของพรรคและกระทบไปถึงรัฐบาลด้วย
”วิรัช”โต้ไม่ได้คิดวัดพลังกับใคร
นายวิรัชกล่าวว่า ความขัดแย้งภายในพรรคพปชร. เชื่อว่าถึงเวลาสามารถพูดคุยกันได้ และตนก็ไม่เคยคิดวัดพลังกับใคร เพียงแต่ปฏิบัติตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น ส่วนจะมีการเปลี่ยนตัวผู้บริหารพรรคหรือไม่นั้น ต้องรอดูผลประชุมใหญ่ แต่ในขณะนี้ยังไม่มีกำหนดว่าจะประชุมใหญ่เมื่อไร
”สิระ”ชง “บิ๊กป้อม”หัวหน้า “อนุชา”เลขาฯ
นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พลังประชารัฐ กล่าวว่า เมื่อกกต. ประกาศอย่างเป็นทางการ ก็จะเข้าสู่กระบวนการเลือกกก.บห.พรรคชุดใหม่ ตนจะเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร เป็นหัวหน้าพรรค และนายอนุชา นาคาศัย เป็นเลขาธิการพรรค ซึ่งเป็นความเห็นส่วนตัว และเชื่อว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับ ครม. เพื่อให้ได้คนที่เหมาะสมมาทำงาน แต่ก็ขึ้นอยู่กับนายกฯ จะเป็นผู้ตัดสินใจ
นายนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยถึงกรณีการลาออกของกรรมการบริหารพรรค 18 คน ว่า การตัดสินใจลาออกกระทำได้ เพราะเป็นไปตามกระบวนการทางการเมืองภายในพรรค แต่ยืนยันการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่จะเกิดขึ้น ควรต้องมาจาก ส.ส. ที่ตัดสินใจว่าจะให้พรรคเดินไปในทิศทางไหน ไม่ใช่กรรมการบริหารพรรค
“มองว่า ยังไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดเรื่องตัวบุคคล วันนี้น่าจะเป็นเวลาที่ทำงานเพื่อคนไทย เพื่อประเทศไทยมากกว่า เพราะพรรคเพิ่งผ่านกฎหมายสำคัญ พรรคมีหน้าที่ต้องสนับสนุนนายกรัฐมนตรี เดินหน้าประเทศไทย มากกว่าทำการเมือง”นายอุตตมกล่าว
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงภายในพรรค ไม่จำเป็นต้องให้กรรมการบริหารพรรคต้องลาออก แต่การเปลี่ยนแปลงควรเกิดขึ้นในที่ประชุมใหญ่ของพรรค และอยู่ในกรอบของระบอบประชาธิปไตย ต้องฟังเสียง ส.ส. และพรรคเองก็เป็นสถาบัน ต้องทำให้ประชาชนเห็นว่าพรรคเดินหน้าไปในทิศทางที่เป็นประชาธิปไตย
“การเปลี่ยนแปลง ไม่น่าเกิดขึ้นในเวลานี้ ในเวลาที่นายกรัฐมนตรี บอกให้หยุดปัญหาทางการเมืองเอาไว้ก่อน ในเวลาที่ประเทศเผชิญปัญหาสถานการณ์โควิด-19 เพราะหลังโควิด-19 ประเทศยังต้องเผชิญกับสถานการณ์เลวร้าย ภาคธุรกิจจะเผชิญปัญหาใหญ่ ประชาชนจะตกงาน สำคัญที่สุดตอนนี้ไม่ใช่เวลาของการเมือง แต่มีคนบางกลุ่มต้องการเล่นการเมือง เพื่อผลประโยชน์ใคร”นายสนธิรัตน์กล่าว
”สมศักดิ์”ปูดจะมีข่าวใหญ่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่นายอุตตม และนายสนธิรัตน์ จะออกมาชี้แจงถึงกรณีกก.บห.พรรค จำนวน 18 คนลาออก ในช่วงเช้านายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะกรรมการบริหารพรรค พปชร. ได้ให้สัมภาษณ์ว่า จะมีข่าวใหญ่ ขอให้ติดตามดู ในส่วนของคณะกรรมการบริหารพรรค ก็คงมีเรื่องของการปรับเปลี่ยนกรรมการบริหาร และคงได้เห็นในช่วงบ่ายขอให้ติดตามดู
