“คารม พลพรกลาง” ส.ส.อดีตอนาคตใหม่ ไม่ร่วม “พรรคก้าวไกล” ไม่ปลื้มโครงสร้างพรรคใหม่ สับละเลยคนอีสาน เหน็บ “พิธา” การเมืองไม่เกี่ยวหน้าตาดี “ณัฐชา” อดีตรองโฆษก อนค. ซัดถ้าไม่อยู่กับ อนค. ชาตินี้ก็ไม่ได้เป็น ส.ส. หยุดอ้างเรื่องอีสาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงกลางดึกของวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้มีกระแสข่าวว่า นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ จะไม่ย้ายไปร่วมพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นพรรคใหม่ที่ ส.ส.จำนวน 55 คนของอดีตพรรคอนาคตใหม่ จะย้ายไปสังกัด โดยนัดรวมตัวจะสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกลในวันที่ 14 มี.ค.นี้ ที่ศูนย์ประสานงาน ฝั่งธนบุรีอดีตพรรคอนาคตใหม่
วานนี้ (12 มี.ค.) มีรายงานข่าวว่า นายคารม ได้ออกจากไลน์กลุ่มของ ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารการทำงานของกลุ่ม ซึ่ง ส.ส.ที่เหลืออยู่ตั้งข้อสังเกตว่านายคารมจะไม่ไปร่วมงานกับพรรคก้าวไกลตามกระแสข่าวจริง และมี ส.ส.บางส่วนพยายามโน้มน้าวให้นายคารมอยู่ร่วมงานกันต่อไป
ก่อนที่ นายคารม จะเปิดเผยว่า ที่ออกจากกลุ่มไลน์ของพรรค เพราะอยากคิดอะไรโล่งๆ และทบทวนสิ่งที่ผ่านมา โดยหลังการประชุมอดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา ทำให้เห็นทิศทางโครงสร้างการทำงานของพรรคใหม่ว่ามีเรื่องของภาคอีสานน้อยมาก ซึ่งตนเป็นคนอีสานเห็นว่าหากแก้ปัญหาและพัฒนาภาคอีสานอย่างเต็มศักยภาพโดยเฉพาะลดความเหลื่อมล้ำ เชื่อว่าจะสามารถแก้ปัญหาของประเทศได้มากกว่าครึ่ง ส่วนเรื่องการปฏิรูปทหาร แก้ไขรัฐธรรมนูญ และการกระจายอำนาจ ไปอยู่พรรคไหนก็ชูประเด็นเรื่องนี้ได้อยู่แล้ว
“หากผมตัดสินใจไปที่ไหนจะมาว่าผมเป็นงูเห่าไม่ได้ เพราะเวลานี้ไม่ได้สังกัดพรรคไหน และยังมีเวลาคิด วันนี้ก็ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะไปไหน เพราะยังเหลือเวลาอีก 1 เดือนกว่า ในการสังกัดพรรคใหม่ ยังตอบไม่ได้ว่าวันที่ 14 มี.ค.นี้จะไปปรากฏตัวในการสมัครเข้าพรรคก้าวไกลหรือไม่ ซึ่งหากตัดสินใจอย่างไรเชื่อว่าจะมีคนวิจารณ์เรามาก แต่ก็ยืนยันว่าสามารถตอบคำถามและมีคำอธิบายให้ประชาชนได้หมด สุดท้ายอาจจะไปร่วมกับพรรคฝ่ายค้านด้วยกันก็ได้ ตนอยู่มาทั้ง นปช. และพรรคเพื่อไทย และไม่เคยทำอะไรขัดต่อความรู้สึกของตัวเอง” นายคารม ระบุ
นายคารมยังกล่าวถึง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งคาดว่าจะเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกลด้วยว่า นายพิธาเป็นคนน่ารักและมีความรู้ความสามารถ แต่การทำงานทางการเมืองเป็นคนละเรื่องกันกับหน้าตา เหมือนสามีภรรยา สามีไม่ใช่ว่าจะต้องอยู่กับภรรยาที่เป็นคนสวย แต่จะอยู่กับคนที่เข้าใจเขาและมีความเห็นอกเห็นใจกันเพื่อสร้างครอบครัวให้แข็งแรงมั่นคง
อีกด้าน นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. และอดีตรองโฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า รู้สึกเสียใจที่นายคารม ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุผลที่อาจไม่ย้ายไปร่วมสังกัดพรรคก้าวไกลเหมือนกับ ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่คนอื่นๆ และยืนยันว่าอดีตพรรคอนาคตใหม่ให้ความสำคัญกับทุกพื้นที่ทั่วประเทศ หนึ่งในนโยบายหลักคือนโยบายอีสานคืนถิ่น ที่มุ่งเน้นการคืนอำนาจสู่ท้องถิ่น แก้ปัญหาภัยแล้งปัญหา ปัญหาที่ดิน และการสร้างงานให้คนอีสาน ซึ่งนายคารมน่าจะรู้ดีที่สุดด้วยซ้ำ เพราะเป็นส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ สัดส่วนภาคอีสาน
