ผู้จัดการรายวัน 360 / เอเจนซีส์ - เหยื่อโควิด-19 ในยุโรปพุ่งเป็นกว่า 30,000 คน ซึ่ง 3 ใน 4 อยู่ในอิตาลีและสเปน ขณะที่ "ทรัมป์" เตือนอเมริกันชนเตรียมพร้อมรับมือ “ช่วง 2 สัปดาห์ที่เจ็บปวดมาก” ยอดผู้เสียชีวิตอาจสูงถึง 1-2 แสนรายในอีกไม่กี่เดือน จากปัจจุบันทะลุ 4 พันแล้ว เลขาธิการยูเอ็นระบุเป็นวิกฤตการณ์ที่เลวร้ายที่สุดของมนุษยชาตินับจากสงครามโลกครั้งที่ 2 "บิ๊กตู่" ถกครม.นัดพิเศษ 3 เม.ย. ไม่ผ่านวิดีโอ คอนเฟอร์เรนซ์ หารือมาตรการและแหล่งเงินที่จะใช้เยียวยาผลกระทบโควิด-19 ชุด 3 - 4 กทม.ประกาศให้ร้านสะดวกซื้อ ร้านโชห่วย ร้านขายของใช้ ซูเปอร์มาร์เก็ตร้านอาหาร รถเข็น รวมถึงร้านค้าแผงลอย ปิดตั้งแต่เที่ยงคืนถึงตี 5 มีผลทันทีคืนนี้ ก.อุตสาหกรรม ส่งหน้ากากล็อตแรก 1 ล้านชิ้นให้คนกทม. 8 เม.ย. นี้ สธ. เผยผู้ป่วยเพิ่ม 120 ราย เสียชีวิต 2 ราย ห่วงติดเชื้อในบ้านเพิ่มขึ้น สะท้อนยังไม่รักษาระยะห่าง
ทั่วโลกขณะนี้มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 กว่า 830,000 คน และเสียชีวิต 41,000 คนโดยประมาณ ซึ่งครึ่งหนึ่งอยู่ในอิตาลีและสเปน
เฉพาะวันอังคาร (31 มี.ค.) มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นในอิตาลี 837 คน, 849 คนในสเปน, 499 คนในฝรั่งเศส ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดในวันเดียว และ 381 คนในอังกฤษ ในจำนวนนี้รวมถึงเด็กวัย 13 ปีที่สุขภาพแข็งแรงดีก่อนติดเชื้อ
แอนโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แถลงเมื่อวันอังคารว่า ความปั่นป่วนทางเศรษฐกิจและการเมืองสืบเนื่องจากไวรัสโคโรนาหมายถึงอันตรายอย่างแท้จริงต่อสันติภาพของโลกแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา และมีแนวโน้มทำให้เศรษฐกิจถดถอยรุนแรงในระดับที่ไม่มีครั้งไหนเทียบเคียงได้ ซึ่งทั้งหมดนี้จะส่งผลให้เกิดความไร้เสถียรภาพ ความไม่สงบ และความขัดแย้งมากขึ้น ทำให้เชื่อได้ว่า โควิด-19 ถือเป็นวิกฤตที่ท้าทายที่สุดสำหรับมนุษยชาตินับจากสงครามโลกครั้งที่ 2
วันเดียวกันนั้น รัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางกลุ่มจี20 ที่จัดประชุมทางไกล ให้คำมั่นในการจัดการภาระหนี้ของประเทศที่มีรายได้ต่ำ รวมทั้งช่วยเหลือตลาดเกิดใหม่ หลังจากสัปดาห์ที่แล้ว เหล่าผู้นำกลุ่มความร่วมมือนี้ได้อัดฉีดเงิน 5 ล้านล้านดอลลาร์เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโลกเพื่อป้องกันภาวะถดถอยรุนแรง
ในสถานการณ์ที่บริษัทมากมายต้องหยุดดำเนินการไม่มีกำหนดแน่นอน และแรงงานจำนวนมากได้รับคำสั่งงดออกจากบ้านเพื่อชะลอการระบาด ความวุ่นวายและความสิ้นหวังทางเศรษฐกิจเริ่มปรากฏชัดเจนขึ้นทั่วโลก
ที่อิตาลี ผู้คนเข้าแถวยาวเหยียดรอรับซุป นอกจากนั้นยังมีข่าวว่า ซูเปอร์มาร์เก็ตบางแห่งถูกปล้น
โคลดิเรตติ สหภาพภาคเกษตรกรรมใหญ่ที่สุดของอิตาลี เผยว่า คนกว่าครึ่งล้านต้องการความช่วยเหลือด้านปากท้อง
โรเบอร์โต ทูออร์โต ผู้ดำเนินการสมาคมธนาคารอาหารขานรับว่า ขณะนี้มีคนมารอรับอาหารมากขึ้นถึง 70,000 คน จากปกติที่แจกจ่ายให้ประชาชน 152,525 คน
อเมริกาอาการหนัก
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตือนเมื่อวันอังคารว่า 2 สัปดาห์ข้างหน้าจะเป็นช่วงเวลาที่เจ็บปวดมาก โดยขณะนี้มีผู้ติดเชื้อถึงราว 190,000 คน หรือเพิ่มขึ้นสองเท่าในเวลาเพียง 5 วัน ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตในวันอังคารเพิ่มขึ้น 865 คน รวมทั้งหมดเกิน 4,000 คน หรือสองเท่าจากเมื่อคืนวันเสาร์ (28 มี.ค.)
