ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - จีนควบคุมเชื้อโรคระบาดไวรัสโควิด-19 ได้อยู่หมัด และยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์เมืองอู่ฮั่นซึ่งเป็นศูนย์กลางระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่หรือโควิด-19 ในวันที่ 8 เม.ย. หากจะเรียกเป็นชัยชนะในสงครามควบคุมโรคระบาดแล้วก็ถือเป็นเพียงการชนะในยกแรกเท่านั้น ด้วยขณะนี้ทั่วสังคมจีนกำลังวิตกวิจารณ์กันขรมเกี่ยวกับปัญหาความเสี่ยงจาก “กลุ่มผู้ติดเชื้อไร้อาการ” ซึ่งอาจจุดชนวนศึกโรคระบาดยกที่สองหากสกัดไว้ไม่ทันการณ์
จากข้อมูล ณ วันที่ 8 เม.ย. ระบุว่าในช่วง 21 วันที่ผ่านมา มีรายงานผู้ติดเชื้อฯ รายใหม่ในอู่ฮั่นเพียง 2 รายเท่านั้น นับเป็นผลงานการควบคุมโรคระบาดที่ยอดยุทธ์! ทั้งนี้อู่ฮั่นเมืองเอกของมณฑลหูเป่ยได้ปิดเมืองเมื่อวันที่ 23 ม.ค. รวม 76 วัน ประชาชนในอู่ฮั่นติดเชื้อฯมากกว่า 50,000 คน และเสียชีวิตกว่า 2,500 คน คิดเป็น 25 เปอร์เซ็นต์ของผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ทั้งหมดในประเทศจีน
ทว่า ความวิตกต่อโรคระบาดยังเกาะกุมจิตใจประชาชนเนื่องจากปัญหาความเสี่ยงจากกลุ่มผู้ติดเชื้อไร้อาการ และกลุ่มผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศที่เดินทางมายังจีน (หรือกรณีติดเชื้อนำเข้า) ซึ่งในขณะนี้จีนก็ได้พุ่งเป้าการควบคุมโรคระบาดไปที่สองกลุ่มเสี่ยงดังกล่าวแล้ว
ด้านคณะกรรมาธิการสุขภาพแห่งจีนแถลงสถิติการระบาดของประเทศนับถึงเที่ยงคืนของวันที่ 7 เม.ย. มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 62 ราย เพิ่มจากตัวเลข 32 รายในวันก่อนหน้า ในจำนวนนี้เป็นกรณีติดเชื้อนำเข้าเกือบทั้งหมดคือ 59 ราย
ส่วนตัวเลข “ผู้ติดเชื้อไร้อาการ” รายใหม่ดีดตัวสูงขึ้นที่ 137 ราย จากตัวเลข 30 รายในวันก่อนหน้า ยอดจำนวนสะสมของกลุ่มผู้ติดเชื้อไร้อาการ เท่ากับ 1,095 ราย ในจำนวนนี้ 358 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศเข้ามายังจีน
นอกจากนี้ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อโควิด-19 ประจำมณฑลหูเป่ยแถลง(6 เม.ย.) ว่า อู่ฮั่นได้เพิกถอน “สถานะปลอดโรคระบาด” ของชุมชนที่อยู่อาศัย 45 แห่ง เนื่องจากตรวจพบกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการ ทั้งนี้อู่ฮั่นได้ให้ “สถานะปลอดโรคระบาด” แก่ชุมชนที่อยู่อาศัยทั้งสิ้น 6,988 แห่ง
ทางการจีนเพิ่งเริ่มรายงานสถิติของ “กลุ่มผู้ติดเชื้อไร้อาการ” ในวันที่ 31 มี.ค. โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ยังไม่รวมกลุ่มผู้ติดเชื้อที่ไร้อาการเข้าในบันทึกรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อฯที่ได้รับการยืนยันจนกว่าคนไข้จะแสดงอาการ เช่น มีไข้ หรือไอ
ในโซเชียลมีเดียแดนมังกรมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลจีนว่าล้มเหลวในการรวบรวมข้อมูลตัวเลขของกลุ่มผู้ติดเชื้อไร้อาการ อีกทั้งปิดข่าวเกี่ยวกับแหล่งแพร่กระจายเชื้อ
จากข้อมูลปิดลับที่สื่อในฮ่องกง เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์นำมาเปิดเผยว่า ในจีนมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่แสดงอาการเป็นจำนวนกว่า 43,000 ราย แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาชื่อดัง “นพ.จง หนันซัน” ได้ออกมาโต้แย้งว่าจีนไม่มีผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการมากมายขนาดนั้น
ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์สที่เข้าไปรายงานข่าวและสัมภาษณ์คนในพื้นที่เผยว่าบรรดาผู้อาศัยและเจ้าหน้าที่การแพทย์ในอู่ฮั่นหลายคนบอกว่ามีปัญหาการตรวจเชื้อฯในโรงพยาบาลบางแห่งทำให้ผู้ติดเชื้อฯบางรายหลุดรอดไปได้ และหน่วยงานรัฐไม่ได้เก็บสถิติและรายงานตัวเลขของกลุ่มผู้ติดเชื้อฯนี้
กลุ่มผู้อาศัยในอู่ฮั่นบางคนยังวิตกอีกว่าการยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์จะทำให้เกิดกระแสติดเชื้อระลอกใหม่
“ผมคิดว่าสถานการณ์ยังไม่ปลอดภัยดีนัก บนอินเทอร์เน็ตมีคนแชร์ข้อมูลกันว่าผู้ป่วยบางคนหายดีแล้วโดยมีการตรวจหลายครั้งก่อนให้ออกจากโรงพยาบาล แต่ต่อมากลับเสียชีวิต” เจ้าของร้านค้าแซ่จาง ให้ความเห็นเกี่ยวกับการยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์อู่ฮั่น
ในวันดีเดย์เปิดอู่ฮั่นนั้น มีการประมาณจำนวนผู้โดยสารเดินทางออกจากเมืองโดยทางรถไฟมากกว่า 55,000 คน และอีกกว่า 10,000 คน เดินทางออกจากเมืองโดยเที่ยวบิน ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวข้ามถิ่นที่ชาวจีนหลายคนมองอย่างไม่สบายใจกันนัก
ส่วนพื้นที่ที่มีความเสี่ยงจากกลุ่มติดเชื้อนำเข้ามากที่สุดคือภาคเหนือจีน จากการแถลงสถานการณ์ระบาดเมื่อวันที่ 8 เม.ย. ระบุว่ากรณีติดเชื้อนำเข้าที่พบในมณฑลเฮยหลงเจียงพุ่งสูงทุบสถิติรายวันที่จำนวน 25 ราย เนื่องจากกลุ่มผู้เดินทางจากรัสเซียทะลักเข้ามายังดินแดน ด้วยเหตุนี้เมืองสุยเฟินเหอของมณฑลเฮยหลงเจียงที่มีพรมแดนติดรัสเซียได้ประกาศมาตรการล็อกดาวน์คล้ายกับอู่ฮั่น ให้ผู้อาศัยในเมืองอยู่แต่ในบ้านโดยอนุญาตให้สมาชิกของแต่ละครอบครัวเพียงหนึ่งคนออกจากบ้านได้หนึ่งครั้งในทุกสามวันเพื่อไปซื้อข้าวของที่จำเป็นและต้องกลับบ้านภายในวันเดียวกัน ทั้งนี้จากรายงานของสื่อทางการจีน ซีซีทีวี
อย่างไรก็ดี ไม่ใช่แค่เฉพาะจีนเท่านั้น ปัญหา “ผู้ติดเชื้อไร้อาการ” กำลังเป็นที่ปริวิตกของทั้งโลก
หนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทม์ รายงานว่า นพ.โรเบิร์ต เรดฟิลด์ ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อแห่งชาติ (ซีดีซี) ของสหรัฐฯ เผยข้อมูลใหม่พบว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ราว 25% อาจไม่แสดงอาการของโรคออกมา จึงอธิบายในเบื้องต้นได้ว่า ทำไมเชื้อไวรัสดังกล่าวได้แพร่กระจายติดต่อกันไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว
“ข้อมูลใหม่นี้ ทำให้ซีดีซีต้องทบทวนคำแนะนำที่บอกประชาชนว่า ถ้าไม่มีอาการป่วยด้วยไข้หวัด ไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากาก มาเป็นชาวอเมริกันควรสวมหน้ากากอนามัย เมื่อออกนอกบ้าน” ผอ.ซีดีซีกล่าว
นพ.เรดฟิลด์ ยกตัวอย่างผู้ป่วยชาวจีนรายหนึ่งในมณฑลกวางตุ้ง ซึ่งไม่แสดงอาการป่วยใดๆ เลย นับตั้งแต่ติดเชื้อเป็นวันที่ 7 วันที่ 10 หรือวันที่ 11 แต่เมื่อได้รับเชื้อเป็นวันที่ 7 แล้ว เชื้อไวรัสโควิด ได้มีการฟักตัวในช่องโพรงจมูกและลำคอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้ผู้ป่วยอาจยังรู้สึกปกติก็ตาม ด้วยเหตุนี้ ทำให้มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ไม่แสดงอาการป่วยในอัตราที่สูง และกลายเป็นพาหะแพร่เชื้อระบาดไปทั่วโลก
