ผู้จัดการรายวัน360-“ซีพี”แจ้งความคืบหน้าการก่อสร้างโรงงานผลิตหน้ากาก เพื่อบุคลากรทางการแพทย์และเพื่อคนไทย ล่าสุดนำเข้าเครื่องจักรเครื่องแรกเข้ามาแล้ว และอยู่ระหว่างการติดตั้ง ส่วนเครื่องที่ 2 จะตามมาติดๆ วันที่ 9 เม.ย.นี้ คาดหลังติดตั้งเสร็จ จะผลิตได้วันละ 1 แสนชิ้น หรือ 3 ล้านชิ้นต่อเดือน ด้านกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมรับลูก “สมคิด” แปลง 7 บริษัทสิ่งทอผลิต “หน้ากากผ้า” ช่วยประชาชนมีใช้ แก้วิกฤตขาดแคลน และเพิ่มรายได้ให้ผู้ประกอบการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (6 เม.ย.) เฟซบุ๊ก We are CP ได้รายงานความคืบหน้าการสร้างโรงงานผลิตหน้ากากอนามัย ว่า ขณะนี้ได้เข้าสู่สู่สัปดาห์ที่ 4 ซีพี หลังนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด หรือซีพี ประกาศสร้างโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยฟรีเพื่อบุคลากรทางการแพทย์และเพื่อคนไทย โดยได้มีการนำเข้าเครื่องจักรผลิตหน้ากากอนามัยเข้ามายังสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 5 เม.ย.2563 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เครื่องจักรดังกล่าว เป็นเครื่องจักรแบบอัตโนมัติ สามารถผลิตหน้ากากได้เครื่องละ 50,000 ชิ้นต่อวัน โดยซีพีได้นำเข้าเครื่องจักรเครื่องแรกมาถึงประเทศไทยแล้ว โดยสายการบิน YG 9021 ขนส่งสินค้ามาจากสนามบินประเทศจีน และเครื่องจักรเครื่องที่ 2 คาดว่าจะพร้อมในการนำเข้าจากประเทศจีนในวันที่ 9 เม.ย.นี้ โดยต้องตรวจสอบเที่ยวบินอีกครั้ง เพราะมีความเข้มงวด และมีมาตรการที่ต้องปรับเปลี่ยนตลอดเวลาในช่วงวิกฤตการณ์โควิด-19 โดยกำลังการผลิตของโรงงานซีพีหน้ากากอนามัยฟรี หลังติดตั้งเครื่องจักรทั้ง 2 เครื่องแล้วเสร็จ จะอยู่ที่ 1 แสนชิ้นต่อวัน หรือ 3 ล้านชิ้นต่อเดือน
ในขณะช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซีพีเร่งสร้างโรงงาน พร้อมห้องปลอดเชื้อที่คืบหน้ากว่า 80% แล้ว ในวันนี้ เครื่องจักรอัตโนมัติสำหรับผลิตหน้ากากได้ถูกนำออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ และเดินทางไปยังโรงงาน เพื่อประกอบและทดสอบในขั้นตอนถัดไป โดยจะใช้กระบวนการเทเลคอนเฟอเรนซ์เพื่อติดต่อกับผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศในการติดตั้งและปรับแต่งเครื่องจักรต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลานี้ เป็นช่วงเวลาที่แต่ประเทศได้เพิ่มความเข้มขวดของมาตรการเข้าออกประเทศ ทำให้กระบวนการนำเข้ามีความซับซ้อนมากขึ้น ส่งผลให้ซีพีต้องปรับแผนเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ที่ปรับเปลี่ยนตลอดเวลา โดยขนส่งเครื่องจักรจากเมืองสู่เมือง จากรถบรรทุกสู่เครื่องบิน ผ่านหลายเมือง จนในที่สุดความพยายาม ก็ทำได้สำเร็จ จนสามารถนำเครื่องจักรเข้ามาได้
ด้านนายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า ได้เดินหน้าตามนโยบายที่ได้รับจากนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่มอบหมายให้ช่วยเหลือประชาชนที่ขาดแคลนหน้ากากอนามัยใช้ป้องกันไวรัสโควิด-19 และช่วยเหลือผู้ประกอบการฝ่าวิกฤตที่เกิดขึ้น โดยได้ร่วมมือกับ 7 บริษัทสิ่งทอ ซึ่งเป็นผู้ผลิตชุดกีฬา และเสื้อผ้าแฟชั่น เป็นต้น ให้หันมาผลิตหน้ากากผ้า เพื่อช่วยเหลือประชาชน และยังเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับผู้ประกอบการ โดยปัจจุบันมีบริษัทสิ่งทอเข้าร่วมรวม 7 บริษัท ได้แก่ 1.บริษัท ยงสง่า จำกัด 2.บริษัท มณีอินเนอร์แวร์ จำกัด 3.บริษัท ยูเนี่ยน ไทย กรุ๊ป จำกัด 4.บริษัท เค็นเน็ตเท็กไทล์ จำกัด 5.บริษัท เวิลด์นิตติ้ง แอพพาเรล จำกัด 6.บริษัท ไฮย์คอว์ลิตี้การ์เมนท์ จำกัด และ 7.บริษัท แอพพาเรล ครีเอชั่น จำกัด
