xs
xsm
sm
md
lg

“โรงหนัง”มีลุ้นได้เปิด สนามมวยร้องเพลงรอ นายกฯ สั่งล่าตัวหักหัวคิว

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ผู้จัดการรายวัน360-ศบค.รายงานผู้ป่วยโควิด-19 ในไทย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ติดเชื้อใหม่ 2 ราย เป็นหญิงชาวจีน ติดจากสามีชาวอิตาลีที่ภูเก็ต อีกรายหญิงไทยกลับจากรัสเซีย สธ.ชี้ “โรงหนัง” มีลุ้นเปิดเฟส 3 แต่ “สนามมวย”รอเฟส 4 ระบุเจอผู้ป่วยใหม่ประปราย หากอยู่ระดับนี้ ก็ไม่ต้องปิดๆ เปิดๆ โฆษกกลาโหม เผย“บิ๊กตู่” สั่งเร่งควานหาตัวคนหักหัวคิวโรงแรมกักตัว ยันไม่มีทหาร คน สธ.เอี่ยว “อนุทิน” ลั่นพร้อมตรวจสอบ มีหลักฐานแจ้งมา ฟันไม่เลี้ยง

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงข่าวประจำวัน วานนี้ (25 พ.ค.) ว่า มีผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 2 ราย หายกลับบ้านเพิ่ม 7 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ยอดผู้ป่วยสะสมรวม 3,042 ราย กลับบ้านรวม 2,928 ราย เสียชีวิตรวม 57 ราย ยังรักษาใน รพ. 57 ราย โดยผู้เสียชีวิตเป็นหญิงไทยอายุ 68 ปี มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยัน และเข้ารักษาตัวที่ รพ.แห่งหนึ่งใน จ.ชุมพร เมื่อวันที่ 29 มี.ค.2563 ส่วนผู้ป่วยใหม่ เป็นหญิงชาวจีน ติดเชื้อจากสามีชาวอิตาลี ตรวจพบเชื้อ 24 พ.ค.2563 และอีกคนเป็นหญิงไทยกลับมาจากรัสเซีย ตรวจพบเชื้อวันที่ 24 พ.ค.2563

ทั้งนี้ ไทยตกลงมาอยู่อันดับ 76 ของโลก แต่ยังวางใจไม่ได้ เนื่องจากกราฟผู้ป่วยโควิด-19 ทั่วโลก ยังพุ่งขึ้น ขณะที่เกาหลีใต้ การติดเชื้อจากผับย่านอิแทวอนยังระบาดไม่หยุด มีผู้ป่วยแล้ว 225 ราย และยังมีรายงานเด็กอนุบาลติดเชื้อ 1 ราย จาก ร.ร.สอนศิลปะก่อนเกาหลีใต้เริ่มเปิด ร.ร.ของรัฐในกรุงโซล หลังหยุดเรียนไป 3 เดือน จนต้องสั่งปิด ร.ร.เอกชนอีกหลายแห่ง

ส่วนการนำคนไทยกลับจากต่างประเทศ ยังคงมีเข้ามาต่อเนื่อง วันที่ 25 พ.ค.2563 มี 5 เที่ยวบิน รวม 395 คน จากศรีลังกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และวันที่ 26 พ.ค.2563 กลับมาอีก 400 คน จากอิตาลี มาเลเซีย ญี่ปุ่น และไต้หวัน

สำหรับกรณีชายวัย 72 ปี ที่ติดโควิด-19 ซึ่งจากการสอบสวน ต้นทางที่ติดน่าจะเป็น รพ. เพราะอาจมีคนติดเชื้อที่ไม่มีอาการแล้วไปที่นั่น จากนั้นได้ไปใช้บริการร้านอาหาร และร้านตัดผม วันที่ 18 พ.ค.2563 ขอฝากถึงคนที่ไปใช้บริการในไทม์ไลน์เดียวกัน หากมีข้อกังวล สามารถเข้าตรวจได้ฟรี และที่ต้องนำเคสนี้ขึ้นมา เพราะเพิ่งใช้แพลตฟอร์มไทยชนะ หากร้านค้าเข้าร่วม และมีการเช็กอิน จะทำให้ติดตามได้ง่าย

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า การพิจารณาเปิดกิจการ กิจกรรม ในมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 3 และ 4 (เฟส 3 และ 4) ยังไม่มีความชัดเจน แต่ตามหลักการด้านสาธารณสุข เห็นว่า การเปิดโรงภาพยนตร์ หากจะเปิดในระยะที่ 3 สิ่งที่สามารถดำเนินการได้ คือ เรื่องของมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม เหลือเพียงจะต้องมีการปรับปรุงเรื่องของการระบายอากาศให้ถ่ายเทได้สะดวก เนื่องจากเป็นสถานที่มีเครื่องปรับอากาศและต้องใช้เวลานานในการเข้ารับบริการ ส่วนสนามมวย เป็นกิจการกิจกรรมในกลุ่มสีแดง ที่มีความเสี่ยงสูง ต้องเปิดในเฟส 4 เท่านั้น

นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์ผู้ป่วยโควิด-19 ของไทย มีจำนวนผู้ป่วยในประเทศค่อนข้างน้อย แนวโน้มเจอผู้ป่วยประปรายเป็นระยะๆ จากเดิมที่เจอวันละ 100 คน เหลือวันละไม่กี่คน ถ้ายังคงแนวโน้มลักษณะจำนวนผู้ป่วยอย่างนี้ต่อไป ก็จะยังคงสภาวะของการมีการแพร่ระบาดในวงจำกัดต่อเนื่องต่อไป แต่เริ่มพบปัญหา คือ มาตรการหย่อนลง ทั้งการป้องกันส่วนบุคคล มาตรการองค์กรที่ให้ทำงานที่บ้าน ทำให้ชั่วโมงเร่งด่วนเกิดการแออัด เช่น รถไฟฟ้า

“หากไม่อยากให้ประเทศต้องเปิดๆ ปิดๆ ต้องมีผู้ป่วยระดับต่ำ จะต่ำแค่ไหน ข้อเสนอของทีมที่ปรึกษา คือ ต่ำกว่า 5 คน ต่อ 1 ล้านคนต่อวันไปเรื่อยๆ ถ้ามากกว่านี้ มาตรการอื่นๆ ก็ต้องกลับมา อย่างกรุงเทพฯ มีประชากร 8 ล้านคน ถ้ามีผู้ป่วย 40 ราย ก็ถือว่าอยู่ในวงจำกัด หรือถ้ามีผู้ป่วยมากกว่า 10 คนต่อล้านคนนานกว่า 14 วัน หรือเกิน 15 คนต่อล้านคนต่อวันแค่ครั้งเดียว ก็ถือว่าวิกฤต หรือกรุงเทพฯ มีคนไข้เกิน 80 คน เกิน 14 วันก็เตรียมตัวได้เลย”นพ.ธนรักษ์กล่าว

ที่กระทรวงกลาโหม พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมสภากลาโหม ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธาน ถึงกรณีที่มีข่าวว่ามีการแอบอ้างหักหัวคิวโรงแรมที่ใช้เป็นสถานที่กักตัวคนไทยที่กลับจากต่างแดน (State Quarantine) ว่า เป็นความตั้งใจของกระทรวงกลาโหม กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทยที่ได้ทำงานร่วมกันในการจัดหาโรงแรมเพื่อใช้เป็นสถานที่กักตัว ยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีนโยบายเรียกรับผลประโยชน์ แต่เป็นการดำเนินการเพื่อให้ผู้ประกอบการได้รับผลประโยชน์สูงสุดในช่วงโควิด-19 และช่วยในการนำคนไทยที่ตกค้างอยู่ต่างประเทศกลับประเทศ

“ยืนยันว่ารัฐไม่มีนโยบายเก็บค่าหัวคิว เพราะเรื่องดังกล่าว เราดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ.2563 ต่อกลุ่มคนไทยที่กลับจากอู่ฮั่น จนถึงปัจจุบัน ก็ไม่เคยมีปัญหาเรื่องนี้ ทราบว่าคนที่ดำเนินการเรื่องนี้ เป็นนายหน้าที่ไปติดต่อกับโรงแรมโดยตรงและเรียกรับผลประโยชน์ แต่หากพบว่ามีคนของกองทัพ หรือกระทรวงสาธารณสุขเข้าไปเกี่ยวข้อง สามารถแจ้งข้อมูลมาได้โดยตรง ซึ่งจะต้องถูกลงโทษทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด เพราะเรื่องดังกล่าวทำให้เกิดความเสียหายต่อภาครัฐ และเรื่องนี้ นายกฯ ยังได้กำชับให้เร่งดำเนินการด้วย”พล.ท.คงชีพกล่าว

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวว่า หากเรื่องการหักค่าหัวคิว 40% เกิดขึ้นจริง ขอให้นำหลักฐานมาร้องเรียนได้ที่ตน และที่กระทรวงสาธารณสุขได้ตลอดเวลา ซึ่งตนเชื่อว่าโรงแรมมีกล้องวงจรปิดอยู่แล้ว และน่าจะมีการเก็บข้อมูลเอาไว้อยู่อย่างน้อย 30 วัน ขอให้นำมาร้องเรียนได้เลย ถ้าคนพูดๆ ไม่จริง ไม่มีหลักฐารน สธ.ก็จะฟ้องร้อง แต่ถ้ามีคน สธ. ทำเรื่องแบบนี้จริง ก็จะเอาผิดให้ถึงที่สุดเช่นเดียวกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น