ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - พายุแห่งความหวาดกลัว-วิตกกังวลโหมกระหน่ำ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 ที่มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นทุกวัน ทำให้ “ประชาชนแห่ซื้อประกันโควิด-19” กันอย่างมืดฟ้ามั่วดิน
ความต้องการพุ่งสูงปรี๊ด จนหลายบริษัทออกกรมธรรม์ไม่ทัน โดยเฉพาะ “ประกันโควิด-19 รูปแบบจ่ายเบี้ยหลักร้อย คุ้มครองหลักแสน” รับเงินก้อนทันทีหากตรวจพบการติดเชื้อดังกล่าว เบี้ยประกันเริ่มต้น 99 บาท ซึ่งรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาผู้คนจำนวนมากเลือกซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ ทำให้หลายบริษัทประกันสร้างปรากฏการณ์ยอดขายล้นทะลักถล่มทลาย จนบางแห่งเริ่มยุติการขายออนไลน์ชั่วคราว ตลอดจนปรับเงื่อนไขเข้มขึ้น
จนเกิดคำถามว่า มีความจำเป็นแค่ไหนเหตุใดคนแห่ซื้อประกัน โควิด-19 เพราะในส่วนการรักษาพยาบาล หากติดเชื้อโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 Coronavirus (2019-nCoV) หรือ โควิด-19 คนไทยทุกคนมีสิทธิรักษาฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
เบี้ยหลักร้อยหลักพันที่ต้องจ่ายสำหรับ ประกัน โควิด-19 คุ้มค่าหรือไม่ หากพิจารณาประกอบกับ “เงื่อนไขพิเศษ” ที่ทางบริษัทประกันกำหนดขึ้นมา เป็นไปได้ว่า สุดท้ายประกันงุบงิบผิดเงื่อนไขไม่รู้ตัวไม่คุ้มครองขึ้นมา
อย่างไรก็ตาม การประกันภัยนับเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยง ลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล จ่ายสินไหมรับเงินชดเชย หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น แต่ข้อสำคัญที่ต้องพิจารณาทำความเข้าใจอย่างถี่ถ้วนคือ “เงื่อนไขการประกัน”
ทั้งนี้ “ประกันโควิด-19 มาพร้อมเงื่อนไขพิเศษ” ข้อสำคัญที่ต้องพิจารณาทำความเข้าใจอย่างถี่ถ้วน เป็นต้นว่า ข้อยกเว้นของผู้เอาประกันเกี่ยวกับสุขภาพ ไม่รับคุ้มครองผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ผู้ป่วยติดเตียง ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่ไม่สามารถทำประกันสุขภาพได้ แต่ก็มีบางบริษัทที่รับทำ เป็นต้น
หรือกำหนดว่า ผู้เอาประกัน ต้องไม่มีประวัติเดินทางไปประเทศกลุ่มเสี่ยงตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุขฉบับล่าสุด ในระยะเวลา 14 วันก่อนวันเริ่มคุ้มครอง, กำหนดให้มีระยะเวลารอคอย 14วัน (Waiting Period), ไม่รับทำประกันอาชีพกลุ่มเสี่ยง บุคลากรทางการแพทย์ พนักงานท่าอากาศยาน เป็นต้น
ต้องบอกว่า ประกันโควิด-19 สมัครง่าย เพียงใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียว แต่ในการคุ้มครองนั้นบริษัทประกันแต่ละแห่ง มีความเข้มงวดตามเงื่อนไขพิเศษต่างๆ ที่กำหนดขึ้นมา หากผู้เอาประกันไม่ศึกษาทำความเข้าใจเงื่อนไขก่อนสมัคร อาจเสียเงินฟรีๆ เคลมไม่ได้ตามคำโฆษณา
อย่างไรก็ดี ประชาชนมีความตื่นตัวเตรียมความพร้อมในการดูแลสุขอนามัยของตัวเอง เลือกบริหารความเสี่ยงด้วยการซื้อประกันภัยคุ้มครอง ซึ่งถือเป็นเรื่อง “ที่ดี”
ทั้งนี้ พบข้อมูลว่า “ประกันโควิด-19” เป็นที่นิยมมีอยู่ 3 รูปแบบ
