ผู้จัดการรายวัน360-กต.ตร.หนองปรือ ปลด "บอย ไนท์มาร์เก็ต" จากตำแหน่ง หลังถูกแฉกักตุนหน้ากากอนามัยไว้ขายเกินราคา ตำรวจสั่งเช็กเส้นทางเงิน ตรวจสอบทรัพย์สิน พร้อมเรียกดาราและคนที่ร่วมถ่ายภาพให้ปากคำ "อาลีบาบา กรุ๊ป" เดือด เตรียมฟ้องแอบอ้างชื่อ ""ธรรมนัส"ปลด "พิตตินันท์" พ้นคณะทำงานแล้ว ส่วนคดีหน้ากากฉาว ยันมีการตัดต่อภาพ คาดความจริงกระจ่ายไม่เกิน 13 มี.ค.นี้ "พาณิชย์"เผยยอดจับกุมขายหน้ากากแพงล่าสุด 107 ราย ฟันขายเกินราคาสูงสุดชิ้นละ 2.50 บาทแล้ว 4 ราย ด้าน "บิ๊กอู๊ด" กำชับ ผู้กำกับทุกสน. ควบคุมคดีหน้ากากอนามัยด้วยตัวเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (10 มี.ค.) คณะ กต.ตร.สภ.หนองปรือ นำโดยนายไพโรจน์ ประวัติเลิศอุดม ประธาน กต.ตร. พร้อมด้วยคณะกรรมการจำนวน 9 คน รวมถึงพ.ต.อ.ชิดเดชา สองห้อง ผกก.สภ.หนองปรือ ได้ร่วมประชุมเพื่อพิจารณาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ สภ.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ในวาระเร่งด่วน หลังนายศรสุวีย์ ภู่รวีรัศวัชรี หรือบอย ไนท์มาร์เก็ต ซึ่งเป็นคณะกรรมการ กต.ตร.หนองปรือ ได้ทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ของคณะทำงาน โดยการประชุมดังกล่าวไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าร่วมรับฟังแต่อย่างใด
นายไพโรจน์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า นายศรสุวีย์ เป็น กต.ตร.สภ.หนองปรือจริง ตามคำสั่งแต่งตั้งของผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ที่ 24/2562 แต่คณะกรรมการเห็นว่าการกระทำของนายศรสุวีย์ ซึ่งใช้ชื่อของ กต.ตร.สภ.หนองปรือ เข้าไปเกี่ยวข้องถือว่าสร้างความเสื่อมเสียให้แก่ชื่อเสียงของคณะกรรมการเป็นอย่างยิ่ง จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ด้วยคะแนน 2 ใน 3 ให้ปลดนายศรสุวีย์ ออกจากคณะกรรมการ กต.ตร.สภ.หนองปรือ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และยืนยันว่าการกระทำใดๆ ของนายศรสุวีย์ ถือว่าไม่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการใดๆ ทั้งสิ้น และจะได้มีการนำหนังสือแจ้งเพื่อทราบไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีต่อไป
ทั้งนี้ มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รวบรวมเอกสารหลักฐานจากการตรวจค้นบ้านพัก โดยเฉพาะเครื่องคอมพิวเตอร์และข้อมูลของนายศรสุวีย์ นำส่งกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) แล้ว
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ได้เรียกคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน คดีนายศรสุวีร์ โพสต์เฟซบุ๊กอ้างว่าสามารถจัดหาหน้ากากอนามัยได้มากกว่า 200 ล้านชิ้น มาสอบถามความคืบหน้าการเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 6 จุดในพื้นที่กรุงเทพฯ จ.สมุทรปราการ และจ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ ปอท. ได้กล่าวโทษนายศรสุวีร์ ในฐานความผิดฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์แล้ว และขณะนี้ กำลังตรวจสอบเส้นทางการเงินของนายศรสุวีร์ว่าทำธุรกรรมใดเข้าข่ายผิดปกติน่าสงสัยหรือไม่ และจะทำการตรวจสอบประวัติของนายศรสุวีร์โดยละเอียด ทั้งเรื่องสถานะทางการเงิน ทรัพย์สิน หนี้สิน ซึ่งต้องทำหนังสือไปถึงธนาคารเพื่อขอข้อมูล และทำหนังสือถึงกรมที่ดินเพื่อขอข้อมูลการจดจำนองบ้าน รวบรวมข้อมูลการพูดคุยโต้ตอบกับบุคคลอื่น และยังจะเรียกบุคคลที่มีชื่อเสียงที่นายศรสุวีร์ถ่ายภาพด้วยมาให้ปากคำทั้งหมด ที่ ปอท. รวมถึงนายพิตตินันท์ รักเอียด ผู้ติดตาม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์
