มุกดาหาร - พงส.สภ.ผึ่งแดดเร่งรวบรวมหลักฐานก่อนออกหมายเรียกครูหื่น 3 ใน 5 รุมโทรมผู้เยาว์รายที่ 2 เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มแยกจากคดีข่มขืน ด.ญ.เอ อายุ 14 ปีอีกคดี เป็นความผิดต่างกรรมต่างวาระ ขณะบ้านพักเด็กฯ รับ น.ส.บีเข้าดูแลในบ้านแล้ว
สืบเนื่องจากคดีที่ นางอุบล ปัญญาวงค์ ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษครู 5 คน และศิษย์เก่า 2 คน ของโรงเรียนดงมอนวิทยาคม อ.เมือง จ.มุกดาหาร ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราลักษณะรุมโทรมหลานของตน ด.ญ.เอ (นามสมมติ) เด็กนักเรียนอายุ 14 ปี ชั้น ม.2 และได้กล่าวอ้างถึง น.ส.บี อายุ 16 ปี เด็กนักเรียนชั้น ม.4 เป็นพยานรู้เห็นเหตุการณ์ด้วย เมื่อมีการสอบปากคำได้ปรากฏข้อเท็จจริงว่า วันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา เวลา 13.00 น. นายวิพจน์ แสนสุข และนายอานุภาพ บรรจง ได้นัด ด.ญ.เอ และ น.ส.บีมาพบที่บ้านพักครูของนายวิพจน์
จากนั้นนายวิพจน์ก็ได้กระทำชำเรา ด.ญ.เอ และนายอานุภาพได้กระทำชำเรา น.ส.บี ในห้องเดียวกัน ระหว่างนั้นนายวิพจน์ และนาอานุภาพยังได้มีการสลับคู่กัน โดยนายอานุภาพได้กระทำชำเรา ด.ญ.เอ และนายวิพจน์กระทำชำเรา น.ส.บี ขณะนั้นได้มีนายยุทธนา ภู่ถนนนอก เข้ามาในห้อง นายอานุภาพก็ได้ลุกขึ้นและลงด้านล่างของบ้านพัก จากนั้นนายยุทธนาก็ได้กระทำชำเรา ด.ญ.เอ และ น.ส.บี สลับกันไปมา หลังจากนั้นนายวิพจน์ได้กลับขึ้นมาบนห้องและได้กระทำชำเรา ด.ญ.เอต่ออีกจนสำเร็จความใคร่
ต่อมาวันที่ 4 มี.ค. เวลาประมาณ 14.30 น. นายวิพจน์ได้นัด ด.ญ.เอ และ น.ส.บีไปพบที่บ้านพักครูของนายวิพจน์อีก เมื่อไปถึงก็ได้กระทำชำเรา ด.ญ.เอ ส่วน น.ส.บีถูกนายยุทธนากระทำชำเรา จากนั้นนายวิพจน์ได้ขอสลับคู่กับนายยุทธนา ซึ่งนายยุทธนาก็ได้กระทำชำเรา ด.ญ.เอ ส่วนนายวิพจน์กระทำชำเรา น.ส.บี ต่อมา นายวิพจน์ขอสลับคู่คืนอีก จนกระทั่งนายวิพจน์ และนายยุทธนาสำเร็จความใคร่
ล่าสุดวันนี้ (11 พ.ค.) พ.ต.ท.ปรีชา ครองยุติ สว.(สอบสวน) สภ.ผึ่งแดด เปิดเผยว่า จากข้อเท็จจริงดังกล่าว พนักงานสอบสวนจึงเห็นว่าในส่วนของ น.ส.บี นอกจากจะเป็นพยานในคดี ด.ญ.เอแล้ว ยังเป็นผู้เสียหายอีกด้วย โดยเป็นการกระทำความผิดต่างกรรมต่างวาระ และต้องแยกเป็นอีกหนึ่งคดีต่างหากจากคดี ด.ญ.เอ จึงได้ให้ น.ส.บีแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อนายวิพจน์ แสนสุข นายอานุภาพ บรรจง และนายยุทธนา ภู่ถนนนอก ในข้อหาร่วมข่มขืนกระทำชำเราอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไร หรือเพื่อการอนาจาร
