ผู้จัดการรายวัน360-ตำรวจเร่งรวบรวมหลักฐาน ก่อนออกหมายเรียกครูหื่น 3 ใน 5 รุมโทรมผู้เยาว์รายที่ 2 เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มแยกจากคดีข่มขืน ด.ญ.เอ อายุ 14 ปีอีกคดี เป็นความผิดต่างกรรมต่างวาระ ขณะบ้านพักเด็กรับน.ส.บีเข้าดูแลในบ้านแล้ว “สมศักดิ์”สั่งช่วยเหลือ 2 เด็กนักเรียนหญิง พร้อมส่งทีมคุ้มครองพยานดูแลสภาพจิตใจ หลังผู้ต้องหาได้ประกันตัว
จากกรณีนางอุบล ปัญญาวงค์ ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษครู 5 คน และศิษย์เก่า 2 คน ของโรงเรียนดงมอนวิทยาคม อ.เมือง จ.มุกดาหาร ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราลักษณะรุมโทรมหลานของตน ด.ญ.เอ (นามสมมติ) เด็กนักเรียนอายุ 14 ปี ชั้น ม.2 และ น.ส.บี อายุ 16 ปี เด็กนักเรียนชั้น ม.4 ต่อมาตำรวจได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 7 คน และศึกษาธิการจังหวัดได้ให้ครูทั้ง 5 คนออกจากราชการไว้ก่อน และตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงตามที่เสนอข่าวมานั้น
วานนี้ (11 พ.ค.) พ.ต.ท.ปรีชา ครองยุติ สว.(สอบสวน) สภ.ผึ่งแดด กล่าวว่า พนักงานสอบสวนเห็นว่าในส่วนของ น.ส.บี นอกจากจะเป็นพยานในคดี ด.ญ.เอแล้ว ยังเป็นผู้เสียหายอีกด้วย โดยเป็นการกระทำความผิดต่างกรรมต่างวาระ และต้องแยกเป็นอีกหนึ่งคดีต่างหากจากคดี ด.ญ.เอ จึงได้ให้ น.ส.บีแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อนายวิพจน์ แสนสุข นายอานุภาพ บรรจง และนายยุทธนา ภู่ถนนนอก ในข้อหาร่วมข่มขืนกระทำชำเราอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง พรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไร หรือเพื่อการอนาจาร
“ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียดรอบคอบรัดกุม เพื่อดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดทุกคนและขออำนาจศาลออกหมายจับต่อไป ส่วนกรณีที่ยื่นถอนประกัน ถ้าหากผู้ต้องหามีการข่มขู่หรือคุกคาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำเรื่องเสนอต่อศาลเสนอถอนประกันได้ ขณะที่ข้อหาค้ามนุษย์ ขณะนี้ยังไม่เข้าเกณฑ์ แต่ถ้ามีหลักฐานเพิ่มก็จะแจ้งข้อกล่าวหาทันที”
ทั้งนี้ คดีของ น.ส.บี เหยื่อรายที่ 2 ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ผึ่งแดด ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา สำนวนแยกเป็น 2 คดี เนื่องจาก น.ส.บีเป็นพยานในคดี ด.ญ.เอ และเป็นผู้เสียหายด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจจะออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหา หากไม่มาก็จะออกหมายจับต่อไป
น.ส.ศิริกาญจน์ คล่องดี นักพัฒนาการเด็ก บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า บ้านพักเด็กฯ รับน้องอายุ 16 ปี ผู้เสียหายมาดูแลในบ้านแล้ว ส่วนเรื่องเรียน มีหน่วยงานในสังกัดที่สามารถส่งเด็กเข้าไปเรียนได้ ขึ้นอยู่กับน้องอยากเรียนที่ไหน หากทางครอบครัวดูแลได้ ก็จะส่งไปอยู่กับครอบครัว ตอนเปิดเทอม จะพาไปส่ง ถ้าอยู่ไม่ได้ ก็ต้องดูแล ถ้าส่งไปเรียน มีรถรับส่ง มีอาหารอย่างดี มีทุนให้ทุกอย่าง ถ้าเขาประสงค์ ต้องอยู่ที่ตัวน้องด้วย
ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีครู 5 คน และรุ่นพี่ 2 คน ข่มขืนนักเรียนหญิงชั้น ม.2 และม.4 ว่า กระทรวงยุติธรรมได้ลงพื้นที่สอบถาม เยี่ยมเยียน และแจ้งสิทธิเยียวยาในฐานะผู้เสียหายในคดีอาญาแล้ว โดยสิทธิ์ที่จะได้รับมีอยู่ 3 ส่วน คือ 1.ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการรักษาพยาบาล จ่ายเท่าที่จ่ายจริง ไม่เกิน 40,000 บาท ตามใบเสร็จรับเงินต้นฉบับ 2.ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจ จ่ายเท่าที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 20,000 บาท ตามใบเสร็จรับเงินต้นฉบับ และ 3.ค่าตอบแทนความเสียหายอื่น 50,000 บาท
นอกจากนี้ ได้ส่งทีมคุ้มครองพยานลงพื้นที่ เพราะนักเรียนหญิงทั้ง 2 คน ยังคงมีความกลัวและหวาดระแวง เพราะผู้ต้องหาได้รับการประกันตัว เด็กจึงมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย เห็นรถยนต์วิ่งผ่านหน้าบ้านแล้วกังวลว่าจะเป็นฝ่ายคู่กรณีมาข่มขู่คุมคาม ขณะเดียวกัน กองทุนยุติธรรมได้จ้างทนายความดำเนินคดีแพ่งกับโรงเรียน ทั้งยังส่งนักจิตวิทยาของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนเข้าดูแลเยียวยาด้านจิตใจอีกด้วย
