บางคำพูดของประธานาธิบดี “สี จิ้นผิง” สะท้อนตรงๆ ถึงวิธีคิดและวิธีทำงานของท่านผู้นำประเทศจีน ที่ว่า...
“หนึ่งใจทำให้บ้านเมืองล่มสลายได้ หนึ่งใจทำให้บ้านเมืองรุ่งเรืองได้ เพียงแค่ระหว่างส่วนรวมกับส่วนตัวเท่านั้น”
“สี จิ้นผิง” ยังพูดถึงการใช้ปัญญาทำงาน มิใช่ใช้คำพูดแบบ “น้ำท่วมทุ่ง-ผักบุ้งโหรงเหรง” ทั้งยังต้องมุ่งมั่นทำงานให้ประชาชนดังนี้...
“ผู้ทรงปัญญาแยกแยะได้ด้วยใจโดยไม่เปลืองคำพูด ทุ่มเทโดยมิหวังความดีความชอบ ด้วยเหตุนี้ชื่อเสียงจึงขจรขจาย”
อีกคำพูดที่สั้น-เรียบง่าย-ชัดเจน ฯลฯ โดย “สี จิ้นผิง” ได้เน้นย้ำถึงหลักการสำคัญที่ต้องทำ ของสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีน และข้าราชการทุกระดับชั้นของจีน นั่นคือ
“ขจัดความทุกข์ร้อนของราษฎร ดุจดังขจัดโรคร้ายของตนเอง”
วิธีคิดวิธีทำงานที่เด็ดขาดของ “สี จิ้นผิง” เช่นนั้น ทำให้ “โควิด-19” ในชาติจีนถูกสยบลงได้อย่างรวดเร็ว!
ศึกสงคราม “โควิด-19” กับ “มนุษย์” ได้เกิดเรื่องราวทั้งดีและเลวขึ้นมากมายทั่วโลก...
ชาติไทย-มีการสถาปนา “ก.สาธารณสุข” ในปี 2485 ต่อมามีการประกาศอย่างเป็นทางการ ให้วันที่ “27 พฤศจิกายน” ของทุกปี เป็น “วันสถาปนา ก.สาธารณสุข”
ชาติไทยโชคดี-ที่มี “สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก” ทรงเป็นองค์พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันและการสาธารณสุขของไทย อีกทั้งยังโชคดีที่มี “สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี” ทรงเป็นองค์พระมารดาแห่งการสาธารณสุขไทย ที่วงการ “แพทย์-พยาบาล-บุคลากรสาธารณสุขไทย” รวมทั้งพสกนิกรชาวไทยเคารพเทิดทูน มาอย่างยาวนานตราบจนทุกวันนี้...
ชาติไทยโชคดีอีก-ที่มี “บุคลากรทางการแพทย์-พยาบาล-อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.)” ที่มีคุณภาพ และรับผิดชอบดูแลเรื่องสุขภาพให้กับประชาชนมาตลอด โดยเฉพาะการพัฒนาระบบการแพทย์และการสาธารณสุข ทำให้คุณภาพชีวิตด้านสาธารณสุขของคนไทยดีขึ้น...
ดังผลงานทางการแพทย์-พยาบาล-อสม. ในยุคมหันตภัย “โควิด-19” ระบาดทั่วโลกกว่า 200 ประเทศ มีผู้ติดเชื้อร้ายนี้เกิน 2 ล้าน 4 แสนคน เสียชีวิตไปแล้วเกือบ 1 แสน 7 หมื่นคน ทำให้หลายชาติมหาอำนาจอย่าง “จีน-อเมริกา-อังกฤษ-อิตาลี-สเปน-ฝรั่งเศส” ที่ก้าวหน้าทางด้านการแพทย์ แต่กลับมีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตอย่างมากมาย...
ในขณะที่ไทยแลนด์ ประเทศเล็กๆ มี “บุคลากรทางการแพทย์-พยาบาล-อสม.” เป็น “นักรบแนวหน้า” กล้าหาญ-เข้มแข็ง-อดทน-มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่อย่างสูงยิ่ง ได้ประคับประคองดูแลให้จำนวนผู้ติดเชื้อ และผู้เสียชีวิตอยู่ในระดับน้อยๆ มาตลอด จนเป็นที่ยอมรับของวงการแพทย์และสาธารณสุขทั่วโลก
แม้ว่า จนวันนี้ “แพทย์-พยาบาล-อสม.” ก็ยังขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์อยู่ก็ตาม...?
งานนี้...ชาติกับประชาชนจะเสียหาย “มาก” หรือ “น้อย” ขึ้นอยู่กับ “นายกฯ บิ๊กตู่” ผู้มีอำนาจบริหารชาติ ว่าจะ “ฝีมือดี” หรือ “ฝีมือเลว” เพียงใด? แต่ผลงานแก้ต้นเหตุสำคัญๆ ให้ชาติห้วงเกือบ 6 ปีที่ผ่านมาของ “บิ๊กตู่” บอกตรงๆ ว่า... สอบไม่ผ่าน ล้มเหลวแทบจะโดยสิ้นเชิง...!