ผู้นำสหรัฐฯ ยังเรียกร้องให้ชาวอเมริกันทุกคนเตรียมพร้อมรับสถานการณ์หนักหน่วงที่รออยู่ และปฏิบัติตามคำแนะนำในการจำกัดการร่วมทำกิจกรรมเกิน 10 คน ทำงานที่บ้าน และงดการไปนั่งดื่มกินในร้านอาหารหรือบาร์ นาน 30 วัน
ทั้งนี้ ทีมเฉพาะกิจด้านโควิด-19 ของทำเนียบขาวคาดว่า อาจมีผู้เสียชีวิต 100,000-200,000 คนในช่วงไม่กี่เดือนนี้แม้มีมาตรการป้องกันการระบาด และอาจสูงถึง 2.2 ล้านคนถ้ารัฐบาลไม่บังคับใช้มาตรการควบคุม
นอกจากนั้น ขณะนี้ กองน้อยทหารช่างกำลังค้นหาโรงแรม หอพัก ศูนย์ประชุม และพื้นที่ขนาดใหญ่ เพื่อดัดแปลงเป็นโรงพยาบาลชั่วคราวกว่า 300 แห่งใกล้เมืองใหญ่ต่างๆ โดยเกือบครึ่งหนึ่งจะอยู่ในรัฐนิวยอร์ก ซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาด
"บิ๊กตู่" นัดถกครม.นัดพิเศษแก้โควิด-19
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เตรียมเรียกประชุมคณะรัฐมนตรี นัดพิเศษในช่วงเช้าวันศุกร์ ที่ 3 เมษายน 2563 ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เพื่อหารือเร่งด่วนในเรื่อง 1. รับฟังข้อมูลจากกระทรวงต่างๆ สิ่งที่จะออกเป็นมาตรการเยียวยาในระยะ 3 และ 4 สำหรับช่วงเดือนพฤษภาคม – กรกฎาคม 2563 ต่อไป และ 2. หารือเรื่องงบประมาณ กรอบวงเงิน จัดลำดับความสำคัญเร่งด่วน รวมทั้ง แหล่งที่มาของเงินจากที่ต่างๆ
ทั้งนี้ จะเป็นรูปแบบการประชุมเต็มคณะ โดยไม่ผ่านระบบ Video Conference
ปิดร้านค้า-ร้านสะดวกซื้อเที่ยงคืน-ตี5
วานนี้ (1 เม.ย.) ที่อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกทม. 2 ดินแดง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. กล่าวภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร เพื่อพิจารณาถึงมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่าได้เชิญคณะกรรมการทั้ง 26 คน มาหารือในรายละเอียด โดยที่ประชุมไม่เห็นด้วยในการอนุญาตให้เปิดร้าน หรือศูนย์ให้บริการโทรศัพท์มือถือในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ เนื่องจากมองว่าจะกลายเป็นแหล่งแพร่เชื้อ ดังนั้น จึงมีมติไม่ให้เปิดศูนย์บริการ และร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือ
นอกจากนี้ ยังมีมติให้ร้านค้าทุกร้านค้า ปิดทำการตั้งแต่เวลา 24:00-05:00 น. ของวันรุ่งขึ้น โดยจะมีผลบังคับ ตั้งแต่คืนวันที่ 1 เม.ย. เป็นต้นไป
ส่วนเรื่องจะมีการออกประกาศเพิ่มเติมในข้อกำหนดต่างๆ อย่างไรนั้น จะต้องรอการแถลงข่าวของ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (โควิด-19) (ศบค.) ก่อน ในเวลา 13.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล
พล.ต.อ.อัศวิน ยืนยันว่า กทม.จะไม่ประกาศเคอร์ฟิว เพราะไม่ใช่อำนาจของกทม. แต่เป็นอำนาจของ ศบค. ที่จะดำเนินการ ตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งในตามต่างจังหวัดที่ประกาศออกมานั้น ไม่ได้เป็นการเคอร์ฟิว แต่เป็นการขอความร่วมมือให้ประชาชนไม่ออกจากบ้าน หรือออกจากบ้านน้อยที่สุด
