ใครจะคาดได้ว่าภายในเวลามากกว่า 1 เดือนเล็กน้อย ชีวิตของคนทั้งโลกหลายพันล้านคนตกอยู่ในความเสี่ยงภัยไม่ต่างกัน จากมหันตภัยที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า และกว่า 1 หมื่นชีวิตต้องสูญสิ้นไปก่อนเวลาอันควร และจะยังมีทยอยตามอีกมาก
ถ้ามนุษยชาติไม่สามารถค้นคิดยาป้องกันและรักษาเชื้อโรคไวรัสโควิด-19 ได้ หรือได้ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว นอกจากจะทำให้คนติดเชื้อ เสียชีวิตจำนวนมากแล้ว คนทั้งโลกกำลังเผชิญความเสี่ยงของโอกาสที่เศรษฐกิจจะตกต่ำทั่วโลก
ไม่มีอะไรต้องสงสัยแล้วว่า ขณะนี้เศรษฐกิจของทุกประเทศทั่วโลกอยู่ในภาวะถดถอยอย่างเลี่ยงไม่ได้ ลามไปไม่ต่างจากเชื้อไวรัสโควิด-19 เพราะความเชื่อมโยงกันด้านการค้า การลงทุน ธุรกรรมการเงิน ไม่มีใครรอดจากภาวะวิกฤต แม้แต่คนยากจน
ก่อนนี้กว่า 1 เดือน นักลงทุนอเมริกันและทั่วโลกต่างยินดีปรีดากับดัชนีหุ้นวอลล์สตรีท ซึ่งทะยานเกือบถึง 30,000 จุด เพราะพลังของอารมณ์ “กระทิง” ในยุคผู้นำสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งชะตาชีวิต อนาคตทางการเมืองผูกแน่นอยู่กับตลาดหุ้น
ช่วงนั้น การระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสเกิดแล้วในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน ซึ่งได้ใช้มาตรการปิดเมือง และขยายไปจนเป็นการปิดประเทศ ห้ามการเดินทางในเมืองสุ่มเสี่ยง ผู้ติดเชื้อนอกจีนมีเพียงประมาณ 1 พันรายเท่านั้น
คนทั้งโลกมองว่าเป็นโรคท้องถิ่น เหมือนซาร์ส ที่เคยเกิดในจีน และคงไม่ลำบากนักที่จีนและประเทศที่มีการระบาดจะควบคุมและกำจัดได้ เพราะโลกได้พัฒนาการทุกด้าน โดยเฉพาะการจัดการกับการระบาดของโรค เพราะมีบทเรียน
ใครจะคาดได้ว่าในอีกกว่า 1 เดือน การระบาดจะลามไปทั่วโลกเหลือเพียง 2-3 ดินแดนก็จะครบ 195 ประเทศ เป็นการระบาดทั้งโลก เกิดขึ้นในรอบ 100 ปี และคุกคามความอยู่รอดของมนุษยชาติ แม้จะรอด ต้องเผชิญทุกข์กับภาวะเศรษฐกิจอีก
ตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มทุกวินาที จากแหล่งกำเนิดในจีน ช่วงนี้กำลังออกฤทธิ์เต็มที่ในทวีปยุโรป และสหรัฐอเมริกา โดยมีผู้ติดเชื้อรวมทั้งโลกมากกว่า 3 แสนราย เสียชีวิตกว่า 1.4 หมื่นราย และยังไปไม่หยุด ผู้หายป่วยก็เพิ่มเช่นเดียวกัน
ในยุโรปต้องปิดประเทศ แหล่งระบาดหนักอยู่ที่อิตาลี เยอรมนี สเปน ฝรั่งเศส และหลายประเทศในทวีปนั้นก็มีตัวเลขการระบาดเพิ่มตลอด และมีปัญหาความขาดแคลนอุปกรณ์การแพทย์สำคัญ บุคลากร เพราะไม่คาดคิดว่าจะหนักหนาสาหัสเช่นนี้
ตัวเลขผู้ติดเชื้อในอิตาลีน่าจะแซงประเทศจีนได้ในไม่กี่วันข้างหน้า เพราะแต่ละวันติดเชื้อมากกว่า 5 พันราย ส่วนผู้เสียชีวิตมากเกือบ 700 คนในแต่ละวัน ต้องใช้รถทหารขนศพไปเก็บ ไม่มีเวลาสำหรับเก็บฝังได้ทันการ สร้างภาระให้ทุกด้าน
