ผู้จัดการรายวัน360-ศบค.รายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 1 ราย กลับจากรัสเซีย ส่วนในประเทศติดเชื้อเป็นศูนย์มา 7 วันแล้ว แต่ยังวางใจไม่ได้ ต้องไม่มีติดเชื้อ 2-3 สัปดาห์ ย้ำยังห้ามนวดหน้า เหตุเสี่ยงสูง ยันคลายล็อกเฟส 3 และ 4 ถ้าทำได้ดี มองเห็นอนาคตร่วมกัน อาจได้วันหยุดชดเชยสงกรานต์ในเดือนก.ค. แจงไปเที่ยวญี่ปุ่น กลับมาต้องกักตัว 14 วัน กทม.สั่งปิด 16 สถานที่เสี่ยงยาวถึง 30 มิ.ย. สธ.ระบุเฟส 4 ยังไม่ควรคลายล็อกสถานบันเทิง
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงข่าวประจำวันว่า วานนี้ (1 มิ.ย.) เป็นวันแรกของการผ่อนคลายระยะที่ 3 มีผู้ป่วยรายใหม่จำนวน 1 ราย กลับบ้านเพิ่ม 2 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต ส่งผลให้ผู้ป่วยรวม 3,082 ราย กลับบ้านรวม 2,965 ราย เสียชีวิตรวม 57 ราย และยังรักษาใน รพ. 60 ราย โดยผู้ป่วยรายใหม่เป็นเพศหญิงอายุ 43 ปี เดินทางกลับมาจากประเทศรัสเซีย เข้าสถานกักกันของรัฐ จ.ชลบุรี ตรวจเชื้อครั้งแรกวันที่ 24 พ.ค. ไม่พบเชื้อ และตรวจครั้งที่ 2 วันที่ 31 พ.ค. จึงพบเชื้อ โดยไม่มีอาการใดๆ และให้เข้ารับการรักษาที่ รพ.ใน จ.ชลบุรี
ทั้งนี้ ในรอบ 7 วัน ที่พบผู้ติดเชื้อ เป็นคนกลับมาจากต่างประเทศ และอยู่ในสถานที่กักกันเกือบทั้งสิ้น ไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศ แต่ยังไม่น่าไว้วางใจ ต้องไม่พบอย่างน้อย 2-3 สัปดาห์ ซึ่งต้องรอดูการผ่อนปรนระยะที่ 3 ที่เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ที่มีการผ่อนคลายกิจการที่มีความเสี่ยงปานกลางกับสูง และขอย้ำ 5 มาตรการยังต้องคงอยู่ คือ สวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง ทำความสะอาด ไม่แออัด
ห้ามนวดหน้า หวั่นเป็นแหล่งแพร่เชื้อ
นพ.ทวีศิลป์กล่าวถึงกรณีร้านนวดยังห้ามทำบริเวณใบหน้า แต่สถานเสริมความงามสามารถให้บริการได้ ว่า เป็นความห่วงใยของทีม ศบค. โดยสาธารณสุขให้หลักการขึ้นมา เนื่องจากโรคนี้แพร่ระบาดทางช่องทางเดินหายใจ คือ ปากและจมูก และเป็นช่องทางการรับเชื้อด้วย ขณะที่ทักษะป้องกันส่วนบุคคล สถานเวชกรรม บุคลากรทางการแพทย์ วิธีการให้บริการต่างๆ จะมีขั้นตอนถูกฝึกอบรมมา ก็ค่อนข้างมั่นใจในระบบตรงนี้ แต่เรื่องของการนวดมีหลายระดับ เกี่ยวโยงกับชุดพฤติกรรมสัมผัสใกล้ชิด ใช้เวลาค่อนข้างนาน ความเสี่ยงสูงมาก หลายกรณีผู้ทำอาชีพนี้ในต่างประเทศ กลับมาก็พบเชื้อ จึงเป็นความห่วงใย จึงกำหนดตรงนี้ขึ้นมา เพื่อดูแลท่านและป้องกันการติดเชื้อ เพราะท่านต้องใช้มือสัมผัสแถวใบหน้าก็มีเชื้อโรคอยู่ ถ้าจะทำมีแต่ความเสี่ยง จึงเป็นขอกำหนดไว้ว่าอย่าเพิ่งทำเลย ก็เป็นข้อห่วงใย
แย้มชดเชยวันหยุดสงกรานต์เดือนก.ค.