โดยปัจจุบัน ผู้ประกอบการสามารถผลิตได้มากกว่า 1.87 แสนชิ้นต่อวัน และที่น่าสนใจ คือ หน้ากากผ้าของบริษัท มณีอินเนอร์แวร์ ได้มีการใช้นวัตกรรม โดยสามารถผลิตหน้ากากผ้าสะท้อนน้ำ ซึ่งช่วยป้องกันละอองฝอยที่เกิดจากการไอ จาม และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (6 เม.ย.) เฟซบุ๊ก We are CP ได้รายงานความคืบหน้าการสร้างโรงงานผลิตหน้ากากอนามัย ว่า ขณะนี้ได้เข้าสู่สู่สัปดาห์ที่ 4 ซีพี หลังนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด หรือซีพี ประกาศสร้างโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยฟรีเพื่อบุคลากรทางการแพทย์และเพื่อคนไทย โดยได้มีการนำเข้าเครื่องจักรผลิตหน้ากากอนามัยเข้ามายังสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 5 เม.ย.2563 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เครื่องจักรดังกล่าว เป็นเครื่องจักรแบบอัตโนมัติ สามารถผลิตหน้ากากได้เครื่องละ 50,000 ชิ้นต่อวัน โดยซีพีได้นำเข้าเครื่องจักรเครื่องแรกมาถึงประเทศไทยแล้ว โดยสายการบิน YG 9021 ขนส่งสินค้ามาจากสนามบินประเทศจีน และเครื่องจักรเครื่องที่ 2 คาดว่าจะพร้อมในการนำเข้าจากประเทศจีนในวันที่ 9 เม.ย.นี้ โดยต้องตรวจสอบเที่ยวบินอีกครั้ง เพราะมีความเข้มงวด และมีมาตรการที่ต้องปรับเปลี่ยนตลอดเวลาในช่วงวิกฤตการณ์โควิด-19 โดยกำลังการผลิตของโรงงานซีพีหน้ากากอนามัยฟรี หลังติดตั้งเครื่องจักรทั้ง 2 เครื่องแล้วเสร็จ จะอยู่ที่ 1 แสนชิ้นต่อวัน หรือ 3 ล้านชิ้นต่อเดือน
ในขณะช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซีพีเร่งสร้างโรงงาน พร้อมห้องปลอดเชื้อที่คืบหน้ากว่า 80% แล้ว ในวันนี้ เครื่องจักรอัตโนมัติสำหรับผลิตหน้ากากได้ถูกนำออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ และเดินทางไปยังโรงงาน เพื่อประกอบและทดสอบในขั้นตอนถัดไป โดยจะใช้กระบวนการเทเลคอนเฟอเรนซ์เพื่อติดต่อกับผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศในการติดตั้งและปรับแต่งเครื่องจักรต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลานี้ เป็นช่วงเวลาที่แต่ประเทศได้เพิ่มความเข้มขวดของมาตรการเข้าออกประเทศ ทำให้กระบวนการนำเข้ามีความซับซ้อนมากขึ้น ส่งผลให้ซีพีต้องปรับแผนเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ที่ปรับเปลี่ยนตลอดเวลา โดยขนส่งเครื่องจักรจากเมืองสู่เมือง จากรถบรรทุกสู่เครื่องบิน ผ่านหลายเมือง จนในที่สุดความพยายาม ก็ทำได้สำเร็จ จนสามารถนำเครื่องจักรเข้ามาได้
ด้านนายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า ได้เดินหน้าตามนโยบายที่ได้รับจากนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่มอบหมายให้ช่วยเหลือประชาชนที่ขาดแคลนหน้ากากอนามัยใช้ป้องกันไวรัสโควิด-19 และช่วยเหลือผู้ประกอบการฝ่าวิกฤตที่เกิดขึ้น โดยได้ร่วมมือกับ 7 บริษัทสิ่งทอ ซึ่งเป็นผู้ผลิตชุดกีฬา และเสื้อผ้าแฟชั่น เป็นต้น ให้หันมาผลิตหน้ากากผ้า เพื่อช่วยเหลือประชาชน และยังเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับผู้ประกอบการ โดยปัจจุบันมีบริษัทสิ่งทอเข้าร่วมรวม 7 บริษัท ได้แก่ 1.บริษัท ยงสง่า จำกัด 2.บริษัท มณีอินเนอร์แวร์ จำกัด 3.บริษัท ยูเนี่ยน ไทย กรุ๊ป จำกัด 4.บริษัท เค็นเน็ตเท็กไทล์ จำกัด 5.บริษัท เวิลด์นิตติ้ง แอพพาเรล จำกัด 6.บริษัท ไฮย์คอว์ลิตี้การ์เมนท์ จำกัด และ 7.บริษัท แอพพาเรล ครีเอชั่น จำกัด
โดยปัจจุบัน ผู้ประกอบการสามารถผลิตได้มากกว่า 1.87 แสนชิ้นต่อวัน และที่น่าสนใจ คือ หน้ากากผ้าของบริษัท มณีอินเนอร์แวร์ ได้มีการใช้นวัตกรรม โดยสามารถผลิตหน้ากากผ้าสะท้อนน้ำ ซึ่งช่วยป้องกันละอองฝอยที่เกิดจากการไอ จาม และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