“ถ้าพรรคไม่ให้ความสำคัญกับภาคอีสานคงไม่ได้เป็นส.ส. ยืนยันว่าพรรคให้ความสำคัญกับภาคอีสานมากกว่าที่ ส.ส. คนหนึ่งจะมาอ้างเรียกร้องตำแหน่ง” นายณัฐชา กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงกลางดึกของวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้มีกระแสข่าวว่า นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ จะไม่ย้ายไปร่วมพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นพรรคใหม่ที่ ส.ส.จำนวน 55 คนของอดีตพรรคอนาคตใหม่ จะย้ายไปสังกัด โดยนัดรวมตัวจะสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกลในวันที่ 14 มี.ค.นี้ ที่ศูนย์ประสานงาน ฝั่งธนบุรีอดีตพรรคอนาคตใหม่
วานนี้ (12 มี.ค.) มีรายงานข่าวว่า นายคารม ได้ออกจากไลน์กลุ่มของ ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารการทำงานของกลุ่ม ซึ่ง ส.ส.ที่เหลืออยู่ตั้งข้อสังเกตว่านายคารมจะไม่ไปร่วมงานกับพรรคก้าวไกลตามกระแสข่าวจริง และมี ส.ส.บางส่วนพยายามโน้มน้าวให้นายคารมอยู่ร่วมงานกันต่อไป
ก่อนที่ นายคารม จะเปิดเผยว่า ที่ออกจากกลุ่มไลน์ของพรรค เพราะอยากคิดอะไรโล่งๆ และทบทวนสิ่งที่ผ่านมา โดยหลังการประชุมอดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา ทำให้เห็นทิศทางโครงสร้างการทำงานของพรรคใหม่ว่ามีเรื่องของภาคอีสานน้อยมาก ซึ่งตนเป็นคนอีสานเห็นว่าหากแก้ปัญหาและพัฒนาภาคอีสานอย่างเต็มศักยภาพโดยเฉพาะลดความเหลื่อมล้ำ เชื่อว่าจะสามารถแก้ปัญหาของประเทศได้มากกว่าครึ่ง ส่วนเรื่องการปฏิรูปทหาร แก้ไขรัฐธรรมนูญ และการกระจายอำนาจ ไปอยู่พรรคไหนก็ชูประเด็นเรื่องนี้ได้อยู่แล้ว
“หากผมตัดสินใจไปที่ไหนจะมาว่าผมเป็นงูเห่าไม่ได้ เพราะเวลานี้ไม่ได้สังกัดพรรคไหน และยังมีเวลาคิด วันนี้ก็ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะไปไหน เพราะยังเหลือเวลาอีก 1 เดือนกว่า ในการสังกัดพรรคใหม่ ยังตอบไม่ได้ว่าวันที่ 14 มี.ค.นี้จะไปปรากฏตัวในการสมัครเข้าพรรคก้าวไกลหรือไม่ ซึ่งหากตัดสินใจอย่างไรเชื่อว่าจะมีคนวิจารณ์เรามาก แต่ก็ยืนยันว่าสามารถตอบคำถามและมีคำอธิบายให้ประชาชนได้หมด สุดท้ายอาจจะไปร่วมกับพรรคฝ่ายค้านด้วยกันก็ได้ ตนอยู่มาทั้ง นปช. และพรรคเพื่อไทย และไม่เคยทำอะไรขัดต่อความรู้สึกของตัวเอง” นายคารม ระบุ
นายคารมยังกล่าวถึง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งคาดว่าจะเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกลด้วยว่า นายพิธาเป็นคนน่ารักและมีความรู้ความสามารถ แต่การทำงานทางการเมืองเป็นคนละเรื่องกันกับหน้าตา เหมือนสามีภรรยา สามีไม่ใช่ว่าจะต้องอยู่กับภรรยาที่เป็นคนสวย แต่จะอยู่กับคนที่เข้าใจเขาและมีความเห็นอกเห็นใจกันเพื่อสร้างครอบครัวให้แข็งแรงมั่นคง
อีกด้าน นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. และอดีตรองโฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า รู้สึกเสียใจที่นายคารม ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุผลที่อาจไม่ย้ายไปร่วมสังกัดพรรคก้าวไกลเหมือนกับ ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่คนอื่นๆ และยืนยันว่าอดีตพรรคอนาคตใหม่ให้ความสำคัญกับทุกพื้นที่ทั่วประเทศ หนึ่งในนโยบายหลักคือนโยบายอีสานคืนถิ่น ที่มุ่งเน้นการคืนอำนาจสู่ท้องถิ่น แก้ปัญหาภัยแล้งปัญหา ปัญหาที่ดิน และการสร้างงานให้คนอีสาน ซึ่งนายคารมน่าจะรู้ดีที่สุดด้วยซ้ำ เพราะเป็นส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ สัดส่วนภาคอีสาน
“ถ้าพรรคไม่ให้ความสำคัญกับภาคอีสานคงไม่ได้เป็นส.ส. ยืนยันว่าพรรคให้ความสำคัญกับภาคอีสานมากกว่าที่ ส.ส. คนหนึ่งจะมาอ้างเรียกร้องตำแหน่ง” นายณัฐชา กล่าว