เมื่อถามถึงกรณีวันหยุดสงกรานต์ที่จะให้ภายหลังในเดือนก.ค.2563 เหมาะสมหรือไม่ที่จะท่องเที่ยว กลับภูมิลำเนา นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า เรื่องของช่วงเวลาในอนาคตถูกกำหนดโดยปัจจุบัน ช่วง ก.ค.จะมีหรือไม่มีพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็เกิดจากมาตรการผ่อนคลายระยะ 3 และ 4 ที่จะเกิดในมิ.ย.นี้ ถ้าเราผ่านการระบาดไปได้อย่างดี ทุกคนพร้อมใจกัน การ์ดไม่ตก ก็จะมีอนาคตร่วมกัน คือ ไม่มี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีวันหยุดเพิ่มเติม ไม่มีเชื้อในประเทศ นี่คือความหวังความฝันที่จะทำร่วมกัน ซึ่งต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้ วินาทีนี้ เพราะขณะนี้หลายคนก็เริ่มบอกว่ามีการใส่หน้ากากอนามัย หน้ากากผ้า น้อยลง ทำความสะอาดพื้นผิวน้อยลงอย่างชัดเจน นี่คือความเสี่ยงที่จะติดโรค
ญี่ปุ่นเปิดให้ไปได้ แต่กลับมาต้องกัก 14 วัน
นพ.ทวีศิลป์กล่าวถึงกรณีญี่ปุ่นเตรียมไฟเขียวให้คนไทยเข้าประเทศได้ว่า มีรายงานข่าว 4 ประเทศที่ญี่ปุ่นจะให้เข้าประเทศได้ คือ ไทย เวียดนาม ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ โดยอาจจะมีผลในเดือนมิ.ย.2563 ซึ่งอยากขอย้ำว่าหากเดินทางไปยังญี่ปุ่น ไม่ว่าจะไปเที่ยวหรือทำธุระ การเดินทางกลับเข้ามายังประเทศไทย ยังมีกฎของเราอยู่ คือ 14 วัน ต้องอยู่ในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ ถึงแม้เขาจะเปิดประเทศ ก็จะมีความยุ่งยากในการเข้าประเทศอยู่
ส่วนการนำคนไทยกลับประเทศ ยังมีอยู่ทุกวัน และกำลังจะเพิ่มโควตาจาก 300-400 คน เป็น 500 คน เพื่อนำคนไทยกลับมาและจบงานทุกอย่างภายในเดือนมิ.ย.2563
กทม.สั่งปิด 16 สถานที่เสี่ยงถึง 30 มิ.ย.
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ลงนามในประกาศ กทม. เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราวฉบับที่ 10 โดยกำหนดปิดสถานที่เสี่ยง 16 สถานที่จนถึงวันที่ 30 มิ.ย.2563 ได้แก่ 1.สถานบริการ ผับ บาร์ สถานบันเทิง และสถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการ 2.สวนน้ำสวนสนุก 3.สนามเด็กเล่น เครื่องเล่นสำหรับเด็กในตลาด ตลาดน้ำและตลาดนัด 4.โต๊ะสนุกเกอร์บิลเลียด 5.สถานที่เล่นตู้เกม 6.ร้านเกมส์ร้านอินเทอร์เน็ต 7.สนามชนไก่และสนามซ้อมชนไก่ 8.สถานรับเลี้ยงเด็ก หรือสถานดูแลผู้สูงอายุ (ยกเว้นที่มีการรับตัวไว้พักค้างคืนเป็นปกติธุระ) 9.สนามมวย 10.โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ (ยิม) 11.สนามม้า 12.สถานประกอบกิจการอาบน้ำ 13.สถานประกอบกิจการอาบอบนวด 14.สนามแข่งขันทุกประเภท 15.สถานที่ให้บริการห้องจัดเลี้ยงสถานที่จัดเลี้ยงรวมถึงสถานที่อื่นใดที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน 16.สนามชนโคสนามกัดปลาหรือสนามแข่งขันอื่นในลักษณะทำนองเดียวกัน