”ไพบูลย์”รับลูกแจ้ง 18 กก.บห.ลาออก
นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค พปชร. ได้แถลงในช่วงบ่ายว่า กรรมการบริหารพรรคได้ลาออกแล้ว 18 คน ตามข้อบังคับพรรค เมื่อกก.บห. ลาออกเกินกึ่งหนึ่ง ทำให้นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค และกก.บห.พรรค สิ้นสุดทั้งคณะ
สำหรับกก.บห.พรรคพปชร. ที่ลาออกจำนวน 18 คน ประกอบด้วย 1.นายสันติ พร้อมพัฒน์ 2.นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ 3.นายสุพล ฟองงาม 4.ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า 5.นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ 6.นายไผ่ ลิกค์
7.นายนิโรธ สุนทรเลขา 8.นายสัมพันธ์ มะยูโซ้ะ 9.นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ 10.นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ 11.นายชาญวิทย์ วิภูศิริ 12.นายสกลธี ภัททิยกุล 13.นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ 14.นายสุรชาติ ศรีบุศกร 15.นายนิพันธ์ ศิริธร 16.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ 17.นายสมศักดิ์ เทพสุทิน 18.นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ
”บิ๊กตู่”ลั่นไม่มีการปรับ ครม.
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังการลาออกของ กก.บห. พรรค พปชร. ทำให้มีการปรับเปลี่ยน กก.บห. พรรคใหม่ว่า ก็เป็นเรื่องของพรรคไม่ใช่หรือ ซึ่งก็ต้องมีการเลือกกันใหม่ ส่วนจะต้องมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เลยหรือไม่นั้น ไม่เกี่ยวกับผมสักอัน เป็นเรื่องของพรรคการเมือง ซึ่งผมจะพิจารณาเรื่องการปรับ ครม. ด้วยตนเอง แต่ถึงวาระจำเป็นที่ต้องปรับหรือยัง เป็นเรื่องของผม ตอนนี้ยังไม่มี ยังไม่ตอบ ยังไม่ถึงเวลาที่ผมจะคิดเรื่องนี้ เข้าใจไหม พูดหลายทีแล้วไม่ใช่หรือ วันนี้ประชาชนเดือดร้อนอยู่มากมายมหาศาล และเป็นธรรมดาของพรรคเขาที่จะมีการปรับคณะกรรมการบริหารพรรค ก็เรื่องของเขา เป็นเรื่องของพรรคพลังประชารัฐ
"ก็เห็นหลายพรรคเขาก็ปรับกรรมการบริหารพรรคมาตลอด ครั้งนี้ก็อย่าลืมว่าเขาจัดตั้งมาก่อนเลือกตั้ง มันก็นานพอสมควรแล้ว ก็เป็นเรื่องของเขาที่จะพิจารณาต่างๆ อย่าเอาผมไปเกี่ยวเลย ผมไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค เป็นเรื่องของพรรค ไม่เกี่ยวกับเรื่องครม." นายกฯ กล่าว
”บิ๊กป้อม”ไม่รู้ไม่เห็นใช้ยิ้มแทนคำตอบ
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรค พปชร. ก็ปฏิเสธที่จะตอบคำถามถึงปัญหาภายในพรรคเช่นกัน โดยกล่าวเพียงว่า เป็นเรื่องภายในพรรค ไม่จำเป็นต้องเคลียร์ เพราะพรรคกลมเกลียวกันอยู่แล้ว ส่วนกรณีที่พรรคจะมีมติเลือกตนเองเป็นหัวหน้าพรรค ไม่รู้ ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค ไม่รู้เรื่อง และไม่รู้ว่ามีการเคลื่อนไหวมาก่อน
