ผู้จัดการรายวัน360 สำนักพุทธฯ ตั้งโรงทานตามพระบัญชา “สมเด็จพระสังฆราชฯ” 914 แห่ง ช่วยเหลือประชาชน พร้อมจัดโรงทานเคลื่อนที่แจกอาหาร ลดความแออัด นายกฯเชิญชวนประชาชน ตั้ง"โรงทาน-ตู้ปันสุข"เพิ่ม แนะติดกล้องตามตู้ดูพฤติกรรม ยันไม่อยากลงโทษแต่ต้องเผื่อแผ่แบ่งปัน สั่ง “สธ.-ศธ.-พม.” หาวิธีการเปิดเรียนเหลื่อมเวลา "พิธา"สวน"บิ๊กตู่"วิจารณ์ตู้ปันสุข ดูถูกประชาชน ต้นเหตุเพราะมาตรการรัฐมีปัญหาเอง
วานนี้ (13พ.ค.) นายณรงค์ ทรงอารมณ์ ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า ในสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 สมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงมีพระบัญชาลงมาให้ พศ. ประสานวัดที่มีศักยภาพเพียงพอ จัดตั้งโรงทาน 77 จังหวัด รวม 914 โรงทาน สามารถช่วยเหลือประชาชนได้ 2.7 แสนคน โดยคิดเป็นเงินงบประมาณ 10.9 ล้านบาท คิดเฉลี่ยค่าหัว 40 บาทต่อคน
ขณะที่วัดเล็กที่อยากจะช่วยเหลือ ก็มีการจัดตั้งโรงทานที่เป็นลักษณะตู้ปั้นความสุข ที่กำลังแพร่หลายอยู่ในช่วงนี้ ซึ่งวัดจะมีระบบการจัดคิว เพื่อลดความแออัด มีจุดคัดกรอง มีทางเข้า และออกชัดเจน ประชาชนต้องใส่แมสก์ และมีการเว้นระยะห่าง
อย่างไรก็ตาม การตั้งโรงทานไม่มีเฉพาะในประเทศไทย แต่อยู่ในวัดไทยในต่างประเทศ 550 กว่าแห่ง
เช้าวันเดียวกันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พื้นที่ตรวจเยี่ยมประชาชน ที่วัดระฆังโฆสิตาราม เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ ซึ่งได้ตั้งโรงทาน ตามพระดำริของ สมเด็จพระสังฆราช โดยกล่าวว่า มาดูโรงครัวและโรงทานของวัดระฆังฯ ที่ทำอาหารแจกจ่ายให้กับประชาชน ทั้งที่มารับที่วัด และนำออกไปแจกจ่ายยังชุมชน
"ขอฝากเรื่องการจัดตั้งโรงทานและจัดตั้งตู้ปันสุข หรือตู้แบ่งปัน ที่เป็นการแสดงออกถึงความรักความสามัคคีระหว่างกัน ซึ่งอาจจะเกิดปัญหาขึ้นมาบ้าง ก็แก้ไขกันไป เพราะมีมาตรการทางสังคมอยู่แล้ว ซึ่งตนได้สั่งการให้ดูแลเรื่องตู้แบ่งปันให้มากขึ้น ให้มีคนเฝ้าและติดกล้องเพื่อบันทึกว่าใครมีพฤติกรรมอย่างไร ยันไม่อยากลงโทษใคร เพียงแต่วันนี้เราต้องไม่เห็นแก่ตัว ต้องนึกถึงคนอื่น นำของไปใช้แต่พอดีเพียงพอ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกฯ ยังกล่าวถึงการขยายมาตรการการทำงานที่บ้าน ของภาคเอกชนและภาคธุรกิจ ว่าการทำงานที่บ้าน ไม่ใช่แค่การป้องกันโควิด- 19 อย่างเดียว แต่ตนนึกถึงการแก้ไขปัญหาการจราจร ทั้งนี้ได้สั่งการไปแล้วว่า การเรียน การสอนที่บ้าน ซึ่งจะช่วยลดเวลาที่ต้องไปโรงเรียน รวมถึงมาตรการเหลื่อมเวลาในการทำงาน ที่ทำให้การจราจรไม่ติดขัด ตนได้สั่งการกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ไปหาวิธีการที่จะให้โรงเรียนเปิดเหลื่อมเวลา โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่น