แบบที่ 1 ประกันโควิด-19 ค่ารักษาพยาบาล คุ้มครองการรักษาพยาบาลที่เชื่อมั่นว่าจะดีกว่าการเข้ารับการรักษาขั้นพื้นฐานของรัฐกรณีติดเชื้อโควิด-19 โดยประกันจะจ่ายเป็น ค่าห้อง ค่ารักษาต่างๆ
แบบที่ 2 ประกันโควิด-19 ตรวจพบเชื้อรับเงินก้อน เป็นตัวเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการสินไหมคุ้มครอง มีเงินก้อนตั้งแต่ 10,000 - 200,000 บาท
แบบที่ 3 ประกันโควิด-19 ชดเชยรายได้หากหยุดงาน กรณีเจ็บป่วยจากการติดเชื้อดังกล่าว จะได้รับเงินชดเชยรายวัน ไม่สูญเสียรายได้กรณีหยุดงานติดต่อกัน
สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ. ) เปิดเผยข้อมูลว่าตั้งแต่เดือน ก.พ. ที่ผ่านมา มีบริษัทประกันกว่า 20 แห่งยื่นขออนุมัติกรมธรรม์คุ้มครองโควิด-19 โดยผลตอบรับจากตลาดดีมากประชาชนแห่ซื้อกรมธรรม์ “ประกันโควิด-19” อย่างล้นหลามต่อเนื่อง
ตัวอย่างเช่น บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI เปิดเผยว่า ภาพรวมประกันโควิด-19 แบบเจอจ่ายจบ ผลตอบรับดีมาก ทะลุเป้าหมาย มียอดขายราว 500,000 กรมธรรม์ จากตั้งไว้ที่ 300,000 กรมธรรม์ โดยบริษัทอยู่ระหว่างกำลังพิจารณา ออกประกันรูปแบบใหม่ มีเงื่อนไขคุมความเสี่ยง เช่น มีระยะเวลารอคอย 14 วัน ไม่เป็นผู้เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง หรือ ใกล้ชิดกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19
บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) มีผู้สนใจซื้อกรมธรรม์เป็นจำนวนมาก จนครบจำนวนตามที่บริษัทกำหนดไว้ และเตรียมออกประกันภัยรูปแบบใหม่ โดยเฉพาะประกันโควิด-19 แบบเจอจ่ายจบ มียอดขายกว่า 100 รายต่อชั่วโมง
บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เบี้ยประกันโควิด-19 ยอดขายทะลัก 300 ล้านบาท กรมธรรม์กว่า 500,000 ฉบับ
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สายงานผลิตภัณฑ์ประกัน ร่วมกับ บริษัท เทเวศประกันภัย จำกัด (มหาชน) ขายประกัน โควิด-19 ผ่านช่องทางสาขามากกว่า 100,000 กรมธรรม์ ในระยะเวลาเพียง 2 สัปดาห์ โดยมีแบบประกันให้เลือกทั้งเน้นค่ารักษาพยาบาลและให้ความคุ้มครองเมื่อเข้าสู่ระยะโคม่า และแบบตรวจเจอเชื้อไวรัสแล้วจ่ายเงินก้อน
บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) กับแคมเปญ “เจอ จ่าย จบ” จ่ายค่าสินไหมทดแทนเต็มทุนประกัน หากได้รับการวินิจฉัยโรคจากแพทย์เป็นครั้งแรกว่าติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 แบ่งเป็น 2 แผนประกัน 1. จ่ายเบี้ย 250 บาท ตรวจพบว่าติดเชื้อ รับเงินก้อน 50,000 บาท 2. จ่ายเบี้ย 450 บาท ตรวจพบเชื้อ รับเงินก้อน 100,000 บาท กระแตอบรับเป็นอย่างดี ส่งผลให้อัตราการเติบโตของเบี้ยเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
หรือ บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ออกมายอมรับว่าผลพวงจาก ประกันโควิด-19 ทำให้มียอดขายจำนวนมากแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นก่อน สำหรับการขายประกันสุขภาพ