เมื่อถามว่าถ้ามีการเสนอให้ท่านเป็นหัวหน้าพรรค จะไม่ปฏิเสธใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ไม่ได้ตอบคำถาม เพียงหันมายิ้ม และขึ้นรถออกไปทันที
”ธรรมนัส”มึน“วิรัช”เรียกประชุมส.ส.เพื่ออะไร
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวชี้แจงว่า กรณีแกนนำส.ส.ในพรรค พปชร. มีการจัดประชุม 2 วง หารือที่อาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 31 พ.ค.2563 จนถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นศึกภายใน และเป็นการประลองกำลังระหว่าง 2 ขั้วภายในพรรค ว่า ไม่เป็นความจริง ตนเพียงชวนเพื่อน ส.ส. ประมาณ 50-60 คน มาหารือถึงแนวทางการช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะเกษตรกร ส่วนกรณีที่นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาลเรียกประชุม ส.ส. ต้องถามว่าเรียกประชุมเพื่ออะไร เพราะการเรียกประชุมพรรค ควรดำเนินการโดยใช้ระบบพรรค ยืนยันว่าไม่ได้อยากประลองกำลังกับใคร มีแต่คนอื่นอยากมาประลองกำลัง จริงๆ ส.ส. เขาไม่ตกเป็นเครื่องมือใคร มีแต่ ส.ส.บ้าๆ บอๆ ที่ไร้สาระ ที่ทำแบบนี้
คนใกล้ชิดยัน “ธรรมนัส” ไม่ได้ไขก๊อก
แหล่งข่าวผู้ใกล้ชิด ร.อ.ธรรมนัส ที่มีชื่อเป็น 1 ใน 18 รายชื่อของกก.บห.ที่ยื่นใบลาออก แจ้งว่า ร.อ.ธรรมนัส ไม่รู้เรื่องมาก่อน และไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่เคลื่อนไหวให้มีการปรับโครงสร้างกรรมการบริหารพรรคด้วย เนื่องจากพล.อ.ประยุทธ์ ขอให้หยุดเคลื่อนไหวทางการเมือง เพื่อเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศหลังเจอวิกฤตโควิด-19 ส่วนส.ส.ที่ใกล้ชิดประมาณ 60 คน ก็ไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆ และไม่เห็นด้วยที่แกนนำพรรคบางส่วนออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง เพราะประชาชนจะมองว่าพรรคมาเล่นการเมืองในช่วงบ้านเมืองวิกฤต ซึ่งกระทบต่อภาพลักษณ์ของพรรคและกระทบไปถึงรัฐบาลด้วย
”วิรัช”โต้ไม่ได้คิดวัดพลังกับใคร
นายวิรัชกล่าวว่า ความขัดแย้งภายในพรรคพปชร. เชื่อว่าถึงเวลาสามารถพูดคุยกันได้ และตนก็ไม่เคยคิดวัดพลังกับใคร เพียงแต่ปฏิบัติตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น ส่วนจะมีการเปลี่ยนตัวผู้บริหารพรรคหรือไม่นั้น ต้องรอดูผลประชุมใหญ่ แต่ในขณะนี้ยังไม่มีกำหนดว่าจะประชุมใหญ่เมื่อไร
”สิระ”ชง “บิ๊กป้อม”หัวหน้า “อนุชา”เลขาฯ
นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พลังประชารัฐ กล่าวว่า เมื่อกกต. ประกาศอย่างเป็นทางการ ก็จะเข้าสู่กระบวนการเลือกกก.บห.พรรคชุดใหม่ ตนจะเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร เป็นหัวหน้าพรรค และนายอนุชา นาคาศัย เป็นเลขาธิการพรรค ซึ่งเป็นความเห็นส่วนตัว และเชื่อว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับ ครม. เพื่อให้ได้คนที่เหมาะสมมาทำงาน แต่ก็ขึ้นอยู่กับนายกฯ จะเป็นผู้ตัดสินใจ
