เอเจนซีส์ – ทำเนียบขาวแถลงล่าสุด ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ตรวจหาไวรัสโคโรแล้วและมีผลออกมา “เป็นลบ” หลังแถลงข่าวประกาศภัยพิบัติแห่งชาติปลดล็อกเม็ดเงิน 50 พันล้านดอลลาร์สู้วิกฤตโคโรนาไวรัส ส่วนบุตรสาว อิวองกา ทรัมป์ ใช้มาตรการเฝ้าระวังยอมไม่เข้าทำเนียบขาวในวันศุกร์(13) และอยู่แต่ในที่พัก หลังพบกับรัฐมนตรีมหาดไทยออสเตรเลียที่เชื้อ ยอดรวมผู้เสียชีวิตทั่วโลก 5,801 คน ติดเชื้อรวม 152,901 คน ส่วนในสหรัฐฯมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 58 ราย
CNN สื่อสหรัฐฯ รายงานเมื่อวันนี้(15 มี.ค)ว่า อ้างอิงจากแถลงการณ์ของทำเนียบขาวพบว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯมีผลทดสอบโรคโควิด-19 เป็นลบ
ทั้งนี้พบว่าทรัมป์เข้ารับการตรวจเมื่อวันศุกร์(13) เกิดขึ้นหลังเขามีรายงานการสัมผัสกับผู้มีการติดเชื้อ และอ้างอิงจากสื่อเดลีบีส์ พบว่าในการให้สัมภาษณ์กับนักข่าวที่บี้ตั้งคำถามถึงการเข้ารับการตรวจโดยชี้ว่า “จะไม่เป็นการเห็นแก่ตัวตนเกินไปหรือ” ทำให้ผู้นำสหรัฐฯตอบกลับมาว่าเขาคิดในเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน ซึ่งในรายงานข่าวประจำวันทางช่องสถานีโทรทัศน์ในอเมริกายังเห็นภาพประธานาธิบดีทรัมป์ยื่นมือไปจับหลังการแถลง แต่ยังมีบางคนที่ไหวตัวทันหันไปใช้ “ศอกบัมพ์” กับผู้นำสหรัฐฯแทน
โดยโฆษกทำเนียบขาว สเตฟานี กริแชม (Stephanie Grisham) เป็นผู้ออกมารายงานผลซึ่งได้รับการอนุมัติจากทรัมป์ให้ยอมเผยผลการตรวจได้ โดยมีใจความว่า
“เมื่อคืนนี้หลังจากมีการพูดคุยลงลึกในรายละเอียดกับประธานาธิบดีสหรัฐฯในเรื่องการตรวจโรคโควิด-19 เขาเลือกที่จะดำเนินการ”
และในแถลงการณ์ยังกล่าวต่อว่า “1 สัปดาห์หลังจากได้ร่วมรับประทานอาหารค่ำกับคณะผู้แทนบราซิลที่มาราลาโก(Mar-a-Lago) ประธานาธิบดีสหรัฐฯยังคงไม่มีอาการป่วยให้ปรากฎ ดิฉันได้มีการติดต่อรายวันกับศูนย์ CDC และกลุ่มต่อต้านโคโรนาไวรัสทำเนียบขาว และทางเราได้ร้องขอให้พวกเขาทำตามหน้าที่อย่างดีที่สุดเพื่อลดโอกาสการติดเชื้อและการแพร่ระบาด”
ทั้งนี้ผู้นำสหรัฐฯกล่าวในวันเสาร์(14)ว่า เขาเข้าวัดอุณหภูมิร่างกายในวันศุกร์(13)ก่อนที่จะเข้าห้องรายงานสรุปของทำเนียบขาว ซึ่งทรัมป์กล่าวกับนักข่าวว่า อุณหภูมิของเขาปกติ
อย่างไรก็ตามคณะแพทย์ประจำทำเนียบขาวก่อนหน้าเคยระบุในบันทึกภายในว่า “ประธานาธิบดีสหรัฐฯยังคงไม่มีอาการป่วย การทดสอบโรคโควิด-19 ยังไม่มีการบ่งชี้ในเวลานี้”
และเมื่อถูกถามว่าเมื่อใดจึงจะทราบผลการตรวจ ทรัมป์ตอบกลับมาว่าในเวลานี้ผลถูกส่งไปที่ห้องแล็บและอาจจะต้องใช้ระยะเวลาราว 1-2 วันจึงจะทราบผลที่จะออกมา
