ผู้จัดการรายวัน 360 - ครม.เห็นชอบต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีก 1 เดือนจนถึงสิ้นมิ.ย. 63 สมช. หารือวันนี้ (27 พ.ค.) ปรับลดเวลาเคอร์ฟิว-ผ่อนปรนเฟส 3 ศบค.เผยไทยมีป่วยโควิดเพิ่มอีก 3 ราย กลับมาจากต่างประเทศทั้งหมด ไม่มีเสียชีวิตเพิ่ม เผย 65 จังหวัดเป็นพื้นที่สีเขียว ไร้ผู้ป่วย 4 สัปดาห์แล้ว
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมครม.ว่า ครม.มีมติเห็นชอบให้ต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อใช้ควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ออกไปอีก 1 เดือน ตั้งแต่1-30 มิ.ย.63 ตามข้อเสนอของศบค.และที่ประชุมสมช.
ทั้งนี้ประเทศไทยอยู่ในช่วงการพิจารณาผ่อนปรน ระยะที่ 3 และระยะที่ 4 ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชื้อโรคในระดับสูง จึงจำเป็นต้องมีการดำเนินการอย่างเป็นระบบ และอยู่ในระยะเวลาที่เหมาะสม
สมช.จ่อคุยลดเคอร์ฟิวอีก 1 ชั่วโมง
พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งศิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ในฐานะประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติให้ต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอีก 1 เดือน ไปจนถึงเดือนมิถุนายน ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. เสนอ
ขณะที่การประเมินผลการผ่อนปรนมาตรการในระยะที่ 2 เพื่อเตรียมผ่อนปรนมาตรการในระยะที่ 3 นั้น จะมีการหารือในที่ประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจฯ ในวันนี้ (27 พ.ค. 2563) รวมทั้งจะนำเรื่องที่ประชาชนเสนอแนะมาพิจารณาในที่ประชุมด้วย อาทิ การปรับลดช่วงเวลาเคอร์ฟิว จากเวลา 23.00-04.00 น. เป็น เวลา 24.00-04.00 น. หรือ 23.00-03.00 น. และจะนำเรื่องเข้าเสนอต่อที่ประชุม ศบค. พิจารณาวันที่ 29 พฤษภาคม
ครม. รับทราบจ่ายชดเชยคนตกงาน 1 ล้านคน
นางนฤมล กล่าวว่า ครม.รับทราบการจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานสำหรับผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ทั้งนี้ กระทรวงแรงงาน โดยสำนักประกันสังคมรายงานว่า ได้พิจารณาวินิจฉัยสั่งจ่ายไปแล้ว ณ วันที่ 21 พ.ค.63 จำนวน 1,095,399 ราย รวมเป็นเงิน 6,052 ล้านบาท รวมทั้งติดตามนายจ้างที่ยังไม่ได้ออกหนังสือรับรองขอรับประโยชน์ทดแทน 29,406 ราย
จ่ายเยียวยากลุ่มเปราะบาง 13 ล้านคน
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม.มีมติเห็นชอบในหลักการตามที่คณะกลั่นกรองฯ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เสนอให้มีการจ่ายเงินเยียวยากับประชาชนในกลุ่มเปราะบาง อาทิ เด็กแรกเกิด ผู้สูงอายุ คนพิการ รวมทั้งสิ้นประมาณ 13 ล้านบาท โดยจะทยอยจ่ายงวดละ 1,000 บาท จำนวน 3 งวด แต่ในงวดเดือน พ.ค. นั้นได้ผ่านพ้นไปแล้วเดือน มิ.ย. ที่เป็นเดือนเริ่มต้นจ่ายทางผู้รับสิทธิ์จะได้รับเงินถึง 2 พันบาทเพื่อชดเชยเงินในเดือน พ.ค. ที่ไม่ได้รับด้วย คาดเป็นการใช้วงเงินราว 3.9 หมื่นล้านบาท
พบผู้ป่วยโควิดเพิ่มอีก 3 ราย
วานนี้ (26 พ.ค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงข่าวประจำ ว่า วันนี้มีผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 3 ราย กลับบ้านเพิ่ม 1 ราย ไม่มีเสียชีวิตเพิ่ม ส่งผลมียอดผู้ป่วยสะสม 3,045 ราย หายกลับบ้านรวม 2,929 ราย เสียชีวิตรวม 57 ราย รักษาใน รพ. 59 ราย โดยผู้ป่วยทั้ง 3 ราย กลับมาจากต่างประเทศทั้งหมด โดยรายแรกเป็นหญิงไทยอายุ 51 ปี อาชีพพนักงานนวด กลับมาจากรัสเซีย มาถึงวันที่ 12 พ.ค. เข้าพักในสถานกักกันของรัฐที่ จ.ชลบุรี ตรวจพบเชื้อวันที่ 25 พ.ค. โดยไม่มีอาการ ส่วนรายที่สองและสาม เป็นชายไทยอายุ 45 ปี ทั้งสองคน เป็นแรงงานรับจ้างกลับมาจากคูเวต วันที่ 24 พ.ค. เข้าพักสถานกักกันของรัฐ จ.สมุทรปราการ มีอาการไอ ตรวจพบเชื้อวันที่ 25 พ.ค.