สำหรับการเข้าค้นเป้าหมายที่อาคารไทยเฮลท์ เลขที่ 6/32 ถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ แขวงหนองแขมและเขตหนองแขม กรุงเทพฯ ที่นายศรสุวีร์ อ้างว่า เป็นที่ใช้กักตุนสินค้ากว่า 200 ล้านชิ้นนั้น จากการตรวจสอบพบว่ามีหน้ากากอนามัยอยู่เพียง 12,500 ชิ้น ซึ่งหน้ากากอนามัยดังกล่าวนายพันธ์ยศ อัครอมรพงศ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคภราดรภาพ เป็นผู้สั่งทำจากโรงงานแห่งหนึ่ง และนำมาใส่โลโก้ของตนเอง และจากแนวทางการสืบสวนพบว่านายพันธ์ยศ มีการติดต่อซื้อขายหน้ากากอนามัย กับนายศรสุวีร์ จริง ซึ่งนายศรสุวีร์ รับว่าได้ซื้อขายหน้ากากอนามัยจาก นายพันธ์ยศ เพียง 2 แสนชิ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นการซื้อขายกันก่อนหรือหลังการประกาศควบคุมหน้ากากอนามัยหรือไม่ และการเข้าตรวจสอบที่โรงงานผลิตหน้ากากอนามัยแห่งหนึ่งย่านรามอินทรา 86 ที่นายศรสุวีร์ โพสต์กล่องหน้ากากอนามัยและข้อความอ้างว่ามีกักตุนอยู่ 200 ล้านชิ้น พร้อมที่จะนำออกมาจำหน่ายนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามถึงกำลังการผลิตของโรงงานแต่ละวัน ซึ่งโรงงานชี้แจงว่าได้ส่งข้อมูลดังกล่าวให้กรมการค้าภายในแล้ว และจะส่งข้อมูลให้ตำรวจ แต่ทางตำรวจยังไม่ได้รับ ขณะที่กรมการค้าภายในระบุว่าเป็นความลับ
วันเดียวกันนี้ อาลีบาบา กรุ๊ป ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า บริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนายนายศรสุวีย์ รวมทั้งนายพันธ์ยศ อัครอมรพงศ์ และไม่มีการทำข้อตกลงทางธุรกิจกับบุคคลเหล่านี้ตามที่กล่าวอ้าง เรารู้สึกเสียใจที่มีการพาดพิงถึงบริษัทเช่นนี้ และขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อการแอบอ้างชื่อ อาลีบาบา กรุ๊ป โดยไม่ได้รับอนุญาต
ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์กรณีอดีตคณะทำงานถูกกล่าวหาว่าพัวพันกับบุคคลที่มีการกักตุนหน้ากากอนามัยจำนวน 200 ล้านชิ้น ว่า ตอนนี้ความจริงปรากฎออกมาแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการขยายผลแล้ว เดี๋ยวก็จะรู้ว่าใบออเดอร์สินค้ามีจริงหรือไม่ และอยู่กับใคร รอติดตามพิสูจน์ความจริงตรงนี้ดีกว่า อีกไม่นาน ซึ่งตอนนี้ตนก็รู้แล้ว ภายในสัปดาห์นี้ก็กระจ่าง ไม่เกินวันที่ 13 มี.ค.นี้ ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวมาจากเรื่องการเมือง
เมื่อถามว่าที่ระบุว่าไม่พบหน้ากากอยู่จริง ได้มีการตรวจสอบหรือไม่ว่ามีของอยู่จริงก่อนหน้านี้หรือมีการจำหน่ายออกไปแล้ว ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตอนนี้เริ่มรู้แล้วว่ามีการตัดต่อภาพ สื่อก็รู้ บอกได้เลยว่ามีการตัดต่อ และรู้เยอะกว่านี้ แต่พูดไม่ได้