พนักงานสอบสวนได้รับเป็นคดี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียดรอบคอบรัดกุม เพื่อดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดทุกคนและขออำนาจศาลออกหมายจับต่อไป กรณีที่ยื่นถอนประกัน ถ้าหากผู้ต้องหามีการข่มขู่หรือคุกคาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำเรื่องเสนอต่อศาลเสนอถอนประกันได้ทันที ส่วนข้อหาค้ามนุษย์ ขณะนี้ยังไม่เข้าเกณฑ์ แต่ถ้ามีหลักฐานเพิ่มก็จะแจ้งข้อกล่าวหาทันที
ในส่วนคดีของ น.ส.บี เหยื่อรายที่ 2 ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ผึ่งแดด ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา สำนวนแยกเป็น 2 คดี เนื่องจาก น.ส.บีเป็นพยานในคดี ด.ญ.เอ และเป็นผู้เสียหายด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจจะออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหา หากไม่มาก็จะออกหมายจับต่อไป
ด้าน น.ส.ศิริกาญจน์ คล่องดี นักพัฒนาการเด็ก บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดมุกดาหาร บอกว่า บ้านพักเด็กฯ รับน้องอายุ 16 ปี ผู้เสียหายมาดูแลในบ้าน ส่วนถามเรื่องเรียนว่าน้องอยากเรียนต่อไหม เรามีหน่วยงานในสังกัดที่สามารถส่งเด็กเข้าไปเรียนได้ ขึ้นอยู่กับน้องอยากเรียนที่ไหน หากทางครอบครัวดูแลได้ เราก็ส่งไปอยู่กับครอบครัว ตอนเปิดเทอมเราก็พาไปส่ง
ถ้าอยู่ไม่ได้เราก็ต้องดูแล ถ้าส่งไปเรียนเรามีรถรับส่ง มีอาหารอย่างดี มีทุนให้ทุกอย่าง ถ้าเขาประสงค์ ต้องอยู่ที่ตัวน้องด้วย
“ถ้าเด็กไม่ประสงค์จะเรียน เราไม่สามารถบังคับเขาได้ และจะมีนักจิตวิทยาประเมินก่อน มีหลายหน่วยงานเข้ามาดูแล หลังจากน้องได้เข้ามาที่บ้านพักก็มีแม่ของน้องมาเยี่ยม ขณะนี้ไม่อยากให้ใครมาเยี่ยมเท่าไหร่ เราคุมน้องอยู่ เพราะเพิ่งเข้ามาอยู่กับเราได้ 2 วัน”
สำหรับฐานะทางบ้านของน้อง เท่าที่ดูก็ไม่เชิงว่ายากจน แต่เป็นครอบครัวแตกแยก พ่อแม่แยกทางกัน ครอบครัวน้องมีตายายและหลาน เข้ามาวันแรกน้องนอนไม่หลับ เครียด ต้องกินยา ที่นี่มีเวรตลอด 24 ชั่วโมง
ส่วนเรื่องพิทักษ์สิทธิเด็กเป็นหน้าที่ของเรา กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ดูแลเต็มที่ และทางบ้านของเด็กไม่ได้บังคับให้เด็กมา เขาเต็มใจมาอยู่ในความควบคุมดูแลของเรา จะดูแลตามภารกิจ
หากน้องอยู่ในพื้นที่ เรื่องกำลังแรง เข้ามาอยู่ที่นี่ก็สบายใจขึ้น ทางสหวิชาชีพจะเข้ามาประเมินว่าเด็กสมควรจะได้รับความช่วยเหลืออย่างไรบ้าง รวมถึงทุนการศึกษาเรียนต่อได้หลักเกณฑ์ตามระเบียบ