ทั้งนี้ หากฝ่าฝืน มีความผิดตามมาตรา 25 แห่งพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพ.ร.บ.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนสถานที่ที่ให้เปิดแล้ว หากฝ่าฝืนไม่มีมาตรการป้องกัน จะถูกสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว
เปิดโรงเรียนก่อนเปิดสถานบันเทิง
นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า มีการหารือในทีมที่ปรึกษาว่าโรงเรียนต้องได้เปิดก่อนสถานบันเทิง เพราะหากเปิดสถานบันเทิงก่อนแล้วมีผู้ป่วยกลับมา โรงเรียนก็คงไม่ได้เปิด จึงเสนอไปว่าสถานบันเทิงควรไปรอหลังเปิดโรงเรียน ซึ่งจะเปิดเทอมวันที่ 1 ก.ค.2563 แต่ก็มีโอกาสที่เปิดโรงเรียนแล้วจะมีการกลับมาระบาดใหม่ เพราะยังไม่มีหลักฐานการระบาดในโรงเรียนเป็นอย่างไร เพราะทั่วโลกปิดโรงเรียนกันหมด จะมีเปิดบ้างอย่างฝรั่งเศส แต่ก็ยังไม่ชัดเจน ส่วนกลุ่มที่กังวลมากที่สุด หากเปิดเทอม คือ กลุ่มนักศึกษา เพราะเป็นช่วงวัยที่มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การสังสรรค์ การคลุกคลีในหอพัก
นอกจากนี้ ยังเสนออีกว่า โรงเรียนห่างไกล มีนักเรียนจำนวนน้อย 20-30 คนต่อโรงเรียน หรือไม่เกิน 100 คน มีพื้นที่และห้องกว้างขวาง นั่งเรียนกันได้อย่างสบาย อากาศโปร่งโล่ง เพราะไม่มีแอร์ ถ้ามีความพร้อมอาจลองทยอยเปิดก่อนวันที่ 1 ก.ค.2563 ได้ ซึ่งได้เสนอกับทางกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ไปแล้ว ส่วนโรงเรียนขนาดใหญ่ที่มีความเสี่ยงใน กทม. หรือในเมืองใหญ่ เช่น มีนักเรียน 2-3 พันคน หรือโรงเรียนประจำที่อยู่อย่างแออัด ต้องดูแลอย่างดี เพราะเป็นที่ที่คนมาอยู่กันเยอะ ก็ต้องใช้ระบบผสมผสานในการเรียน บางส่วนเรียนที่โรงเรียน บางส่วนเรียนที่บ้าน ซึ่งโรงเรียนขนาดใหญ่ส่วนใหญ่มีศักยภาพ
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงข่าวประจำวันว่า วานนี้ (1 มิ.ย.) เป็นวันแรกของการผ่อนคลายระยะที่ 3 มีผู้ป่วยรายใหม่จำนวน 1 ราย กลับบ้านเพิ่ม 2 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต ส่งผลให้ผู้ป่วยรวม 3,082 ราย กลับบ้านรวม 2,965 ราย เสียชีวิตรวม 57 ราย และยังรักษาใน รพ. 60 ราย โดยผู้ป่วยรายใหม่เป็นเพศหญิงอายุ 43 ปี เดินทางกลับมาจากประเทศรัสเซีย เข้าสถานกักกันของรัฐ จ.ชลบุรี ตรวจเชื้อครั้งแรกวันที่ 24 พ.ค. ไม่พบเชื้อ และตรวจครั้งที่ 2 วันที่ 31 พ.ค. จึงพบเชื้อ โดยไม่มีอาการใดๆ และให้เข้ารับการรักษาที่ รพ.ใน จ.ชลบุรี
ทั้งนี้ ในรอบ 7 วัน ที่พบผู้ติดเชื้อ เป็นคนกลับมาจากต่างประเทศ และอยู่ในสถานที่กักกันเกือบทั้งสิ้น ไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศ แต่ยังไม่น่าไว้วางใจ ต้องไม่พบอย่างน้อย 2-3 สัปดาห์ ซึ่งต้องรอดูการผ่อนปรนระยะที่ 3 ที่เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ที่มีการผ่อนคลายกิจการที่มีความเสี่ยงปานกลางกับสูง และขอย้ำ 5 มาตรการยังต้องคงอยู่ คือ สวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง ทำความสะอาด ไม่แออัด
