ผู้จัดการรายวัน360 - คนไทย 20 ล้านครัวเรือนเฮ! "สนธิรัตน์"จัดหนัก ชงครม.วันนี้ เคาะมาตรการลดค่าไฟฟ้าช่วยเหลือค่าครองชีพเพิ่มเติมอีกรอบ เผยขนาดมิเตอร์ต่ำกว่า 5 แอมป์ เพิ่มเป็นใช้ไม่เกิน 150 หน่วยต่อเดือนใช้ฟรี เกิน 5 แอมป์ขึ้นไป มีทั้งกรณีใช้ไม่เกิน 800 หน่วย ส่วนเกินจากฐาน ก.พ. ใช้ฟรี ไม่เกิน 3,000 หน่วยลด 50% เกินกว่า 3,000 หน่วยลด 30% มีผลตั้งแต่บิลมี.ค.-พ.ค.63 ย้ำให้ประชาชนจ่ายเงินสดไปก่อนจากนั้น 2 การไฟฟ้าจะลดให้ในบิลค่าไฟแบบอัตโนมัติในบิลพ.ค.เป็นต้นไป
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยหลังการประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) 3 การไฟฟ้า เพื่อพิจารณามาตรการลดค่าไฟฟ้า เพื่อบรรเทาค่าครองชีพให้กับประชาชนในช่วงการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ต้องกักตัวอยู่บ้านและทำงานที่บ้าน (Work From Home) ว่า ที่ประชุมได้สรุปแนวทางการพิจารณาปรับลดค่าไฟฟ้า เพื่อเป็นมาตรการเพิ่มเติมจากปัจจุบันที่มีมาตรการช่วยเหลือไปแล้วบางส่วน โดยมาตรการครั้งนี้ จะเน้นช่วยเหลือค่าไฟบ้านที่อยู่อาศัยครอบคลุม 20 ล้านครัวเรือน โดยจะเสนอมาตรการดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (21เม.ย.) เพื่อพิจารณาเห็นชอบต่อไป
สำหรับมาตรการช่วยลดค่าไฟฟ้า ประกอบด้วย 1.ค่าไฟฟ้าสำหรับบ้านที่อยู่อาศัยประเภท 1.1 หรือบ้านที่อยู่อาศัยที่มีมิเตอร์ขนาด 5 แอมป์ ซึ่งปัจจุบันกลุ่มนี้มี 10 ล้านครัวเรือน รัฐบาลได้มีการพิจารณาขยายมาตรการใช้ไฟฟรีจากเดิมไม่เกิน 50 หน่วยต่อเดือนเป็นไม่เกิน 90 หน่วยต่อหน่วยใช้ไฟฟรี โดยที่ประชุมครั้งนี้ ได้ขยายให้เป็นการใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 150 หน่วยต่อเดือนใช้ไฟฟรี มีผลเดือนมี.ค.-เม.ย.2563
2.ค่าไฟฟ้าสำหรับบ้านที่อยู่อาศัยประเภท 1.2 หรือบ้านที่มีมิเตอร์เกิน 5 แอมป์ขึ้นไป หรือใช้ไฟเกิน 150 หน่วยต่อเดือน ซึ่งกลุ่มนี้จะมีประมาณ 10 ล้านครัวเรือน จะครอบคลุมการใช้ไฟฟ้าในเดือนมี.ค.-พ.ค.2563 โดยที่ประชุมได้สรุปแนวทางที่จะช่วยเหลือส่วนเกินการใช้ไฟฟ้าโดยยึดจำนวนหน่วย (ยูนิต) การใช้ไฟในเดือนก.พ.2563 เป็นตัวเลขฐาน แบ่งเป็นกรณีที่ใช้ไฟเพิ่มขึ้น แต่ไม่เกิน 800 หน่วยต่อเดือน จะคิดส่วนเกินจากฐาน ก.พ. ให้ฟรี กรณีใช้ไฟเกิน 800 หน่วย แต่ไม่เกิน 3,000หน่วย เมื่อเทียบกับฐานการใช้ ก.พ. ส่วนเกินจะลดค่าไฟให้ 50% และกรณีใช้ไฟเกิน 3,000 หน่วยขึ้นไป ส่วนเกินจากฐานการใช้ ก.พ. จะลดให้ 30%