สำหรับประเทศไทย ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผอ.ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยอ้างอิงข้อมูลจาก ศ.นพ.ดร.นรินทร์ หิรัญสุทธิกุลเอาไว้ว่า “รพ.รามคำแหง ทำการตรวจ Nasopharyngeal swab และ throat swab for covid-19 แบบ drive through ในคนกทม. ที่ส่วนใหญ่ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย ตั้งแต่ 14 มี.ค. - 5 เม.ย. 63
จำนวน 7,776 ราย พบว่า pcr บวก 95 ราย หรือ ร้อยละ 1.22 หรือคน กทม. ที่ไม่ค่อยมีอาการ 1,000 คน ติดโควิด 12 คน ครับ ถ้าตัวเลขนี้พอจะแทน ประชาชนกทม. ได้ กทม. มีประชากร 10 ล้านคน น่าจะมีคนที่ติดโควิด ที่ไม่แสดงอาการ หรืออาการน้อย 120,000 คน”
“เป็นข้อมูลจริงๆ ไม่ใช่การวิจัยที่ต้องตีความการออกแบบวิจัย เป็นสถานการณ์จริงๆที่เกิดขึ้น ไม่ซับซ้อน และเพื่อสร้างความตระหนักในการแพร่จากคนที่มองดูไม่น่ามีอาการอะไรมาก” ศ.นพ.ธีระวัฒน์กล่าว
เปิดใจ “หมอหลี่ หลันจวน” ทำไมต้องจับตา “กลุ่มผู้ติดเชื้อไร้อาการ”
พ.ญ.หลี่ หลันจวน ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาแถวหน้าของจีน เป็นเจ้าหน้าที่อาวุโสจากคณะกรรมาธิการสุขภาพและสาธารณสุขแห่งชาติที่มาประจำการในเมืองอู่ฮั่นเป็นเวลา 58 วันเพื่อให้คำปรึกษาการควบคุมและรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 หลังจากที่ภารกิจจบสิ้น เธอได้อำลาอู่ฮั่นในวันที่ 31 มี.ค.
ก่อนที่ พ.ญ.หลี่ จะเดินทางออกจากอู่ฮั่น กลุ่มผู้สื่อจีนได้สัมภาษณ์คำถามที่สังคมจีนกำลังให้ความสนใจและวิตกกันมากคือ กลุ่มผู้ติดเชื้อฯไร้อาการและกลุ่มผู้ป่วยที่รักษาหายแล้วกลับมามีอาการอีก
ผู้สื่อข่าว: สังคมจีนกำลังสนใจปัญหากลุ่มผู้ติดเชื้อไร้อาการกันมาก เราจะค้นหาผู้ติดเชื้อไร้อาการได้อย่างไร?
หลี่ หลันจวน: กลุ่มผู้ติดเชื้อไร้อาการเป็นปัญหาที่พวกเราต้องให้ความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากคนเหล่านี้เป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อฯ ดังนั้นจึงต้องติดตามผู้ติดเชื้อไร้อาการให้พบ โดยเฉพาะผู้ที่เคยไปยังเขตที่มีการระบาด ผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย
การค้นพบผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการต้องอาศัยการตรวจเป็นหลัก กลุ่มคนที่มีประวัติใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อจะต้องไปตรวจ หากผลการตรวจออกมาเป็นค่าบวก ก็ต้องกักตัว และเข้ารับการรักษา
สำหรับการตรวจแนะนำให้ตรวจอุจจาระ หากผลตรวจตัวอย่างจากการป้ายคอและอุจจาระออกมาเป็นค่าลบสองครั้ง ก็ตัดออกจากกลุ่มผู้ติดเชื้อไร้อาการได้
ผู้สื่อข่าว: แต่หลายคนไม่รู้ว่าตัวเองเคยสัมผัสกับผู้ป่วยติดเชื้อฯ จะทำอย่างไร?
หลี่ หลันจวน: สำหรับคนที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วย การตรวจอย่างถี่ถ้วนมีความสำคัญมาก แต่กรณีผู้ที่ไม่รู้ตัว...สามารถสืบค้นในระบบฐานข้อมูลใหญ่ (บิ๊กดาต้า) ก็จะพบว่ามีใครบ้างที่สัมผัสกับผู้ป่วย
ผู้สื่อข่าว: ก้าวต่อไปของการควบคุมโรคระบาดในจีนเป็นอย่างไร?
หลี่ หลันจวน: สงครามหยุดโรคระบาดครั้งนี้ยังไม่จบง่ายๆ ทั้งอู่ฮั่น มณฑลและเขตปกครองทั่วประเทศ จะต้องค้นหาผู้ที่ติดเชื้อไวรัสในปริมาณเล็กน้อย และต้องค้นให้เจออย่างทันการณ์ นำผู้ติดเชื้อเหล่านี้มากักตัว รักษาให้ทันการณ์ ไม่ปล่อยให้ไปแพร่เชื้อให้ผู้อื่น...ภารกิจนี้ยังไม่จบสิ้น.