นอกจากนี้ ได้รับการประสานจาก กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บชน.) ในการตั้งด่านตรวจคัดกรองทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ แต่จะเพิ่มอีกกี่จุดนั้น บชน.จะเป็นให้รายละเอียดอีกครั้ง
กทม.งดค่าเช่าแผง 10 ตลาด-ปัดล็อกดาวน์
ด้าน ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกทม. แถลงถึง การให้บริการงานทะเบียนของกทม.ว่า ของดให้บริการงานทะเบียนทั้งหมด ยกเว้น 5 ประเภท คือ แจ้งเกิด -ตาย ตรวจคัดสำเนาทะเบียนราษฎร ตรวจคัดสำเนาทะเบียนบัตรประชาชน จดทะเบียนสมรส และจดทะเบียนหย่า หากมีกรณีเร่งด่วนสำนักงานเขตจะพิจารณาเป็นกรณีไป ส่วนผู้ที่บัตรประชาชนหมดอายุ กระทรวงมหาดไทย อนุญาตให้ใช้บัตรเก่าไปก่อนจนถึงวันที่ 31 ก.ค.นี้ ส่วนผู้ที่บัตรหายให้ไปคัดสำเนาบัตรเก่าได้ที่ สำนักงานเขตใกล้บ้านมาใช้ก่อน
สำหรับการเยียวยาตลาด ภายใต้การดูแลของกทม. จะยกเว้นค่าเช่าแผง ห้องสุขา และที่จอดรถ ทั้ง 10 แห่ง เช่น ตลาดเมืองมีน ตลาดธนบุรี ตลาดเทวราช ตลาดประชานิเวศน์ 1 ตลาดหนองจอก ตลาดบางกะปิ ตลาดพระวงเวียนเล็ก ตลาดรัชดาภิเษก ตลาดสิงหา และตลาดราษฎร์บูรณะ ตั้งเดือน มี.ค. จนกว่าสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ ขณะที่ตลาดนัดจตุจักร กทม. จะทำหนังสือไปถึงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เพื่อขอยกเว้นค่าเช่า เป็นเวลา 6 เดือน ตั้งแต่เดือน มี.ค-พ.ย.
ส่วนกำหนดเวลาเปิด-ปิดสถานที่เพิ่มเติม ได้มีการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ โดยจะมีการออกประกาศ ฉบับที่ 5 เรื่องการควบคุมเวลาเปิด-ปิด ตั้งแต่เวลา 05.01-24.00 น. คือร้านสะดวกซื้อ คือ เซเว่น แฟมมิลี่มาร์ท หรือร้านลักษณะเดียวกัน เช่น ร้านโซห่วย ซูปเปอร์มาร์เก็ต ทั้งในและนอกห้าง 2. ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ทั้งเป็นในคูหา รถเข็น และแผงลอย ให้เปิดโดยบริการตั้งแต่เวลา 05.01-24.00 น. เช่นกัน โดยในช่วงที่ปิดร้านในเวลาดังกล่าวขอให้ไปทำความสะอาดอย่างเคร่งครัดถูกสุขลักษณะ
นอกจากนี้ สวนสาธารณะทั้งของรัฐและเอกชน ที่ผ่านมาอนุโลม แต่สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น บางแห่งใช้เป็นที่รวมตัวกันทำกิจรรมใกล้ชิดกัน ดังนั้น กทม.จึงขอปิดสวนสาธารณะ ไม่เว้นแม้แต่ในคอนโด ชุมชน และหมู่บ้าน หรือเอกชน ซึ่งประกาศทั้งหมดจะมีผลในตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย.ถึงวันที่ 30 เม.ย.นี้
ส่วนที่มีกระแสข่าวลือว่า ผู้ว่าฯกทม. มีการประชุมเพื่อล็อกดาวน์ กทม.นั้น ยืนยันว่ายังไม่ออกประกาศ กทม.ยังไม่ได้คุยกันเรื่องนี้ ซึ่งถ้ามีประกาศออกมา ต้องดูในภาพใหญ่ของรัฐบาลด้วย
ส่งหน้ากากผ้าล็อตแรกให้คนกทม. 8 เม.ย.นี้