แต่เวลานี้ แม้จะไม่ลืมเรื่องเก่าที่ “บิ๊กตู่” ล้มเหลว! ทว่า...เมื่อ “บิ๊กตู่” ยังเป็น “นายกฯ” อยู่ในวันนี้ ก็ต้องปล่อยให้ “บิ๊กตู่” ทำงานสยบ “โควิด-19” ที่เป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วนลำดับแรกก่อน...จริงไหม?
แม้ผู้คนจะไม่เชื่อถือฝีมือ “บิ๊กตู่” เพราะนอกจากต้องสยบ “โควิด-19” แล้ว “บิ๊กตู่” ยังต้องดูแลผู้คนทุกวงการอีกด้วย ซึ่งมีทั้งทุนยักษ์-ทุนใหญ่-ทุนกลาง-ทุนเล็ก อีกทั้งเกษตรกร-ผู้มีรายได้น้อย-คนยากจน ที่กำลังลำบากแสนสาหัสกันอยู่ในเวลานี้...
โดยเฉพาะต้องเร่งแก้ปัญหาความล่าช้า และความไม่ทั่วถึงในการต่อชีวิตให้กับธุรกิจเอสเอ็มอี-เกษตรกร-ผู้มีรายได้น้อย-คนยากจน ดังเช่นกรณีการจ่ายเงิน 5 พันบาท 3 เดือน ที่ล่าช้าไม่ทันการณ์และไม่ทั่วถึงดังที่เป็นอยู่ในขณะนี้
ดังนั้น รัฐบาล “บิ๊กตู่” จึงต้องมิใช่แค่เปิดพื้นที่ รับฟังข้อเสนอแนะของบรรดามหาเศรษฐีเท่านั้น! แต่รัฐบาล “บิ๊กตู่” ต้องเปิดพื้นที่รับฟัง ข้อเสนอแนะจาก “บุคลากรภาคประชาชน” ที่เป็นคนส่วนใหญ่ของชาติด้วย เพื่อนำข้อเสนอแนะดีๆ ไปปฏิบัติอย่างจริงจัง
อนึ่ง...สิ่งที่รัฐบาล “บิ๊กตู่” ต้องสำเหนียก คือ ในการสยบมหันตภัย “โควิด-19” รัฐบาล “บิ๊กตู่” ต้องยึด “บุคลากรทางการแพทย์” เป็นหลักคำนึงถึง “ชีวิตผู้คนเป็นสำคัญ” ให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด
เพราะชีวิตเรียกคืนกลับมาอีกไม่ได้! แต่เศรษฐกิจล้มแล้วสร้างใหม่ได้เสมอ!
ก่อนจะตัดสินใจทำอะไร ในสิ่งที่เกี่ยวพันถึงความอยู่รอดของชีวิตผู้คน “บิ๊กตู่” ต้องพิจารณาให้รอบคอบ บนข้อมูลอันถูกต้องทางการแพทย์...
ร่วม 6 ปี ที่ “บิ๊กตู่” ทำให้มหาเศรษฐีรวยยิ่งขึ้น! ขณะที่-ธุรกิจเอสเอ็มอี-เกษตรกร-ผู้มีรายได้น้อย-คนยากจน ต้องลำบากยากจนลงมาตลอด จนชาติทวีปัญหา “รวยกระจุก-จนกระจาย” ติดอันดับต้นๆ ของโลก...อ้อ...แถมยังมีข้อครหาว่ามีการ “โกงกระจุก” อีกด้วยนะว้อย...!
ยามนี้ “บิ๊กตู่” เรียกหามหาเศรษฐีให้ช่วยชาตินั้น-ดีแน่! ด้วยมหาเศรษฐีหลายคน มา “ขุดทอง” จากแผ่นดินไทยด้วย “เสื่อผืนหมอนใบ” ที่วันนี้ร่ำรวยในชาติไทยได้ ก็เพราะคนไทยควักเงินซื้อสินค้าพวกเขา อีกทั้งแบ่งปันทรัพยากรอันอุดมสมบูรณ์บนผืนดินไทยให้พวกเขาทั้งสิ้น และที่สำคัญ มหาเศรษฐีรวยมหาศาลยิ่งขึ้น ก็ในยุค “บิ๊กตู่” เป็น “นายกฯ” นี่แหละ...
“บิ๊กตู่” มิใช่ “รัฐบาลขอทาน” ดังพวกปากหอยปากปูพูดกันส่งเดช แต่เวลานี้เหมาะที่สุดแล้ว ที่รัฐบาล “บิ๊กตู่” ต้องทำให้บรรดามหาเศรษฐี ทดแทน “บุญคุณชาติ” และ “ประชาชน!” …
