“จะเลิกโกงกิน...ได้หรือยัง?”

"โสภณ องค์การณ์"

บ้านเมืองกำลังเผชิญวิกฤตจากการระบาดของโรคโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ส่งผลกระทบต่อระบบการจัดการด้านสาธารณสุข เศรษฐกิจ สังคม และมีการเมืองแทรกอยู่เป็นระยะๆ ประชาชนส่วนใหญ่เผชิญปัญหาการดำรงชีวิต หวังอยู่ให้รอด

รัฐบาลอ้างเหตุความจำเป็นต้องก่อหนี้เพิ่ม มีภาระรวม 1.9 ล้านล้านบาท เพื่อภารกิจฟื้นฟูประเทศ นอกเหนือจากการต่อสู้กับการระบาด ซึ่งดูเหมือนจะ “เอาอยู่” ด้วยมาตรการเข้มอย่างที่ประชาชนได้รับรู้มากว่า 1 เดือนหวังว่าจะสำเร็จในที่สุด

แต่เป็นวิกฤตที่เผชิญกันทั้งโลก และยังไม่รู้ว่าทางออกจะมีเมื่อไหร่ การทดลองผลิตวัคซีนและยารักษาคาดว่าอย่างเร็วจะได้สิ้นปีนี้ หรือถ้านานก็ 18 เดือน ยังถือว่ารวดเร็ว โดยปกติการคิดค้นวัคซีนสำหรับโรคร้ายต้องใช้เวลานานถึง 10 ปีหรือกว่านั้น

ดังนั้น มีคำขออย่างง่ายๆ “เลิกโกงกันได้หรือยัง” เพื่อเห็นแก่แผ่นดินเกิด และควรมีจิตสำนึกบุญคุณว่าได้อยู่มาทุกวันนี้ตั้งแต่บรรพบุรุษจนถึงตัวเอง และประเทศไทยเป็นที่น่าอิจฉาของคนในประเทศอื่นๆ มีความอุดมสมบูรณ์ สภาพเอื้ออำนวย

ที่ว่านี้ไม่ได้เจาะจงว่าใครโกง แต่คนจะโกงได้ไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดาทั่วไป เป็นพวกที่มีอำนาจและเงิน เป็นแกนอักษะแห่งความชั่วร้ายที่รู้กันชัดๆ คือ “นักการเมือง ข้าราชการ และพ่อค้า” ส่วนนักการเมืองรวมถึงผู้กุมอำนาจรัฐทุกประเภทและสมุน

ที่รู้กันโดยทั่วไปก็คือ ประเทศไทยเป็นดินแดนแห่งการทุจริต คอร์รัปชั่น กินในระดับ 40 กว่าเปอร์เซ็นต์ จนมีคำพูดว่า “ถ้าเลิกโกง ประเทศไทยทำถนนปูด้วยทองคำก็ยังได้”* มายุคนี้ งบประมาณและโครงการใหญ่มาก จะแถมฝังเพชรก็ยังได้!

มีคำพูดที่แสบกว่านั้น “ประเทศไทยนี้แสนดีทุกอย่าง เสียอย่างเดียวมีคนไทยอยู่” ทำให้ทรัพยากรธรรมชาติถูกล้างผลาญ งบการพัฒนาถูกดูดโดยพวกนักโกงทั้งหลาย แต่จะว่า “คนไทย” ก็ไม่ถูกนัก คนเชื้อชาติอื่นมาอาศัยอยู่ที่นี่หลากหลายและจำเป็นต้องเข้าร่วมขบวนการโกง มีคำว่า “น้ำร้อนน้ำชา” “เก๊าเจี๊ยะ” “คอมมิชชั่น” และ kickbacks ซึ่งก็แปลว่า “เงินทอน” เท่ากับว่ามีทั้งจีน แขก ฝรั่ง ฯลฯ

อยากเห็นจริงๆ ว่า “ถนนปูด้วยทองคำ” เป็นเพียงคำอุปมาอุปมัย เปรียบเทียบเชิงแดกดันประชด หรือไม่ แต่ต้องยอมรับว่าประเทศไทยเคยอุดมสมบูรณ์มาก มีโกงกิน คอร์รัปชั่นไต่ระดับตั้ง 5-10 เปอร์เซ็นต์ยุคก่อนจนถึงระดับ 40 กว่าเปอร์เซ็นต์...

ความเสื่อมของโครงสร้างระบบนิติรัฐ นิติธรรม กระบวนการยุติธรรมบางระดับ ทำให้การบังคับใช้กฎหมายไม่ได้ผล กฎหมายเอื้อมไม่ถึงผู้มีอำนาจ อิทธิพล การแก่งแย่งชิงผลประโยชน์ทางการเมือง ทรัพยากรแผ่นดินเป็นเหยื่อของการกอบโกย

จากงบประมาณแต่ละปี ถ้าโดนดูดออกไปเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ก็มหาศาล!