"กระทรวงพลังงานให้ยึดค่าไฟฟ้าฐานเดือน ก.พ.2563 เป็นหลัก เนื่องจากมาตรฐานอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติเริ่มมาตั้งแต่เดือนมี.ค.2563 ส่งผลให้ประชาชนมีการใช้ไฟฟ้าครัวเรือนสูงขึ้น ตัวอย่างกรณีกลุ่มที่ 2 เช่น การใช้ไฟฟ้าเกิน 800 หน่วย แต่ไม่เกิน 3,000 หน่วย เมื่อเทียบกับก.พ.แล้ว ค่าไฟส่วนนี้จะได้ส่วนลด 50% เช่น เดือนก.พ.ใช้ไฟฟ้า 300 หน่วย แล้วเดือน มี.ค.ใช้ไฟฟ้า 900 หน่วย จำนวนหน่วยที่เพิ่ม 600 หน่วยนี้ จะได้ส่วนลด 50% จะจ่ายค่าไฟ 300 หน่วย กรณีใช้ไฟฟ้ามากกว่า 3,000 หน่วย เมื่อเทียบกับเดือน ก.พ.แล้ว หน่วยที่เพิ่มจะได้ส่วนลด 30% เช่นกรณี เดือน ก.พ. ใช้ไฟฟ้า 300 หน่วย แล้วเดือนมี.ค.ใช้ไฟฟ้า 3,100 หน่วย ในส่วนต่างที่เพิ่ม 2,800 หน่วย จะได้ส่วนลด 30% ส่วน 300 หน่วยแรก จะจ่ายตามเกณฑ์เดิม"นายสนธิรัตน์กล่าว
ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับบิลค่าไฟในเดือนมี.ค. และเม.ย.2563 ให้สำรองจ่ายเงินสดไปก่อน โดยหลังจากนี้ทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จะไปหาแนวทางการหักค่าไฟฟ้าย้อนหลังคืนให้ในบิลค่าไฟในเดือนพ.ค.2563 แบบอัตโนมัติ โดยจะทยอยคืน ซึ่ง กกพ. จะหารือเพื่อให้ 2 การไฟฟ้า คือ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ประกาศแนวทางปฏิบัติต่อไปว่าจะทยอยคืนภายในกี่เดือน
สำหรับมาตรการลดค่าไฟฟ้า 3% ใน 3 เดือน (เม.ย.-มิ.ย.2563) จะยังคงอยู่ แต่กรณีที่ภาคเอกชนเสนอให้ลด 5% เป็นอีกเรื่องที่กระทรวงฯ ยังไม่ดู แต่ได้เร่งช่วยเหลือค่าครองชีพให้กับประชาชนบ้านที่อยู่อาศัยก่อน ซึ่งแนวทางดังกล่าว ทาง กกพ. จะไปบริหารเรื่องเงินในการดูแลครั้งนี้เอง ซึ่งคิดว่าคงจะไม่มีปัญหา สามารถบริหารจัดการได้
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยหลังการประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) 3 การไฟฟ้า เพื่อพิจารณามาตรการลดค่าไฟฟ้า เพื่อบรรเทาค่าครองชีพให้กับประชาชนในช่วงการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ต้องกักตัวอยู่บ้านและทำงานที่บ้าน (Work From Home) ว่า ที่ประชุมได้สรุปแนวทางการพิจารณาปรับลดค่าไฟฟ้า เพื่อเป็นมาตรการเพิ่มเติมจากปัจจุบันที่มีมาตรการช่วยเหลือไปแล้วบางส่วน โดยมาตรการครั้งนี้ จะเน้นช่วยเหลือค่าไฟบ้านที่อยู่อาศัยครอบคลุม 20 ล้านครัวเรือน โดยจะเสนอมาตรการดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (21เม.ย.) เพื่อพิจารณาเห็นชอบต่อไป
สำหรับมาตรการช่วยลดค่าไฟฟ้า ประกอบด้วย 1.ค่าไฟฟ้าสำหรับบ้านที่อยู่อาศัยประเภท 1.1 หรือบ้านที่อยู่อาศัยที่มีมิเตอร์ขนาด 5 แอมป์ ซึ่งปัจจุบันกลุ่มนี้มี 10 ล้านครัวเรือน รัฐบาลได้มีการพิจารณาขยายมาตรการใช้ไฟฟรีจากเดิมไม่เกิน 50 หน่วยต่อเดือนเป็นไม่เกิน 90 หน่วยต่อหน่วยใช้ไฟฟรี โดยที่ประชุมครั้งนี้ ได้ขยายให้เป็นการใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 150 หน่วยต่อเดือนใช้ไฟฟรี มีผลเดือนมี.ค.-เม.ย.2563
