ก่อนเกิดวิกฤตเชื้อไวรัสโควิด-19 รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กำลังตกที่นั่งลำบาก ถูกโจมตีรอบด้าน จนมีกระแสข่าวการปรับ ครม.ลือสะพัด แต่ถึงวันนี้สถานการณ์รัฐบาลดีขึ้นมาก ขณะที่คะแนนนิยมพล.อ.ประยุทธ์เริ่มตีกลับ
ผลงานการแก้ปัญหาแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้พลิกชะตากรรมของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จากอาการร่อแร่ ทำท่าอาจไปไม่รอด กลายเป็นรัฐบาลที่มีแนวโน้มจะอยู่ต่อได้อีกยาว
ประชาชนที่เคยเบื่อหน่ายและเตรียมเคลื่อนไหวต่อต้านพล.อ.ประยุทธ์ เริ่มปรับทัศนคติใหม่ หันมาชื่นชม กลับมาเป็นฐานมวลชนที่พร้อมจะสนับสนุนอีกครั้ง โดยแสดงปฏิกิริยาต่อต้านกลุ่มที่ออกมาโจมตีมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส
แม้แต่พรรคการเมืองฝ่ายค้านที่วิพากษ์วิจารณ์มาตรการล็อกดาวน์ ยังกลายเป็นผู้ร้ายหรือตัวก่อกวนในสายตาประชาชน
จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสไม่กี่พันราย จำนวนผู้เสียชีวิตเพียงหลักสิบ และผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ลดลงจนเหลือหลักหน่วย หรือบางวันกลายเป็นศูนย์ โดยไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เลย ทำให้ประเทศไทยได้รับการยกย่อง ในฐานะประเทศที่สามารถบริหารจัดการวิกฤตเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้อย่างดีเยี่ยม
และไม่ว่าความสำเร็จมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะเกิดจากจุดใด แต่การที่ประเทศไทยไม่ตกอยู่ในวิกฤตเหมือนประเทศแถวยุโรป หรือหลายประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียน ต้องถือเป็นผลงานชิ้นโบแดงของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์
และทำให้รู้สึกว่า ผู้นำคนนี้สามารถสร้างสิ่งดีๆ ได้เหมือนกัน เพียงแต่เกือบ 6 ปีที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ไม่เคยสร้างผลงานที่เป็นรูปธรรมให้เห็นเท่านั้น
เชื้อไวรัสมรณะ “โควิด” แม้จะคุกคามมวลมนุษย์ทั้งโลก สร้างผลกระทบร้ายแรงต่อระบบเศรษฐกิจ และปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตคนใหม่ แต่สำหรับรัฐบาล “ลุงตู่”กลับได้รับอานิสงส์ เพราะเสถียรภาพรัฐบาลที่กำลังง่อนแง่น กลับแข็งแกร่งมีเสถียรภาพขึ้นมาภายในชั่วเวลาไม่กี่เดือน
เกือบตลอด 6 ปี แม้ไม่เคยมีผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน แต่การกำราบเชื้อ “โควิด” จนอยู่มือ กลายเป็นผลงานชิ้นสำคัญที่ทำให้ประชาชนลืมความล้มเหลวของพล.อ.ประยุทธ์ และพร้อมจะให้โอกาสใหม่อีกครั้ง
ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ก็ปรับบุคลิกภาพใหม่ เป็นผู้นำนิว นอร์มอล มีความสำรวมขึ้น ไม่หงุดหงิดอารมณ์เสียง่าย ไม่พูดจาแข็งก้าวเหมือนก่อน
ผลงานการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส “โควิด” เหมือนประกาศนียบัตรยืนยันว่า รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์สอบผ่านด่านทดสอบสำคัญ ส่วนผู้นำหลายประเทศทั่วโลกอาจสอบไม่ผ่าน โดยเฉพาะประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ซึ่งคะแนนนิยมน่าจะตกรูด เพราะสหรัฐฯ ครองแชมป์จำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตมากที่สุด
พรรคฝ่ายค้าน ถ้าฉลาด ช่วงนี้ควรหลีกเลี่ยงการโจมตีรัฐบาล โดยเฉพาะการดำเนินมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส เพราะแม้มาตรการจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตตามปกติ แต่ประชาชนส่วนใหญ่สนับสนุนการใช้ยาแรง จึงไม่เอาด้วยกับฝ่ายค้าน
เส้นทางการเป็นผู้นำของพล.อ.ประยุทธ์สดใสขึ้นทันตาเห็น โอกาสที่จะอยู่ครบวาระ 4 ปีมีความเป็นไปได้สูงแล้ว แต่จะอยู่ยาวต่ออีกสมัยได้หรือไม่ คงขึ้นอยู่กับการสร้างผลงานอื่นให้เข้าตาประชาชน เช่นเดียวกับการควบคุมการแพร่ระบาดของ “โควิด”
ปัญหาใหญ่ของประเทศที่ยังไม่ได้แก้ไข และบั่นทอนความศรัทธาพล.อ.ประยุทธ์มาตลอด คือ การปฏิรูปประเทศ การปฏิรูปการเมือง การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม การปราบทุจริตคอร์รัปชัน และความล้มเหลวในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
ผลงานการแก้วิกฤต “โควิด” อาจเป็นจุดขายของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ได้ชั่วระยะหนึ่ง แต่จะใช้หากินไปตลอดไม่ได้ เพราะเมื่อสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ ประชาชนจะกลับมาเรียกร้องการแก้ปัญหาต่างๆ อีกครั้ง และถ้าไม่ได้รับการตอบสนอง พล.อ.ประยุทธ์ยังเพิกเฉย ไม่มีผลงานเหมือน 5 ปีเศษที่ผ่านมา กระแสความเสื่อมศรัทธาในตัวผู้นำจะกลับมาใหม่
การฝ่าวิกฤต “โควิด” น่าจะทำให้พล.อ.ประยุทธ์ประเมินได้แล้วว่า ประชาชนพร้อมให้โอกาสรัฐบาลเพียงใด ขอให้มีผลงานการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมเท่านั้น
ถ้าสร้างผลงานได้อย่างต่อเนื่อง ปฏิรูปประเทศอย่างจริงจัง ปราบทุจริตคอร์รัปชันให้สิ้น แก้ปัญหาปากท้องได้สำเร็จ ทำไมใครจะไม่อยากให้พล.อ.ประยุทธ์อยู่ยาวๆ
ถ้ามีผู้นำที่ดี สร้างผลงานอย่างเป็นรูปธรรม ขจัดปัดเป่าทุกข์ คืนความสงบสุขให้ประชาชนได้ ใครอยากจะให้ลุงตู่ออกไป
ผลงานการแก้ปัญหาวิกฤตเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นโอกาสเริ่มสู่การเป็นผู้นำที่ดี มีคุณค่าแก่ความศรัทธาของพล.อ.ประยุทธ์
เพียงแต่จะสานต่อผลงานการแก้ปัญหาต่างๆ ที่พล.อ.ประยุทธ์ล้มเหลวมาตลอดเกือบ 6 ปีที่ผ่านมาได้หรือไม่เท่านั้น จะอาศัยผลงานการแก้ “โควิด” หากินตลอดไปไม่ได้