“ขณะนี้ 4 สัปดาห์ล่าสุด เป็นสีเขียวเกือบทั้งประเทศแล้ว อัตราป่วยที่เป็น 0 ติดต่อกัน 4 สัปดาห์ มี 65 จังหวัด อัตราป่วย 0.1-1 ราย มีประมาณ 10 จังหวัด ส่วนพื้นที่สีแดงก็ลดน้อยลงแล้ว เกิดจากความร่วมมือของทุกคน ทั้งนี้ เรากำลังเข้าสู่การผ่อนคลายระยะที่สองไประยะสาม” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
“นายกฯ”สั่งเตรียมมาตรการสกัดโควิดรับเปิดบิน
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (26 พ.ค.) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีการสั่งการเกี่ยวกับเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า กรณีที่สถานการณ์ดีขึ้นอาจต้องมีการพิจารณา เปิดการบินในประเทศและระหว่างประเทศ ซึ่งจะต้องมีการเตรียมความพร้อมในการเปิดทำการบินเส้นทางระหว่างประเทศ
กระทรวงคมนาคม มีความเห็นว่า กรณีเปิดบินเส้นทางระหว่างประเทศ ควรใช้วิธีการทำข้อตกลง (MOU) เป็นรายประเทศ โดยจะไม่ทำกับทุกประเทศ แต่จะทำเฉพาะประเทศที่มีความพร้อมด้านสาธารณสุข
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมครม.ว่า ครม.มีมติเห็นชอบให้ต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อใช้ควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ออกไปอีก 1 เดือน ตั้งแต่1-30 มิ.ย.63 ตามข้อเสนอของศบค.และที่ประชุมสมช.
ทั้งนี้ประเทศไทยอยู่ในช่วงการพิจารณาผ่อนปรน ระยะที่ 3 และระยะที่ 4 ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชื้อโรคในระดับสูง จึงจำเป็นต้องมีการดำเนินการอย่างเป็นระบบ และอยู่ในระยะเวลาที่เหมาะสม
สมช.จ่อคุยลดเคอร์ฟิวอีก 1 ชั่วโมง
พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งศิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ในฐานะประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติให้ต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอีก 1 เดือน ไปจนถึงเดือนมิถุนายน ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. เสนอ
ขณะที่การประเมินผลการผ่อนปรนมาตรการในระยะที่ 2 เพื่อเตรียมผ่อนปรนมาตรการในระยะที่ 3 นั้น จะมีการหารือในที่ประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจฯ ในวันนี้ (27 พ.ค. 2563) รวมทั้งจะนำเรื่องที่ประชาชนเสนอแนะมาพิจารณาในที่ประชุมด้วย อาทิ การปรับลดช่วงเวลาเคอร์ฟิว จากเวลา 23.00-04.00 น. เป็น เวลา 24.00-04.00 น. หรือ 23.00-03.00 น. และจะนำเรื่องเข้าเสนอต่อที่ประชุม ศบค. พิจารณาวันที่ 29 พฤษภาคม
ครม. รับทราบจ่ายชดเชยคนตกงาน 1 ล้านคน