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ให้ข้อมูลว่าสำหรับผู้ที่ได้ทำประกันภัย ความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันภัยจะเป็นไปตามรายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไขและข้อยกเว้นของสัญญาประกันภัย กรมธรรม์ประกันภัยที่จะเข้ามาเยียวยาความสูญเสีย โดยสำนักงาน คปภ. หารือกับภาคอุตสาหกรรมประกันภัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพัฒนากรมธรรม์ประกันภัยโดยเฉพาะ เพื่อคุ้มครองการติด เชื้อโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19
อย่างไรก็ตาม สมาคมวินาศภัย ส่งสัญญาณให้ทุกบริษัทประเมินขีดความสามารถการรับประกันภัย เพื่อไม่ให้กระทบจ่ายสินไหมและการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะความเสี่ยงจากการรับประกันโควิด-19 เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จำนวนผู้ติดเชื้อมีมากขึ้นและขยายวงกว้างออกไป หากเกิดการแพร่ระบาดรุนแรงเข้าสู่ ระยะที่ 3
นายอานนท์ วังวสุ นายกสมาคมประกันวินาศภัย เปิดเผยว่า สมาคมฯ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งบริษัทที่ขายประกันโควิด-19 ต้องมีการประเมินความสามารถในการรับประกันภัย ทั้งการจัดสรรทางด้านประกันภัยต่อ และเงินกองทุนมีเพียงพอหรือไม่กับการจ่ายสินไหม หากสถานการณ์ดังกล่าวยังรุนแรงขึ้น เกิดการแพร่ระบาดระยะที่ 3 และยืดเยื้อ เพื่อไม่ให้กระทบกับการจ่ายสินไหมกับประชาชนและการดำเนินธุรกิจ
“แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะเป็นตัวเร่งให้คนตัดสินใจซื้อประกันโควิด-19 มากขึ้นเป็นหลักแสนกรมธรรม์หรืออาจจะถึงล้านกรมธรรม์ เชื่อว่าบริษัทที่รับประกันโควิด จะมีการประเมินความสามารถในการรับประกันภัยอย่างต่อเนื่อง และเมื่อถึงเป้าหมายคงจะมีการทบทวนแผนเป็นระยะๆ ในการรับประกันดังกล่าว“ นายอานนท์ วังวสุ นายกสมาคมประกันวินาศภัย ระบุ
การที่บริษัทประกันออกกรมธรรม์คุ้มครอง โควิด-19 นั้นมีการคำนวณมาแล้วเป็นอย่างดี บริษัทประกันจะทำดัชนี “worst case scenario” หรือ “กรณีเลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นได้” โดยอิงจากสถิติที่เกิดขึ้นจริง สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก จะคำนวณหาค่าเฉลี่ยตามอัตราก้าวหน้าต่างๆ
อธิบายง่ายๆ ก็คือ หากคำนวณตัวเลขผู้ติดเชื้อของแต่ละประเทศในปัจจุบัน กับจำนวนประชากรทั้งหมดของประเทศนั้นๆ จะพบว่ามีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวไม่ถึง 1% ทำให้บริษัทประกันภัยออกกรมธรรม์คุ้มครองโควิด-19 ประเภทเบี้ยประกันหลักร้อย คุ้มครองหลักแสน ตรวจเจอเชื้อไวรัสรับเงินก้อน โกยกำไรอื้อซ่าในเวลานี้ เพราะคำนวณแล้วว่าคุ้ม หรือหากขาดทุนก็แบกรับได้ และด้วยกระแสตอบรับถล่มทลายทำให้บริษัทประกันเริ่มปรับเงื่อนไขเข้มข้นขึ้น
ทั้งนี้ สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ช่วงเดือน มี.ค. 2563 มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกมากกว่า 219,000 คน สำหรับในเมืองไทย พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 30 คนต่อวัน และอนาคตมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ด้านบริษัทประกันภัยเตรียมแผนรับมือหากโควิด-19 ระบาดหนักขึ้น หากเข้าสู่ระยะ 3 ตั้งแต่ปรับเงื่อนไข ขึ้นเบี้ย รวมถึงหยุดขาย
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อกระแสข่าวออกมาว่า “ประกันโควิด-19 จะเริ่มหยุดขาย” ยิ่งทำประชาชนเฮโลไปซื้อประกันกันจ้าละหวั่น!