"ผมขอเตือนแม้สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด- 19 จะลดลง แต่อย่าประมาท ถึงตัวเลขจะเป็น 0 ก็ประมาทไม่ได้ เพราะเชื้อโรคยังสะสมอยู่ บางคนไม่แสดงอาการ ไม่ใช่ติดเชื้อน้อยแล้วจะผ่อนปรนมากขึ้น ผมอยากให้เปิดใจจะขาด แต่ถ้ามีผู้ติดเชื้อแล้วจะทำอย่างไร" นายกฯ กล่าว
"พิธา"สวน"บิ๊กตู่"ดูถูกประชาชน
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ วิจารณ์ภาพประชาชนที่กำลังยื้อแย่งข้าวของจาก"ตู้ปันสุข"ว่ารับไม่ได้และอย่าเห็นแก่ตัว พร้อมกับแนะนำให้มีคนเฝ้า หรือติดกล้องบันทึกพฤติกรรมประชาชนนั้น ความคิดดังกล่าวถือเป็นการดูถูกประชาชน และสะท้อนว่า นายกฯ ไม่เคยมองย้อนกลับไปดูการบริหารจัดการของตนเองว่ามีปัญหาเลย ถึงแม้รัฐบาลจะไม่สามารถบริหารเงินเยียวยา 5,000 บาท อย่างมีประสิทธิภาพได้ แต่อย่างน้อย ควรทำโครงการธนาคารอาหาร เพื่อให้ประชาชนมีทางออก ไม่อดตาย เพราะประเทศไทยที่อุดมสมบูรณ์ขนาดนี้ ไม่สมควรต้องมีคนมากมายต้องหิวโหย ซึ่งโครงการธนาคารอาหารนี้ ตนได้เคยเสนอให้รัฐบาลทำตั้งแต่เดือนเม.ย.แล้ว แต่ก็ไม่เคยเกิดขึ้น ทำให้ประชาชนต้องมองหาวิธีการช่วยเหลือดูแลกันเอง และหากต้องเป็นอย่างนี้ทุกครั้ง ก็ไม่รู้ว่าจะมีรัฐบาลแบบนี้ไว้ทำไม
วานนี้ (13พ.ค.) นายณรงค์ ทรงอารมณ์ ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า ในสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 สมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงมีพระบัญชาลงมาให้ พศ. ประสานวัดที่มีศักยภาพเพียงพอ จัดตั้งโรงทาน 77 จังหวัด รวม 914 โรงทาน สามารถช่วยเหลือประชาชนได้ 2.7 แสนคน โดยคิดเป็นเงินงบประมาณ 10.9 ล้านบาท คิดเฉลี่ยค่าหัว 40 บาทต่อคน
ขณะที่วัดเล็กที่อยากจะช่วยเหลือ ก็มีการจัดตั้งโรงทานที่เป็นลักษณะตู้ปั้นความสุข ที่กำลังแพร่หลายอยู่ในช่วงนี้ ซึ่งวัดจะมีระบบการจัดคิว เพื่อลดความแออัด มีจุดคัดกรอง มีทางเข้า และออกชัดเจน ประชาชนต้องใส่แมสก์ และมีการเว้นระยะห่าง
อย่างไรก็ตาม การตั้งโรงทานไม่มีเฉพาะในประเทศไทย แต่อยู่ในวัดไทยในต่างประเทศ 550 กว่าแห่ง