ห้ามนวดหน้า หวั่นเป็นแหล่งแพร่เชื้อ
นพ.ทวีศิลป์กล่าวถึงกรณีร้านนวดยังห้ามทำบริเวณใบหน้า แต่สถานเสริมความงามสามารถให้บริการได้ ว่า เป็นความห่วงใยของทีม ศบค. โดยสาธารณสุขให้หลักการขึ้นมา เนื่องจากโรคนี้แพร่ระบาดทางช่องทางเดินหายใจ คือ ปากและจมูก และเป็นช่องทางการรับเชื้อด้วย ขณะที่ทักษะป้องกันส่วนบุคคล สถานเวชกรรม บุคลากรทางการแพทย์ วิธีการให้บริการต่างๆ จะมีขั้นตอนถูกฝึกอบรมมา ก็ค่อนข้างมั่นใจในระบบตรงนี้ แต่เรื่องของการนวดมีหลายระดับ เกี่ยวโยงกับชุดพฤติกรรมสัมผัสใกล้ชิด ใช้เวลาค่อนข้างนาน ความเสี่ยงสูงมาก หลายกรณีผู้ทำอาชีพนี้ในต่างประเทศ กลับมาก็พบเชื้อ จึงเป็นความห่วงใย จึงกำหนดตรงนี้ขึ้นมา เพื่อดูแลท่านและป้องกันการติดเชื้อ เพราะท่านต้องใช้มือสัมผัสแถวใบหน้าก็มีเชื้อโรคอยู่ ถ้าจะทำมีแต่ความเสี่ยง จึงเป็นขอกำหนดไว้ว่าอย่าเพิ่งทำเลย ก็เป็นข้อห่วงใย
แย้มชดเชยวันหยุดสงกรานต์เดือนก.ค.
เมื่อถามถึงกรณีวันหยุดสงกรานต์ที่จะให้ภายหลังในเดือนก.ค.2563 เหมาะสมหรือไม่ที่จะท่องเที่ยว กลับภูมิลำเนา นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า เรื่องของช่วงเวลาในอนาคตถูกกำหนดโดยปัจจุบัน ช่วง ก.ค.จะมีหรือไม่มีพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็เกิดจากมาตรการผ่อนคลายระยะ 3 และ 4 ที่จะเกิดในมิ.ย.นี้ ถ้าเราผ่านการระบาดไปได้อย่างดี ทุกคนพร้อมใจกัน การ์ดไม่ตก ก็จะมีอนาคตร่วมกัน คือ ไม่มี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีวันหยุดเพิ่มเติม ไม่มีเชื้อในประเทศ นี่คือความหวังความฝันที่จะทำร่วมกัน ซึ่งต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้ วินาทีนี้ เพราะขณะนี้หลายคนก็เริ่มบอกว่ามีการใส่หน้ากากอนามัย หน้ากากผ้า น้อยลง ทำความสะอาดพื้นผิวน้อยลงอย่างชัดเจน นี่คือความเสี่ยงที่จะติดโรค
ญี่ปุ่นเปิดให้ไปได้ แต่กลับมาต้องกัก 14 วัน
นพ.ทวีศิลป์กล่าวถึงกรณีญี่ปุ่นเตรียมไฟเขียวให้คนไทยเข้าประเทศได้ว่า มีรายงานข่าว 4 ประเทศที่ญี่ปุ่นจะให้เข้าประเทศได้ คือ ไทย เวียดนาม ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ โดยอาจจะมีผลในเดือนมิ.ย.2563 ซึ่งอยากขอย้ำว่าหากเดินทางไปยังญี่ปุ่น ไม่ว่าจะไปเที่ยวหรือทำธุระ การเดินทางกลับเข้ามายังประเทศไทย ยังมีกฎของเราอยู่ คือ 14 วัน ต้องอยู่ในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ ถึงแม้เขาจะเปิดประเทศ ก็จะมีความยุ่งยากในการเข้าประเทศอยู่
ส่วนการนำคนไทยกลับประเทศ ยังมีอยู่ทุกวัน และกำลังจะเพิ่มโควตาจาก 300-400 คน เป็น 500 คน เพื่อนำคนไทยกลับมาและจบงานทุกอย่างภายในเดือนมิ.ย.2563
กทม.สั่งปิด 16 สถานที่เสี่ยงถึง 30 มิ.ย.