2.ค่าไฟฟ้าสำหรับบ้านที่อยู่อาศัยประเภท 1.2 หรือบ้านที่มีมิเตอร์เกิน 5 แอมป์ขึ้นไป หรือใช้ไฟเกิน 150 หน่วยต่อเดือน ซึ่งกลุ่มนี้จะมีประมาณ 10 ล้านครัวเรือน จะครอบคลุมการใช้ไฟฟ้าในเดือนมี.ค.-พ.ค.2563 โดยที่ประชุมได้สรุปแนวทางที่จะช่วยเหลือส่วนเกินการใช้ไฟฟ้าโดยยึดจำนวนหน่วย (ยูนิต) การใช้ไฟในเดือนก.พ.2563 เป็นตัวเลขฐาน แบ่งเป็นกรณีที่ใช้ไฟเพิ่มขึ้น แต่ไม่เกิน 800 หน่วยต่อเดือน จะคิดส่วนเกินจากฐาน ก.พ. ให้ฟรี กรณีใช้ไฟเกิน 800 หน่วย แต่ไม่เกิน 3,000หน่วย เมื่อเทียบกับฐานการใช้ ก.พ. ส่วนเกินจะลดค่าไฟให้ 50% และกรณีใช้ไฟเกิน 3,000 หน่วยขึ้นไป ส่วนเกินจากฐานการใช้ ก.พ. จะลดให้ 30%
"กระทรวงพลังงานให้ยึดค่าไฟฟ้าฐานเดือน ก.พ.2563 เป็นหลัก เนื่องจากมาตรฐานอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติเริ่มมาตั้งแต่เดือนมี.ค.2563 ส่งผลให้ประชาชนมีการใช้ไฟฟ้าครัวเรือนสูงขึ้น ตัวอย่างกรณีกลุ่มที่ 2 เช่น การใช้ไฟฟ้าเกิน 800 หน่วย แต่ไม่เกิน 3,000 หน่วย เมื่อเทียบกับก.พ.แล้ว ค่าไฟส่วนนี้จะได้ส่วนลด 50% เช่น เดือนก.พ.ใช้ไฟฟ้า 300 หน่วย แล้วเดือน มี.ค.ใช้ไฟฟ้า 900 หน่วย จำนวนหน่วยที่เพิ่ม 600 หน่วยนี้ จะได้ส่วนลด 50% จะจ่ายค่าไฟ 300 หน่วย กรณีใช้ไฟฟ้ามากกว่า 3,000 หน่วย เมื่อเทียบกับเดือน ก.พ.แล้ว หน่วยที่เพิ่มจะได้ส่วนลด 30% เช่นกรณี เดือน ก.พ. ใช้ไฟฟ้า 300 หน่วย แล้วเดือนมี.ค.ใช้ไฟฟ้า 3,100 หน่วย ในส่วนต่างที่เพิ่ม 2,800 หน่วย จะได้ส่วนลด 30% ส่วน 300 หน่วยแรก จะจ่ายตามเกณฑ์เดิม"นายสนธิรัตน์กล่าว
ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับบิลค่าไฟในเดือนมี.ค. และเม.ย.2563 ให้สำรองจ่ายเงินสดไปก่อน โดยหลังจากนี้ทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จะไปหาแนวทางการหักค่าไฟฟ้าย้อนหลังคืนให้ในบิลค่าไฟในเดือนพ.ค.2563 แบบอัตโนมัติ โดยจะทยอยคืน ซึ่ง กกพ. จะหารือเพื่อให้ 2 การไฟฟ้า คือ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ประกาศแนวทางปฏิบัติต่อไปว่าจะทยอยคืนภายในกี่เดือน
สำหรับมาตรการลดค่าไฟฟ้า 3% ใน 3 เดือน (เม.ย.-มิ.ย.2563) จะยังคงอยู่ แต่กรณีที่ภาคเอกชนเสนอให้ลด 5% เป็นอีกเรื่องที่กระทรวงฯ ยังไม่ดู แต่ได้เร่งช่วยเหลือค่าครองชีพให้กับประชาชนบ้านที่อยู่อาศัยก่อน ซึ่งแนวทางดังกล่าว ทาง กกพ. จะไปบริหารเรื่องเงินในการดูแลครั้งนี้เอง ซึ่งคิดว่าคงจะไม่มีปัญหา สามารถบริหารจัดการได้