จากกรณีนางอุบล ปัญญาวงค์ ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษครู 5 คน และศิษย์เก่า 2 คน ของโรงเรียนดงมอนวิทยาคม อ.เมือง จ.มุกดาหาร ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราลักษณะรุมโทรมหลานของตน ด.ญ.เอ (นามสมมติ) เด็กนักเรียนอายุ 14 ปี ชั้น ม.2 และ น.ส.บี อายุ 16 ปี เด็กนักเรียนชั้น ม.4 ต่อมาตำรวจได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 7 คน และศึกษาธิการจังหวัดได้ให้ครูทั้ง 5 คนออกจากราชการไว้ก่อน และตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงตามที่เสนอข่าวมานั้น
วานนี้ (11 พ.ค.) พ.ต.ท.ปรีชา ครองยุติ สว.(สอบสวน) สภ.ผึ่งแดด กล่าวว่า พนักงานสอบสวนเห็นว่าในส่วนของ น.ส.บี นอกจากจะเป็นพยานในคดี ด.ญ.เอแล้ว ยังเป็นผู้เสียหายอีกด้วย โดยเป็นการกระทำความผิดต่างกรรมต่างวาระ และต้องแยกเป็นอีกหนึ่งคดีต่างหากจากคดี ด.ญ.เอ จึงได้ให้ น.ส.บีแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อนายวิพจน์ แสนสุข นายอานุภาพ บรรจง และนายยุทธนา ภู่ถนนนอก ในข้อหาร่วมข่มขืนกระทำชำเราอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง พรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไร หรือเพื่อการอนาจาร
“ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียดรอบคอบรัดกุม เพื่อดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดทุกคนและขออำนาจศาลออกหมายจับต่อไป ส่วนกรณีที่ยื่นถอนประกัน ถ้าหากผู้ต้องหามีการข่มขู่หรือคุกคาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำเรื่องเสนอต่อศาลเสนอถอนประกันได้ ขณะที่ข้อหาค้ามนุษย์ ขณะนี้ยังไม่เข้าเกณฑ์ แต่ถ้ามีหลักฐานเพิ่มก็จะแจ้งข้อกล่าวหาทันที”
ทั้งนี้ คดีของ น.ส.บี เหยื่อรายที่ 2 ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ผึ่งแดด ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา สำนวนแยกเป็น 2 คดี เนื่องจาก น.ส.บีเป็นพยานในคดี ด.ญ.เอ และเป็นผู้เสียหายด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจจะออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหา หากไม่มาก็จะออกหมายจับต่อไป
น.ส.ศิริกาญจน์ คล่องดี นักพัฒนาการเด็ก บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า บ้านพักเด็กฯ รับน้องอายุ 16 ปี ผู้เสียหายมาดูแลในบ้านแล้ว ส่วนเรื่องเรียน มีหน่วยงานในสังกัดที่สามารถส่งเด็กเข้าไปเรียนได้ ขึ้นอยู่กับน้องอยากเรียนที่ไหน หากทางครอบครัวดูแลได้ ก็จะส่งไปอยู่กับครอบครัว ตอนเปิดเทอม จะพาไปส่ง ถ้าอยู่ไม่ได้ ก็ต้องดูแล ถ้าส่งไปเรียน มีรถรับส่ง มีอาหารอย่างดี มีทุนให้ทุกอย่าง ถ้าเขาประสงค์ ต้องอยู่ที่ตัวน้องด้วย
ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีครู 5 คน และรุ่นพี่ 2 คน ข่มขืนนักเรียนหญิงชั้น ม.2 และม.4 ว่า กระทรวงยุติธรรมได้ลงพื้นที่สอบถาม เยี่ยมเยียน และแจ้งสิทธิเยียวยาในฐานะผู้เสียหายในคดีอาญาแล้ว โดยสิทธิ์ที่จะได้รับมีอยู่ 3 ส่วน คือ 1.ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการรักษาพยาบาล จ่ายเท่าที่จ่ายจริง ไม่เกิน 40,000 บาท ตามใบเสร็จรับเงินต้นฉบับ 2.ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจ จ่ายเท่าที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 20,000 บาท ตามใบเสร็จรับเงินต้นฉบับ และ 3.ค่าตอบแทนความเสียหายอื่น 50,000 บาท
นอกจากนี้ ได้ส่งทีมคุ้มครองพยานลงพื้นที่ เพราะนักเรียนหญิงทั้ง 2 คน ยังคงมีความกลัวและหวาดระแวง เพราะผู้ต้องหาได้รับการประกันตัว เด็กจึงมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย เห็นรถยนต์วิ่งผ่านหน้าบ้านแล้วกังวลว่าจะเป็นฝ่ายคู่กรณีมาข่มขู่คุมคาม ขณะเดียวกัน กองทุนยุติธรรมได้จ้างทนายความดำเนินคดีแพ่งกับโรงเรียน ทั้งยังส่งนักจิตวิทยาของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนเข้าดูแลเยียวยาด้านจิตใจอีกด้วย