นางนฤมล กล่าวว่า ครม.รับทราบการจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานสำหรับผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ทั้งนี้ กระทรวงแรงงาน โดยสำนักประกันสังคมรายงานว่า ได้พิจารณาวินิจฉัยสั่งจ่ายไปแล้ว ณ วันที่ 21 พ.ค.63 จำนวน 1,095,399 ราย รวมเป็นเงิน 6,052 ล้านบาท รวมทั้งติดตามนายจ้างที่ยังไม่ได้ออกหนังสือรับรองขอรับประโยชน์ทดแทน 29,406 ราย
จ่ายเยียวยากลุ่มเปราะบาง 13 ล้านคน
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม.มีมติเห็นชอบในหลักการตามที่คณะกลั่นกรองฯ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เสนอให้มีการจ่ายเงินเยียวยากับประชาชนในกลุ่มเปราะบาง อาทิ เด็กแรกเกิด ผู้สูงอายุ คนพิการ รวมทั้งสิ้นประมาณ 13 ล้านบาท โดยจะทยอยจ่ายงวดละ 1,000 บาท จำนวน 3 งวด แต่ในงวดเดือน พ.ค. นั้นได้ผ่านพ้นไปแล้วเดือน มิ.ย. ที่เป็นเดือนเริ่มต้นจ่ายทางผู้รับสิทธิ์จะได้รับเงินถึง 2 พันบาทเพื่อชดเชยเงินในเดือน พ.ค. ที่ไม่ได้รับด้วย คาดเป็นการใช้วงเงินราว 3.9 หมื่นล้านบาท
พบผู้ป่วยโควิดเพิ่มอีก 3 ราย
วานนี้ (26 พ.ค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงข่าวประจำ ว่า วันนี้มีผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 3 ราย กลับบ้านเพิ่ม 1 ราย ไม่มีเสียชีวิตเพิ่ม ส่งผลมียอดผู้ป่วยสะสม 3,045 ราย หายกลับบ้านรวม 2,929 ราย เสียชีวิตรวม 57 ราย รักษาใน รพ. 59 ราย โดยผู้ป่วยทั้ง 3 ราย กลับมาจากต่างประเทศทั้งหมด โดยรายแรกเป็นหญิงไทยอายุ 51 ปี อาชีพพนักงานนวด กลับมาจากรัสเซีย มาถึงวันที่ 12 พ.ค. เข้าพักในสถานกักกันของรัฐที่ จ.ชลบุรี ตรวจพบเชื้อวันที่ 25 พ.ค. โดยไม่มีอาการ ส่วนรายที่สองและสาม เป็นชายไทยอายุ 45 ปี ทั้งสองคน เป็นแรงงานรับจ้างกลับมาจากคูเวต วันที่ 24 พ.ค. เข้าพักสถานกักกันของรัฐ จ.สมุทรปราการ มีอาการไอ ตรวจพบเชื้อวันที่ 25 พ.ค.
“ขณะนี้ 4 สัปดาห์ล่าสุด เป็นสีเขียวเกือบทั้งประเทศแล้ว อัตราป่วยที่เป็น 0 ติดต่อกัน 4 สัปดาห์ มี 65 จังหวัด อัตราป่วย 0.1-1 ราย มีประมาณ 10 จังหวัด ส่วนพื้นที่สีแดงก็ลดน้อยลงแล้ว เกิดจากความร่วมมือของทุกคน ทั้งนี้ เรากำลังเข้าสู่การผ่อนคลายระยะที่สองไประยะสาม” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
“นายกฯ”สั่งเตรียมมาตรการสกัดโควิดรับเปิดบิน
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (26 พ.ค.) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีการสั่งการเกี่ยวกับเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า กรณีที่สถานการณ์ดีขึ้นอาจต้องมีการพิจารณา เปิดการบินในประเทศและระหว่างประเทศ ซึ่งจะต้องมีการเตรียมความพร้อมในการเปิดทำการบินเส้นทางระหว่างประเทศ
กระทรวงคมนาคม มีความเห็นว่า กรณีเปิดบินเส้นทางระหว่างประเทศ ควรใช้วิธีการทำข้อตกลง (MOU) เป็นรายประเทศ โดยจะไม่ทำกับทุกประเทศ แต่จะทำเฉพาะประเทศที่มีความพร้อมด้านสาธารณสุข