บ้านเมืองยังไม่ถึงขั้นล่มจม โครมเดียวเพราะคอร์รัปชั่น เพียงแต่ทำให้รากฐานผุกร่อน อ่อนล้าไปทุกวัน ต้องแบกรับภาระหนี้สินจากการกู้ และประชาชนทุกระดับมีหนี้สิน ยิ่งมายุคโควิด-19 แม้แต่มหาเศรษฐียังไม่แน่ว่าจะรอดเพราะภาระตราสารหนี้

กู้กันได้ กู้กันดี กลุ่มบริษัทขนาดใหญ่มีภาระหุ้นกู้ตราสารหนี้มากถึง 4-6 แสนล้าน หรือกว่านั้น จะมีปัญญาเอาเงินที่ไหนมาใช้คืน นอกจากจะออกหุ้นกู้ตราสารหนี้รุ่นใหม่ออกมาระดมเงินใช้คืนรุ่นเก่า จะมีความจำเป็นต้องหาทางให้ได้เงินเร็ว

บางรายต้องหาทางลัดด้วยการคิดไม่ซื่อ ก็เป็นส่วนหนึ่งของการสานต่อกิจกรรมคอร์รัปชั่น ทั้งภาคเอกชนด้วยกัน หรือผู้มีอำนาจบางระดับมีส่วนรับรู้ และรับด้วย นี่แหละถึงได้มีคำขอซื่อๆ ว่า “หยุดโกงกันได้หรือยัง เพื่อเห็นแก่บ้านเมือง”

อาจมีคนย้อนกลับ “ไปหาบันไดไต่ขึ้นสวรรค์จะง่ายกว่ามั้ง” หรือให้แสบ เห็นภาพชัด คือ “เอาภูเขายัดครก” ยังจะง่ายกว่า ยิ่งการเข็นครกขึ้นภูเขาก็ทำได้ง่ายกว่าด้วย เพราะพวกที่เคยโกง ไม่เคยคิดโกง เว้นแต่ไม่มีหนทาง หรือโดนกฎหมายจัดการ

มีคำพูดว่า “การพนันอยู่ในสายเลือดของคนไทย” การพนันคือความเสี่ยงโชค และเสี่ยงต่อการถูกจับถ้าพนันโดยผิดกฎหมายหรือในบ่อนเถื่อน ทำนองเดียวกัน เมื่อการโกงกันเยอะ คงเปรียบเปรยได้ว่า “การโกงกินอยู่ในสายเลือดของคนไทย”

น่าจะเปลี่ยนใหม่ว่า “การโกงกินอยู่ในสายเลือดของคนอาศัยแผ่นดินนี้อยู่” ไม่ต้องแยกแยะเชื้อชาติ สัญชาติให้กระเทือนซางกลุ่มผู้รักชาติและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ก็รับรู้กันอยู่ว่าการทุจริต คอร์รัปชั่นได้หยั่งรากลงลึกทั่วทุกหัวระแหง

*แผ่นดินนี้เป็นอะไร จึงได้เพาะพันธุ์เชื้อโกงได้มาก มีศักยภาพโกงกินได้ทุกอย่าง ไม่อายฟ้าดิน ยิ่งพวกที่ได้กล่าวคำปฏิญาณเสียงดัง หน้าตาขึงขัง ด้วยแล้ว ทำไมโกงได้เก่งไม่แพ้นักการเมืองกังฉิน การโกงไม่ต้องมีหลักสูตรอบรมหรือไง

ถ้ายังโกงแบบนี้ ทั้งๆ ที่บ้านเมืองอ่อนล้า อาจถึงจุดสิ้นชาติสักวันหนึ่ง!

แต่พูดแบบโลกสวยต้องว่า “คนดีใจซื่อมือสะอาดก็มีนะ ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองล่มจมไปนานแล้ว” ก็จริงอยู่ แต่คนใจซื่อมือสะอาดมีความรู้ ความสามารถ รักชาติบ้านเมืองไม่เคยได้มีโอกาสกุมอำนาจรัฐ และบริหารจัดการให้ชาวบ้านอยู่ดีมีสุข

ถ้าประเทศไทยผ่านโควิด-19 ไปได้ ต้องใช้เงินฟื้นฟูประเทศมาก และงบต่างๆ ที่จะกู้มาเสริมงบประมาณกำลังถูกมองโดยพวกนักโกงอย่างมีความหวัง อยากมีส่วนร่วมในการจัดการ และขอส่วนแบ่งตามสิทธิพึงได้พึงมี พร้อมจะเตะตัดขาแย่งกันโกง

ต้องถามดังๆ กระตุ้นต่อมจิตสำนึก ถ้ายังเหลือความเป็นคนเหลืออยู่ “จะเลิกโกงบ้านกินเมืองกันหรือยัง เพื่อเห็นแก่บ้านเมือง” ถามไปอย่างนั้นแหละ เข้าหูใครบ้างหรือเปล่า หรือเข้าไปแล้ว ได้ยินแล้ว แต่ทะลุออกหูอีกข้างหนึ่งหรือเปล่าก็ไม่รู้

ต้องรอให้โลกหยุดหมุน พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกก่อนหรืออย่างไร จึงจะคิดเลิกโกง?