“ผมเข้ารับการตรวจเมื่อคืนนี้ และการตัดสินใจของนั้นขึ้นอยู่กับการแถลงข่วเมื่อวานนี้ ผู้คนต่างตั้งคำถามว่าผมตรวจหาหรือยัง” ผู้นำสหรัฐฯกล่าวโดยอ้างไปถึงการแถลงข่าวในวันศุกร์(13)ของเขาที่ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศเพื่อที่จะสามารถนำงบประมาณจำนวน 50 พันล้านดอลลาร์ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯออกมาใช้ได้ในการต่อสู้กับวิกฤตโรคโควิด-19
และวันเสาร์(14)ในการแถลงข่าวพบว่ารองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไมค์ เพนซ์ แถลงขยายการแบนการเดินทางเข้าสหรัฐฯจากอังกฤษและไอร์แลนด์สำหรับชาวต่างชาติ แต่ไม่กระทบกับบุคคลสัญชาติอเมริกัน จะเริ่มมีผลในเวลาเที่ยงคืนวันจันทร์(16) ซึ่งเป็นการบังคับใช้เดียวกันกับทั่วทั้งยุโรป
นอกจากนี้เพซ์ยังเปิดเผยว่า เขายังไม่ได้เข้ารับการตรวจโรคไวรัสโคโรนา แต่ย้ำว่า “แต่จะรู้สึกยินดีมากกว่านี้หากได้รับการตรวจ”
ทั้งนี้เริ่มตั้งแต่วันเสาร์(14) ทำเนียบขาวจะเริ่มต้นต่อทุกคนที่จะเข้าใกล้ผู้นำสหรัฐฯและรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ พบว่าก่อนงานแถลงรายงานสรุปในวันเสาร์(14) พบว่าได้มีการทำการตรวจอุณหภูมิร่างกาย และพบว่ามีคนหนึ่งถูกห้ามให้เข้าอยู่ร่วมหลังพบมีไข้โดยมีอุณหภูมิ 37.72 องศาเซลเซียส
ขณะเดียวกันในส่วนบุตรสาวผู้นำสหรัฐฯ โพลิติโก สื่อการเมืองสหรัฐฯ รายงานก่อนหน้าในวันศุกร์(13)ว่า อิวองกา ทรัมป์ ตัดสินตัดสินใจอยู่ที่บ้านพักโดยทำงานจากที่บ้านแทนอันเป็นมาตรการป้องกันหลังจากพบว่า 1 ในผู้ที่เธอพบคือ รัฐมนตรีมหาดไทยออสเตรเลีย ทอม ดัตตัน ออกมาประกาศว่ามีผลการติดเชื้อและในวันศุกร์(13) เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลในออสเตรเลีย ซึ่งอ้างอิงจากสื่อออสเตรเลียเมื่อวานนี้(14)มีรายงานว่า เชื่อว่าทั้งคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลออสเตรเลียน่าจะเข้ารับการตรวจหา
แถลงการณ์จากทำเนียบขาวเกี่ยวกับอิวองกา ทรัมป์ ชี้ว่าเธอยังไม่ได้แสดงอาการป่วยออกมาให้เห็นและไม่จำเป็นต้องเข้ารับการกักตัวโดยสมัครใจ นอกจากอิวองกาแล้วพบว่า รัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐฯ วิลเลียม บาร์ ไม่มาทำงานในวันศุกร์(13) เช่นกัน โดยบาร์ได้พบกับดัตตันในระหว่างดัตตันเข้าร่วมการประชุมพันธมิตรความมั่นคง กลุ่มไฟว์อายส์ ในสหรัฐฯ
อ้างอิงจากหนังสือพิมพ์เซาท์มอร์นิงไชน่าโพสต์ ยอดจำนวนผู้ติดเชื้อรวมทั่วโลกล่าสุดวันอาทิตย์ (15)ติดเชื้อรวม 152,901 คน เสียชีวิตรวม 5,801 คน หายป่วย 75,553 คน ส่วนที่สหรัฐฯ อ้างอิงจากCNNพบว่าสหรัฐฯ 58 มีผู้เสียชีวิต คน ติดเชื้อ 2,800 คน