กางชื่อ 3 กลุ่ม “อดีตบิ๊กไทยรักไทย” ก่อหวอดตั้งพรรคใหม่ ตามสูตรแตกแบงค์พัน เผย “ภูมิธรรม - สุรพงษ์ - พรหมินทร์” คอนเนคชันคนเดือนตุลาฯมาครบ “เฮียเพ้ง” ดึง “เฉลิม” ร่วมด้วย ขณะที่ “จาตุรนต์” อดีตไทยรักษาชาติ ใช้ฐานบัญชาการเดิมพรรคเพื่อไทย ที่ “พี่ชายหญิงอ้อ” เป็นเจ้าของ
จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่ากลุ่มอดีตผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทยหลายรายได้เตรียมการเคลื่อนไหวทางการเมืองในนามกลุ่มพลังใหม่ และจะมีการต่อยอดไปถึงการตั้งพรรคการเมืองใหม่ นั้น
วานนี้ (21 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงาน ขณะนี้ในส่วนของพรรคเพื่อไทย มีกลุ่มคนที่เป็นอดีตสมาชิกพรรคไทยรักไทยเดิมเตรียมการสำหรับการตั้งพรรคใหม่อยู่ 3 กลุ่ม คือ กลุ่มแรกประกอบด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และขณะนี้มีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร (นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย), นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรองนายกฯ และ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีตเลขาธิการนายกฯสมัยรัฐบาลทักษิณ โดยทั้ง 3 รายรู้กันดีว่าเป็นอดีตคนเดือนตุลาฯ และร่วมก่อตั้งพรรคไทยรักไทย กับ นายทักษิณ ชินวัตร มาตั้งแต่ต้น
ขณะที่อีกกลุ่มมี นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล อดีต รมว.พลังงาน เป็นแกนหลัก โดยมีรายงานข่าวว่า ช่วงสุดสัปดาห์นี้ นายพงษ์ศักดิ์ได้นัดหารือกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรองนายกฯ ซึ่งเป็นประธานกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย ในช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ส่วนกลุ่มสุดท้ายเป็นกลุ่มของ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกฯ ที่ยังคงเคลื่อนไหวร่วมกับอดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ ที่ยังไม่ได้กลับพรรคเพื่อไทย ในนามกลุ่มก้าวต่อไปเพื่อประชาธิปไตย หลังจากที่พรรคไทยรักษาชาติถูกยุบพรรค ก็มีแนวทางที่จะตั้งพรรคใหม่เช่นกัน สำหรับแนวคิดการตั้งพรรคการเมืองใหม่ โดยแยกออกมาจากพรรคเพื่อไทยนั้น เป็นหลักการเดิมที่เคยตั้งพรรคไทยรักษาชาติขึ้นมา เพื่อให้สอดคล้องกับสูตรคำนวณ ส.ส.ในรัฐธรรมนูญปัจจุบัน
“ยังไม่แน่ชัดว่าสุดท้ายแล้วทั้ง 2-3 กลุ่มที่ว่า จะรวมกันเป็นกลุ่มเดียวหรือไม่ แต่ที่ผ่านมาแต่ละกลุ่มก็มีการไปมาหาสู่กันเป็นประจำ หลังจากนี้จะได้มีการหารือกันเป็นระยะ จนมีความชัดเจนเพื่อเตรียมการในขั้นต่อไป รวมไปถึงคนในพรรคเพื่อไทยบางส่วน ที่ไม่แฮปปี้กับผู้บริหารชึดปัจจุบันไปร่วมงานด้วย ก็อาจแยกออกมาร่วมด้วย” แหล่งข่าว วิเคราะห์
ทั้งนี้มีรายงานด้วยว่า กลุ่มของนายภูมิธรรม, นพ.สุรพงษ์ และ นพ.พรหมินทร์ ได้ติดขอใช้อาคารบีบีดี บิลดิง ซ.จินดาถวิล ถ.พระรามที่ 4 เป็นที่ทำการชั่วคราว โดยอาคารบีบีดีเคยเป็นที่ทำการเดิมของพรรคเพื่อไทย สมัยก่อตั้งใหม่ๆแทนที่พรรคพลังประชาชน และเป็นที่ทราบกันว่า อาคารบีบีดี มีชื่อของ นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภรรยานายทักษิณ ชินวัตร เป็นเจ้าของ
ด้าน นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรมว. พลังงาน กล่าวถึงกระแสข่าวข้างต้นา ยอมรับว่ามีการพูดคุยกับหลายกลุ่มเรื่องการตั้งพรรคการเมืองใหม่ เพื่อเป็นความหวังให้กับประชาชน โดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจ ทั้งนี้สภาวะการเมืองปัจจุบัน พรรคการเมืองหลักๆที่มีอยู่ไม่ว่าจะเป็น พรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรคก้าวไกล พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย ต่างมีความนิยมตกต่ำลงอย่างมาก หลายพรรคมีความแตกแยกภายในสูง ไม่สามารถสร้างความหวังให้กับประชาชนได้ ดังนั้นการมีพรรคการเมืองใหม่ จึงมีโอกาสเกิดขึ้นและประสบความสำเร็จได้สูง หากสามารถสร้างความหวังและแก้ปัญหาให้กับประชาขนได้ หากพรรคการเมืองไม่สามารถสร้างความหวังได้ เกรงว่าโอกาสจะเกิดการเปลี่ยนแปลงนอกระบบจะมีสูง จะยิ่งทำให้ประเทศถอยหลังและย่ำแย่ลงไปอีก
จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่ากลุ่มอดีตผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทยหลายรายได้เตรียมการเคลื่อนไหวทางการเมืองในนามกลุ่มพลังใหม่ และจะมีการต่อยอดไปถึงการตั้งพรรคการเมืองใหม่ นั้น
วานนี้ (21 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงาน ขณะนี้ในส่วนของพรรคเพื่อไทย มีกลุ่มคนที่เป็นอดีตสมาชิกพรรคไทยรักไทยเดิมเตรียมการสำหรับการตั้งพรรคใหม่อยู่ 3 กลุ่ม คือ กลุ่มแรกประกอบด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และขณะนี้มีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร (นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย), นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรองนายกฯ และ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีตเลขาธิการนายกฯสมัยรัฐบาลทักษิณ โดยทั้ง 3 รายรู้กันดีว่าเป็นอดีตคนเดือนตุลาฯ และร่วมก่อตั้งพรรคไทยรักไทย กับ นายทักษิณ ชินวัตร มาตั้งแต่ต้น
ขณะที่อีกกลุ่มมี นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล อดีต รมว.พลังงาน เป็นแกนหลัก โดยมีรายงานข่าวว่า ช่วงสุดสัปดาห์นี้ นายพงษ์ศักดิ์ได้นัดหารือกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรองนายกฯ ซึ่งเป็นประธานกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย ในช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ส่วนกลุ่มสุดท้ายเป็นกลุ่มของ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกฯ ที่ยังคงเคลื่อนไหวร่วมกับอดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ ที่ยังไม่ได้กลับพรรคเพื่อไทย ในนามกลุ่มก้าวต่อไปเพื่อประชาธิปไตย หลังจากที่พรรคไทยรักษาชาติถูกยุบพรรค ก็มีแนวทางที่จะตั้งพรรคใหม่เช่นกัน สำหรับแนวคิดการตั้งพรรคการเมืองใหม่ โดยแยกออกมาจากพรรคเพื่อไทยนั้น เป็นหลักการเดิมที่เคยตั้งพรรคไทยรักษาชาติขึ้นมา เพื่อให้สอดคล้องกับสูตรคำนวณ ส.ส.ในรัฐธรรมนูญปัจจุบัน
“ยังไม่แน่ชัดว่าสุดท้ายแล้วทั้ง 2-3 กลุ่มที่ว่า จะรวมกันเป็นกลุ่มเดียวหรือไม่ แต่ที่ผ่านมาแต่ละกลุ่มก็มีการไปมาหาสู่กันเป็นประจำ หลังจากนี้จะได้มีการหารือกันเป็นระยะ จนมีความชัดเจนเพื่อเตรียมการในขั้นต่อไป รวมไปถึงคนในพรรคเพื่อไทยบางส่วน ที่ไม่แฮปปี้กับผู้บริหารชึดปัจจุบันไปร่วมงานด้วย ก็อาจแยกออกมาร่วมด้วย” แหล่งข่าว วิเคราะห์
ทั้งนี้มีรายงานด้วยว่า กลุ่มของนายภูมิธรรม, นพ.สุรพงษ์ และ นพ.พรหมินทร์ ได้ติดขอใช้อาคารบีบีดี บิลดิง ซ.จินดาถวิล ถ.พระรามที่ 4 เป็นที่ทำการชั่วคราว โดยอาคารบีบีดีเคยเป็นที่ทำการเดิมของพรรคเพื่อไทย สมัยก่อตั้งใหม่ๆแทนที่พรรคพลังประชาชน และเป็นที่ทราบกันว่า อาคารบีบีดี มีชื่อของ นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภรรยานายทักษิณ ชินวัตร เป็นเจ้าของ
ด้าน นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรมว. พลังงาน กล่าวถึงกระแสข่าวข้างต้นา ยอมรับว่ามีการพูดคุยกับหลายกลุ่มเรื่องการตั้งพรรคการเมืองใหม่ เพื่อเป็นความหวังให้กับประชาชน โดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจ ทั้งนี้สภาวะการเมืองปัจจุบัน พรรคการเมืองหลักๆที่มีอยู่ไม่ว่าจะเป็น พรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรคก้าวไกล พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย ต่างมีความนิยมตกต่ำลงอย่างมาก หลายพรรคมีความแตกแยกภายในสูง ไม่สามารถสร้างความหวังให้กับประชาชนได้ ดังนั้นการมีพรรคการเมืองใหม่ จึงมีโอกาสเกิดขึ้นและประสบความสำเร็จได้สูง หากสามารถสร้างความหวังและแก้ปัญหาให้กับประชาขนได้ หากพรรคการเมืองไม่สามารถสร้างความหวังได้ เกรงว่าโอกาสจะเกิดการเปลี่ยนแปลงนอกระบบจะมีสูง จะยิ่งทำให้ประเทศถอยหลังและย่ำแย่ลงไปอีก