"อยากเรียนสื่อมวลชนว่าการนำเสนอข่าว อะไรที่เป็นความจริงทำให้สังคมได้เห็น ก็ควรจะนำเสนอโดยเฉพาะในเวลานี้ บ้านเมืองกำลังวิกฤติ ควรนำข้อเท็จจริงมาเสนอ แต่กลับนำเสนอประเด็นว่าจะอยู่ หรือจะลาออก ผมเห็นว่าเราน่าจะช่วยกันเสนอสิ่งที่เป็นประโยชน์ เพื่อช่วยกันกระชากหน้ากากว่าจริงๆแล้ว ใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้กันแน่ คนๆ หนึ่งพูดน้ำไหลไฟดับ คงไม่ธรรมดา ต้องมีคนอยู่เบื้องหลังแน่ ซึ่งตอนนี้ผมรู้เยอะแล้ว ขอให้สื่อมวลชนเปิดเผยความจริงให้กระจ่าง อย่าไปอยู่ในเกมของการเมือง และโซเชียล"ร.อ.ธรรมนัสกล่าว
ส่วนนายพิตตินันท์ ที่ถูกกล่าวหาว่าเข้าไปพัวพันนั้น ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนแล้ว แต่เบื้องต้นตนได้ปลดออกจากคณะทำงานไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา
ด้าน พล.อ.ประวิตร ปฏิเสธไม่ตอบคำถามสื่อมวลชนกรณีคณะทำงานของ ร.อ.ธรรมนัส พัวพันกับการกักตุนหน้ากากอนามัย แต่ได้รับที่จะไปดูกรณีนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. ที่ออกมาเรียกร้องให้ ร.อ.ธรรมนัส ลาออกจากตำแหน่ง และมีปัญหากับนายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร ว่า เดี๋ยวจะไปจัดการให้ตามคำสั่ง
ที่กระทรวงพาณิชย์ นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า สถิติการจับกุมดำเนินคดีผู้กระทำผิดตามมาตรา 25, 28 และ29 ของ พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ณ วันที่ 9 มี.ค.2563 มีการจับกุมดำเนินคดีไปแล้ว จำนวน 107 ราย แบ่งเป็น การจับกุมในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 77 ราย และในต่างจังหวัด 30 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ค้าทางออนไลน์ 15 ราย แยกเป็นการจับกุมข้อหาขายเกินราคาควบคุม 4 ราย ซึ่งเป็นข้อหาใหม่ มีโทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และไม่ปิดป้ายแสดงราคา 28 ราย ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท และข้อหาแพงเกินสมควร 75 ราย มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ได้กำชับให้ตำรวจนครบาลเฝ้าติดตามตรวจสอบสถานการณ์การจำหน่ายหน้ากากอนามัย เจลล้างมืออย่างใกล้ชิด หากพบการกระทำผิด ให้รวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดอย่างเคร่งครัดทุกราย โดยให้ ผกก.ทุกสน.เป็นผู้ควบคุมกำกับการสอบสวนคดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (10 มี.ค.) คณะ กต.ตร.สภ.หนองปรือ นำโดยนายไพโรจน์ ประวัติเลิศอุดม ประธาน กต.ตร. พร้อมด้วยคณะกรรมการจำนวน 9 คน รวมถึงพ.ต.อ.ชิดเดชา สองห้อง ผกก.สภ.หนองปรือ ได้ร่วมประชุมเพื่อพิจารณาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ สภ.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ในวาระเร่งด่วน หลังนายศรสุวีย์ ภู่รวีรัศวัชรี หรือบอย ไนท์มาร์เก็ต ซึ่งเป็นคณะกรรมการ กต.ตร.หนองปรือ ได้ทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ของคณะทำงาน โดยการประชุมดังกล่าวไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าร่วมรับฟังแต่อย่างใด