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรม จะเริ่มแจกจ่ายหน้ากากผ้าล็อตแรกจำนวน 1 ล้านชิ้นให้ถึงมือประชาชนในกทม. โดยส่งผ่านไปรษณีย์ไทยตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย. 63 และคาดจะถึงแต่ละครัวเรือนภายในวันที่ 11 เม.ย.นี้ โดยประชาชนไม่ต้องลงทะเบียน เพราะไปรษณีย์จะจัดส่งตามข้อมูลทะเบียนบ้านของทุกครัวเรือนในเขต กทม.ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย จำนวนกว่า 3,050,000 ครัวเรือน คิดรวมกว่า 5,600,000 ชิ้น ตามบัญชีรายชื่อในทะเบียนบ้าน 1 คนต่อ 1 ชิ้น ทั้งนี้ ครัวเรือนที่จะรับหน้ากากเป็นลำดับแรกจะเริ่มจากเขตป้อมปราบศัตรูพ่ายและเขตสัมพันธวงศ์ รหัสไปรษณีย์ 10100 และจัดส่งจนครบทั้ง 50 เขตของกรุงเทพฯ ได้รับครบถ้วนภายในเดือน เม.ย.นี้
สำหรับในส่วนที่เหลือจำนวน 4,400,000 ชิ้นจะแจกจ่ายแก่ประชาชนในพื้นที่เขตปริมณฑลผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด จำนวนประมาณ 2.5 ล้านชิ้น และพื้นที่อื่นที่มีความเสี่ยง เช่น จังหวัดนนทบุรี สมุทรปราการ จังหวัดภาคใต้และภาคใต้ชายแดน เช่น จังหวัดนราธิวาส และภูเก็ต เป็นต้น รวมถึงพนักงานบริการที่มีความเสี่ยง เช่น บริษัทไปรษณีย์ไทยนำไปใช้ 40,000 ชิ้น องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. จำนวน 20,000 ชิ้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 300,000 ชิ้น โรงพยาบาล 18 แห่ง 180,000 ชิ้น รถไฟฟ้าบีทีเอส และเอ็มอาร์ที จำนวน 5,000 ชิ้น เป็นต้น โดยทั้ง 10 ล้านชิ้นจะมีการแจกได้ครบภายในเดือน พ.ค.
สธ.ห่วงผู้ป่วยติดเชื้อในบ้านเพิ่มขึ้น
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวว่า ประเทศไทย มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 120 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย ส่งผลให้มีผู้ป่วยสะสม 1,771 ราย เสียชีวิต 12 ราย โดยกระจายอยู่ใน 60 จังหวัด กทม.สูงสุด 850 ราย ตามด้วยนนทบุรี 104 ราย ขณะที่ผู้ป่วยรายใหม่ 120 ราย ถือว่าดีกว่าวันก่อนหน้า แต่ยังไม่น่าพึงพอใจ เพราะยังสูงอยู่ในหลักร้อย
จากการพิจารณาผู้ป่วยรายวันตามปัจจัยเสี่ยง พบว่า กลุ่มสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยก่อนหน้านี้มีทั้งหมด 437 ราย จำนวนไม่ลดลง หมายถึงจำนวนการติดในบ้านที่ยังไม่ลดลง ถ้าไม่เพิ่มระยะห่างบุคคลในบ้าน ที่บอกว่าอยู่บ้านเพื่อชาติ ท่านต้องเพิ่มมาตรการระยะห่างบุคคลไม่ต่ำกว่า 2 เมตรด้วย ส่วนกลุ่มสนามมวย จำนวน 219 ราย พบว่าจำนวนสูงที่สุดในช่วงวันที่ 21-22 มี.ค. และคุมการระบาดได้ดีการระบาดลดน้อยลง ขณะที่คนไทยมาจากพื้นที่เสี่ยง ทำงานในสถานที่แออัดจำนวนเพิ่มขึ้น กลุ่มสถานบันเทิงแนวโน้มไม่ลดลง ส่วนกลุ่มพิธีทางศานาที่มาเลเซียเริ่มลดลงแล้ว เมื่อดูถึงผู้ป่วยโควิดที่มาจากต่างประเทศ พบว่าผู้ป่วยชาวต่างชาติช่วงหลังคือวันที่ 29-31 มี.ค.เป็นชาวยุโรป ส่วนผู้ป่วยชาวไทยช่วง 29-31 มี.ค.ก็กลับมาจากยุโรปเช่นกัน รวมถึงอเมริกา และปากีสถาน
