รอยเตอร์ - กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เรียกเอกอัครราชทูตจีนเข้าพบวานนี้ (13 มี.ค.) เพื่อประท้วงกรณีเจ้าหน้าที่ปักกิ่งออกมากล่าวหาลอยๆ ว่ากองทัพสหรัฐฯ อาจนำไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ‘โควิด-19’ ไปแพร่ที่เมืองอู่ฮั่น ท่ามกลางสถานการณ์โรคระบาดที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองมหาอำนาจส่อแววตึงเครียด
เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เผยว่า เดวิด สติลเวลล์ นักการทูตอาวุโสฝ่ายเอเชียตะวันออก ได้ส่งคำเตือนอย่างจริงจังผ่าน ชุย เทียนข่าย (Cui Tiankai) เอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งฝ่ายทูตจีนก็พยายาม “แก้ต่างอย่างแข็งขัน”
เจ้าหน้าที่ผู้ไม่ประสงค์ออกนามระบุว่า จีนมีเจตนากลบเกลื่อนกระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องที่ตนเองมีส่วน “ทำให้เกิดโรคระบาดขึ้น และไม่ยอมเปิดเผยให้โลกรับรู้”
“การแพร่ทฤษฎีสมคบคิดเป็นสิ่งที่อันตรายและน่าขำ เราต้องการให้รัฐบาลจีนรับรู้ว่าสหรัฐฯ จะไม่อดทนกับเรื่องแบบนี้ เพื่อประโยชน์ของชาวจีนและประชาคมโลก”
เอลิสซา ฟาราห์ โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ทวีตข้อความเมื่อวานนี้ (13) ว่า “พรรคคอมมิวนิสต์จีนหันไปใช้วิธีเผยแพร่ทฤษฎีสมคบคิดที่ไม่เป็นความจริงและไร้สาระเกี่ยวกับต้นกำเนิดของโควิด-19 โดยโทษว่าเป็นความผิดของทหารสหรัฐฯ #ChinaPropaganda”
สถานทูตจีนประจำสหรัฐฯ ยังปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในประเด็นนี้
ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ซึ่งเริ่มระบาดที่เมืองอู่ฮั่นของจีนเมื่อปลายปีที่แล้วได้ทำให้มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกกว่า 138,000 คน ในจำนวนนี้เสียชีวิตแล้วราวๆ 5,000 คน
แม้จะเริ่มมีสัญญาณความตึงเครียดเกิดขึ้น แต่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ก็ยังออกมาชื่นชมจีนเมื่อวานนี้ (13) ที่ช่วย “แบ่งปันข้อมูล”
ผู้สื่อข่าวคนหนึ่งได้ถาม ทรัมป์ ระหว่างการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวเกี่ยวกับ “คำบอกเล่าแปลกๆ” ของเจ้าหน้าที่จีนบางคน ซึ่งผู้นำสหรัฐฯ ก็ยอมรับว่าเคยอ่านเจอในบทความ แต่แนวคิดดังกล่าวไม่ได้สะท้อนสิ่งที่ตนได้หารือโดยตรงกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง
ทรัมป์ ได้แถลงผ่านสื่อโทรทัศน์ในสัปดาห์นี้ โดยเรียกโควิด-19 ว่าเป็น “ไวรัสต่างชาติ” ที่เริ่มปรากฏขึ้นในจีนเป็นที่แรก
“พวกเขาทราบดีว่ามันมาจากไหน เราทุกคนต่างก็ทราบดีว่ามันมาจากไหน” ทรัมป์ กล่าว
จ้าว หลี่เจียน (Zhao Lijian) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้ทวีตข้อความเป็นภาษาอังกฤษเมื่อวันพฤหัสบดี (12) ในทำนองกล่าวหาสหรัฐฯ ว่าเป็นผู้นำเชื้อไวรัสมาแพร่ในจีน
“สหรัฐฯ เริ่มมีผู้ป่วยรายที่ศูนย์ (patient zoro) เมื่อไหร่? มีคนติดเชื้อกี่คน? โรงพยาบาลไหนบ้าง? กองทัพสหรัฐฯ อาจจะเป็นผู้นำโรคระบาดมาแพร่ที่อู่ฮั่นก็ได้ ทำทุกอย่างให้โปร่งใส! เปิดเผยข้อมูลให้สาธารณชนรับรู้! เราต้องการคำอธิบายจากสหรัฐฯ!” จ้าว ระบุ
คำพูดของโฆษกผู้นี้มีขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังจากที่ โรเบิร์ต โอไบรอัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ออกมาตำหนิมาตรการตอบสนองที่ล่าช้าของจีนว่าทำให้ทั่วโลกเตรียมตัวป้องกันไวรัสช้าไปถึง 2 เดือน
อู่ฮั่นเป็นเสมือน ‘กราวนด์ซีโร’ ของเชื้อโควิด-19 ซึ่งล่าสุดองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศเข้าสู่การแพร่ระบาดใหญ่ (pandemic) ในสัปดาห์นี้
รัฐบาลจีนถูกวิจารณ์อย่างมากที่พยายามเซ็นเซอร์คำเตือนจากแพทย์อู่ฮั่นผู้ค้นพบเชื้อไวรัสชนิดนี้เมื่อเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว จนเป็นเหตุให้เชื้อแพร่กระจาย และนำไปสู่การปิดเมืองอู่ฮั่นและมณฑลหูเป่ยซึ่งมีประชากรราว 60 ล้านคนในเดือน ม.ค.
ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ก็ออกมาโทษว่า “ข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์แบบ” ของจีนเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สหรัฐฯ ตอบสนองวิกฤตโรคระบาดได้ไม่ดีเท่าที่ควร
พอมเพโอ และนักการเมืองสหรัฐฯ หลายคนยังเรียกขานโรคนี้ว่า “ไวรัสอู่ฮั่น” ระหว่างแถลงข่าวเมื่อวันพุธ (11) ซึ่งสร้างความไม่พอใจต่อจีน ในขณะที่ ทรัมป์ เลี่ยงไปใช้คำว่า “ไวรัสต่างชาติ” ที่มีต้นกำเนิดในจีน
2/2 CDC was caught on the spot. When did patient zero begin in US? How many people are infected? What are the names of the hospitals? It might be US army who brought the epidemic to Wuhan. Be transparent! Make public your data! US owe us an explanation! pic.twitter.com/vYNZRFPWo3
— Lijian Zhao 赵立坚 (@zlj517) March 12, 2020