นายไพโรจน์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า นายศรสุวีย์ เป็น กต.ตร.สภ.หนองปรือจริง ตามคำสั่งแต่งตั้งของผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ที่ 24/2562 แต่คณะกรรมการเห็นว่าการกระทำของนายศรสุวีย์ ซึ่งใช้ชื่อของ กต.ตร.สภ.หนองปรือ เข้าไปเกี่ยวข้องถือว่าสร้างความเสื่อมเสียให้แก่ชื่อเสียงของคณะกรรมการเป็นอย่างยิ่ง จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ด้วยคะแนน 2 ใน 3 ให้ปลดนายศรสุวีย์ ออกจากคณะกรรมการ กต.ตร.สภ.หนองปรือ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และยืนยันว่าการกระทำใดๆ ของนายศรสุวีย์ ถือว่าไม่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการใดๆ ทั้งสิ้น และจะได้มีการนำหนังสือแจ้งเพื่อทราบไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีต่อไป
ทั้งนี้ มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รวบรวมเอกสารหลักฐานจากการตรวจค้นบ้านพัก โดยเฉพาะเครื่องคอมพิวเตอร์และข้อมูลของนายศรสุวีย์ นำส่งกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) แล้ว
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ได้เรียกคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน คดีนายศรสุวีร์ โพสต์เฟซบุ๊กอ้างว่าสามารถจัดหาหน้ากากอนามัยได้มากกว่า 200 ล้านชิ้น มาสอบถามความคืบหน้าการเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 6 จุดในพื้นที่กรุงเทพฯ จ.สมุทรปราการ และจ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ ปอท. ได้กล่าวโทษนายศรสุวีร์ ในฐานความผิดฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์แล้ว และขณะนี้ กำลังตรวจสอบเส้นทางการเงินของนายศรสุวีร์ว่าทำธุรกรรมใดเข้าข่ายผิดปกติน่าสงสัยหรือไม่ และจะทำการตรวจสอบประวัติของนายศรสุวีร์โดยละเอียด ทั้งเรื่องสถานะทางการเงิน ทรัพย์สิน หนี้สิน ซึ่งต้องทำหนังสือไปถึงธนาคารเพื่อขอข้อมูล และทำหนังสือถึงกรมที่ดินเพื่อขอข้อมูลการจดจำนองบ้าน รวบรวมข้อมูลการพูดคุยโต้ตอบกับบุคคลอื่น และยังจะเรียกบุคคลที่มีชื่อเสียงที่นายศรสุวีร์ถ่ายภาพด้วยมาให้ปากคำทั้งหมด ที่ ปอท. รวมถึงนายพิตตินันท์ รักเอียด ผู้ติดตาม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์
สำหรับการเข้าค้นเป้าหมายที่อาคารไทยเฮลท์ เลขที่ 6/32 ถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ แขวงหนองแขมและเขตหนองแขม กรุงเทพฯ ที่นายศรสุวีร์ อ้างว่า เป็นที่ใช้กักตุนสินค้ากว่า 200 ล้านชิ้นนั้น จากการตรวจสอบพบว่ามีหน้ากากอนามัยอยู่เพียง 12,500 ชิ้น ซึ่งหน้ากากอนามัยดังกล่าวนายพันธ์ยศ อัครอมรพงศ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคภราดรภาพ เป็นผู้สั่งทำจากโรงงานแห่งหนึ่ง และนำมาใส่โลโก้ของตนเอง และจากแนวทางการสืบสวนพบว่านายพันธ์ยศ มีการติดต่อซื้อขายหน้ากากอนามัย กับนายศรสุวีร์ จริง ซึ่งนายศรสุวีร์ รับว่าได้ซื้อขายหน้ากากอนามัยจาก นายพันธ์ยศ เพียง 2 แสนชิ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นการซื้อขายกันก่อนหรือหลังการประกาศควบคุมหน้ากากอนามัยหรือไม่ และการเข้าตรวจสอบที่โรงงานผลิตหน้ากากอนามัยแห่งหนึ่งย่านรามอินทรา 86 ที่นายศรสุวีร์ โพสต์กล่องหน้ากากอนามัยและข้อความอ้างว่ามีกักตุนอยู่ 200 ล้านชิ้น พร้อมที่จะนำออกมาจำหน่ายนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามถึงกำลังการผลิตของโรงงานแต่ละวัน ซึ่งโรงงานชี้แจงว่าได้ส่งข้อมูลดังกล่าวให้กรมการค้าภายในแล้ว และจะส่งข้อมูลให้ตำรวจ แต่ทางตำรวจยังไม่ได้รับ ขณะที่กรมการค้าภายในระบุว่าเป็นความลับ