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ลงนามในประกาศ กทม. เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราวฉบับที่ 10 โดยกำหนดปิดสถานที่เสี่ยง 16 สถานที่จนถึงวันที่ 30 มิ.ย.2563 ได้แก่ 1.สถานบริการ ผับ บาร์ สถานบันเทิง และสถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการ 2.สวนน้ำสวนสนุก 3.สนามเด็กเล่น เครื่องเล่นสำหรับเด็กในตลาด ตลาดน้ำและตลาดนัด 4.โต๊ะสนุกเกอร์บิลเลียด 5.สถานที่เล่นตู้เกม 6.ร้านเกมส์ร้านอินเทอร์เน็ต 7.สนามชนไก่และสนามซ้อมชนไก่ 8.สถานรับเลี้ยงเด็ก หรือสถานดูแลผู้สูงอายุ (ยกเว้นที่มีการรับตัวไว้พักค้างคืนเป็นปกติธุระ) 9.สนามมวย 10.โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ (ยิม) 11.สนามม้า 12.สถานประกอบกิจการอาบน้ำ 13.สถานประกอบกิจการอาบอบนวด 14.สนามแข่งขันทุกประเภท 15.สถานที่ให้บริการห้องจัดเลี้ยงสถานที่จัดเลี้ยงรวมถึงสถานที่อื่นใดที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน 16.สนามชนโคสนามกัดปลาหรือสนามแข่งขันอื่นในลักษณะทำนองเดียวกัน
ทั้งนี้ หากฝ่าฝืน มีความผิดตามมาตรา 25 แห่งพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพ.ร.บ.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนสถานที่ที่ให้เปิดแล้ว หากฝ่าฝืนไม่มีมาตรการป้องกัน จะถูกสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว
เปิดโรงเรียนก่อนเปิดสถานบันเทิง
นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า มีการหารือในทีมที่ปรึกษาว่าโรงเรียนต้องได้เปิดก่อนสถานบันเทิง เพราะหากเปิดสถานบันเทิงก่อนแล้วมีผู้ป่วยกลับมา โรงเรียนก็คงไม่ได้เปิด จึงเสนอไปว่าสถานบันเทิงควรไปรอหลังเปิดโรงเรียน ซึ่งจะเปิดเทอมวันที่ 1 ก.ค.2563 แต่ก็มีโอกาสที่เปิดโรงเรียนแล้วจะมีการกลับมาระบาดใหม่ เพราะยังไม่มีหลักฐานการระบาดในโรงเรียนเป็นอย่างไร เพราะทั่วโลกปิดโรงเรียนกันหมด จะมีเปิดบ้างอย่างฝรั่งเศส แต่ก็ยังไม่ชัดเจน ส่วนกลุ่มที่กังวลมากที่สุด หากเปิดเทอม คือ กลุ่มนักศึกษา เพราะเป็นช่วงวัยที่มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การสังสรรค์ การคลุกคลีในหอพัก
นอกจากนี้ ยังเสนออีกว่า โรงเรียนห่างไกล มีนักเรียนจำนวนน้อย 20-30 คนต่อโรงเรียน หรือไม่เกิน 100 คน มีพื้นที่และห้องกว้างขวาง นั่งเรียนกันได้อย่างสบาย อากาศโปร่งโล่ง เพราะไม่มีแอร์ ถ้ามีความพร้อมอาจลองทยอยเปิดก่อนวันที่ 1 ก.ค.2563 ได้ ซึ่งได้เสนอกับทางกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ไปแล้ว ส่วนโรงเรียนขนาดใหญ่ที่มีความเสี่ยงใน กทม. หรือในเมืองใหญ่ เช่น มีนักเรียน 2-3 พันคน หรือโรงเรียนประจำที่อยู่อย่างแออัด ต้องดูแลอย่างดี เพราะเป็นที่ที่คนมาอยู่กันเยอะ ก็ต้องใช้ระบบผสมผสานในการเรียน บางส่วนเรียนที่โรงเรียน บางส่วนเรียนที่บ้าน ซึ่งโรงเรียนขนาดใหญ่ส่วนใหญ่มีศักยภาพ