บุคลากรการแพทย์ของอิตาลีจำนวน 5 พันคนก็ติดเชื้อ ซึ่งวงการแพทย์ศึกษาแล้วสรุปได้ว่าเป็นคนละตัวกับที่ระบาดในจีน มีความรุนแรง ส่งผลร้ายได้เร็วกว่า มุ่งโจมตีปอด ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่สูงอายุต้องเสียชีวิตรวดเร็วเพราะปอดบวมเสียหายหนัก
ทำให้ทางการแพทย์เลือกที่จะรักษาผู้มีโอกาสรอด และอายุน้อยกว่า ปล่อยให้ผู้ชราที่เสียภาษีให้รัฐตลอดชีวิตต้องถูกทอดทิ้งเพราะต้องสงวนทรัพยากรจำเป็น
ไวรัสโควิด-19 ไม่เลือกเหยื่อว่ายากดีมีจน หรือเป็นคนชนชั้นระดับใด กษัตริย์ เชื้อพระวงศ์ ผู้นำประเทศ นักการเมือง และคนดังในวงการต่างๆ ก็สามารถติดเชื้อได้ ทั้งยังทำให้มหาเศรษฐี นักลงทุน นักการเงิน เจ้าของขุมทรัพย์เช่นบ่อน้ำมัน จนลงได้
ในสหรัฐอเมริกา ผู้ว่าการของแต่ละมลรัฐต่างใช้อำนาจเพื่อจัดการการระบาด โดยเฉพาะรัฐแคลิฟอร์เนีย นิวยอร์ก อิลลินอยส์ รวมทั้งเมืองอื่นๆ เพราะลำพังนิวยอร์กมีผู้ติดเชื้อประมาณ 1 หมื่นราย และอาจสูงถึง 80 เปอร์เซ็นต์ของประชากร
ในแคลิฟอร์เนีย หลังจากปิดรัฐแล้ว ประเมินว่าผู้ติดเชื้อจะสูงกว่า 25 ล้านคนในจำนวนประชากร 40 ล้านคน และเป็นรัฐที่มีเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 5 ของโลก
สหรัฐฯ แม้จะเป็นชาติมหาอำนาจ ก็เผชิญปัญหาขาดแคลนอุปกรณ์การแพทย์ และของจำเป็นขั้นพื้นฐาน เช่น หน้ากากอนามัย เจลล้างมือ สำหรับประชาชน ลามไปถึงกระดาษชำระ ทำให้ประชาชนแตกตื่นไปซื้ออาหาร สิ่งของจำเป็นตุนก่อนปิดเมือง
ช่วงนี้ผู้ว่าการรัฐที่มีปัญหาต่างแสดงออกถึงศักยภาพในการเป็นผู้นำ การแก้ปัญหา ถ้าสำเร็จ โอกาสที่จะก้าวหน้าไปเป็นคู่ชิงประธานาธิบดีก็มีอยู่มาก เพราะการเมืองสหรัฐฯ นั้น ถ้าไม่ไต่จากผู้ว่าการ ก็มาจากสภาผู้แทนหรือวุฒิสภา เป็นหลัก
สภาวะที่น่าห่วงควบคู่กับการระบาดของไวรัสโควิด-19 ก็คือความถดถอยของเศรษฐกิจ ซึ่งเชื่อกันว่าภาคธุรกิจและตลาดทุน ฯลฯ ต่างได้รับความเสียหายทั่วโลกมากถึง 12 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ยังไม่หยุดนิ่ง จนจะเป็นภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ
นั่นคือความล่มจมของสถาบันธุรกิจต่างๆ เป็นหายนะที่ไม่มีอะไรเทียบได้ในรอบ 100 ปีหลังจากการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 คนจะว่างงาน นอกเหนือจากการเสี่ยงติดเชื้อ และเป็นสภาวะวิกฤตรุนแรงที่ใครก็ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้
รัฐบาลสหรัฐฯ ยุโรป รวมทั้งประเทศในภูมิภาคอื่นๆ ต่างพร้อมอัดฉีดเงินมหาศาลเพื่อพยุงเศรษฐกิจไม่ให้พังครืนลงจนอยู่เกินสภาพเยียวยาแก้ไขให้ได้ในเร็ววัน หลายประเทศอยู่ในสภาพอ่อนล้าเพราะหนี้สิน ความยากจน ขาดทรัพยากร
ไวรัสโควิด-19 จึงได้รับการยอมรับว่าเป็นมหันตภัยคุกคามความอยู่รอดของมนุษยชาติอย่างแท้จริง เป็นเหมือนอาวุธส่วนหนึ่งของธรรมชาติที่เอาคืนหลังจากโลกถูกทำร้ายมานานหลายร้อยปีภายใต้การพัฒนาอุตสาหกรรมจนเกิดภาวะโลกร้อน
มนุษย์ถูกจำกัดความเคลื่อนไหว หยุดกิจกรรม โลกสะอาดกว่าเดิมเยอะด้วย!