เช้าวันเดียวกันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พื้นที่ตรวจเยี่ยมประชาชน ที่วัดระฆังโฆสิตาราม เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ ซึ่งได้ตั้งโรงทาน ตามพระดำริของ สมเด็จพระสังฆราช โดยกล่าวว่า มาดูโรงครัวและโรงทานของวัดระฆังฯ ที่ทำอาหารแจกจ่ายให้กับประชาชน ทั้งที่มารับที่วัด และนำออกไปแจกจ่ายยังชุมชน
"ขอฝากเรื่องการจัดตั้งโรงทานและจัดตั้งตู้ปันสุข หรือตู้แบ่งปัน ที่เป็นการแสดงออกถึงความรักความสามัคคีระหว่างกัน ซึ่งอาจจะเกิดปัญหาขึ้นมาบ้าง ก็แก้ไขกันไป เพราะมีมาตรการทางสังคมอยู่แล้ว ซึ่งตนได้สั่งการให้ดูแลเรื่องตู้แบ่งปันให้มากขึ้น ให้มีคนเฝ้าและติดกล้องเพื่อบันทึกว่าใครมีพฤติกรรมอย่างไร ยันไม่อยากลงโทษใคร เพียงแต่วันนี้เราต้องไม่เห็นแก่ตัว ต้องนึกถึงคนอื่น นำของไปใช้แต่พอดีเพียงพอ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกฯ ยังกล่าวถึงการขยายมาตรการการทำงานที่บ้าน ของภาคเอกชนและภาคธุรกิจ ว่าการทำงานที่บ้าน ไม่ใช่แค่การป้องกันโควิด- 19 อย่างเดียว แต่ตนนึกถึงการแก้ไขปัญหาการจราจร ทั้งนี้ได้สั่งการไปแล้วว่า การเรียน การสอนที่บ้าน ซึ่งจะช่วยลดเวลาที่ต้องไปโรงเรียน รวมถึงมาตรการเหลื่อมเวลาในการทำงาน ที่ทำให้การจราจรไม่ติดขัด ตนได้สั่งการกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ไปหาวิธีการที่จะให้โรงเรียนเปิดเหลื่อมเวลา โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่น
"ผมขอเตือนแม้สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด- 19 จะลดลง แต่อย่าประมาท ถึงตัวเลขจะเป็น 0 ก็ประมาทไม่ได้ เพราะเชื้อโรคยังสะสมอยู่ บางคนไม่แสดงอาการ ไม่ใช่ติดเชื้อน้อยแล้วจะผ่อนปรนมากขึ้น ผมอยากให้เปิดใจจะขาด แต่ถ้ามีผู้ติดเชื้อแล้วจะทำอย่างไร" นายกฯ กล่าว
"พิธา"สวน"บิ๊กตู่"ดูถูกประชาชน
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ วิจารณ์ภาพประชาชนที่กำลังยื้อแย่งข้าวของจาก"ตู้ปันสุข"ว่ารับไม่ได้และอย่าเห็นแก่ตัว พร้อมกับแนะนำให้มีคนเฝ้า หรือติดกล้องบันทึกพฤติกรรมประชาชนนั้น ความคิดดังกล่าวถือเป็นการดูถูกประชาชน และสะท้อนว่า นายกฯ ไม่เคยมองย้อนกลับไปดูการบริหารจัดการของตนเองว่ามีปัญหาเลย ถึงแม้รัฐบาลจะไม่สามารถบริหารเงินเยียวยา 5,000 บาท อย่างมีประสิทธิภาพได้ แต่อย่างน้อย ควรทำโครงการธนาคารอาหาร เพื่อให้ประชาชนมีทางออก ไม่อดตาย เพราะประเทศไทยที่อุดมสมบูรณ์ขนาดนี้ ไม่สมควรต้องมีคนมากมายต้องหิวโหย ซึ่งโครงการธนาคารอาหารนี้ ตนได้เคยเสนอให้รัฐบาลทำตั้งแต่เดือนเม.ย.แล้ว แต่ก็ไม่เคยเกิดขึ้น ทำให้ประชาชนต้องมองหาวิธีการช่วยเหลือดูแลกันเอง และหากต้องเป็นอย่างนี้ทุกครั้ง ก็ไม่รู้ว่าจะมีรัฐบาลแบบนี้ไว้ทำไม