วันเดียวกันนี้ อาลีบาบา กรุ๊ป ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า บริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนายนายศรสุวีย์ รวมทั้งนายพันธ์ยศ อัครอมรพงศ์ และไม่มีการทำข้อตกลงทางธุรกิจกับบุคคลเหล่านี้ตามที่กล่าวอ้าง เรารู้สึกเสียใจที่มีการพาดพิงถึงบริษัทเช่นนี้ และขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อการแอบอ้างชื่อ อาลีบาบา กรุ๊ป โดยไม่ได้รับอนุญาต
ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์กรณีอดีตคณะทำงานถูกกล่าวหาว่าพัวพันกับบุคคลที่มีการกักตุนหน้ากากอนามัยจำนวน 200 ล้านชิ้น ว่า ตอนนี้ความจริงปรากฎออกมาแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการขยายผลแล้ว เดี๋ยวก็จะรู้ว่าใบออเดอร์สินค้ามีจริงหรือไม่ และอยู่กับใคร รอติดตามพิสูจน์ความจริงตรงนี้ดีกว่า อีกไม่นาน ซึ่งตอนนี้ตนก็รู้แล้ว ภายในสัปดาห์นี้ก็กระจ่าง ไม่เกินวันที่ 13 มี.ค.นี้ ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวมาจากเรื่องการเมือง
เมื่อถามว่าที่ระบุว่าไม่พบหน้ากากอยู่จริง ได้มีการตรวจสอบหรือไม่ว่ามีของอยู่จริงก่อนหน้านี้หรือมีการจำหน่ายออกไปแล้ว ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตอนนี้เริ่มรู้แล้วว่ามีการตัดต่อภาพ สื่อก็รู้ บอกได้เลยว่ามีการตัดต่อ และรู้เยอะกว่านี้ แต่พูดไม่ได้
"อยากเรียนสื่อมวลชนว่าการนำเสนอข่าว อะไรที่เป็นความจริงทำให้สังคมได้เห็น ก็ควรจะนำเสนอโดยเฉพาะในเวลานี้ บ้านเมืองกำลังวิกฤติ ควรนำข้อเท็จจริงมาเสนอ แต่กลับนำเสนอประเด็นว่าจะอยู่ หรือจะลาออก ผมเห็นว่าเราน่าจะช่วยกันเสนอสิ่งที่เป็นประโยชน์ เพื่อช่วยกันกระชากหน้ากากว่าจริงๆแล้ว ใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้กันแน่ คนๆ หนึ่งพูดน้ำไหลไฟดับ คงไม่ธรรมดา ต้องมีคนอยู่เบื้องหลังแน่ ซึ่งตอนนี้ผมรู้เยอะแล้ว ขอให้สื่อมวลชนเปิดเผยความจริงให้กระจ่าง อย่าไปอยู่ในเกมของการเมือง และโซเชียล"ร.อ.ธรรมนัสกล่าว
ส่วนนายพิตตินันท์ ที่ถูกกล่าวหาว่าเข้าไปพัวพันนั้น ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนแล้ว แต่เบื้องต้นตนได้ปลดออกจากคณะทำงานไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา
ด้าน พล.อ.ประวิตร ปฏิเสธไม่ตอบคำถามสื่อมวลชนกรณีคณะทำงานของ ร.อ.ธรรมนัส พัวพันกับการกักตุนหน้ากากอนามัย แต่ได้รับที่จะไปดูกรณีนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. ที่ออกมาเรียกร้องให้ ร.อ.ธรรมนัส ลาออกจากตำแหน่ง และมีปัญหากับนายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร ว่า เดี๋ยวจะไปจัดการให้ตามคำสั่ง
ที่กระทรวงพาณิชย์ นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า สถิติการจับกุมดำเนินคดีผู้กระทำผิดตามมาตรา 25, 28 และ29 ของ พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ณ วันที่ 9 มี.ค.2563 มีการจับกุมดำเนินคดีไปแล้ว จำนวน 107 ราย แบ่งเป็น การจับกุมในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 77 ราย และในต่างจังหวัด 30 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ค้าทางออนไลน์ 15 ราย แยกเป็นการจับกุมข้อหาขายเกินราคาควบคุม 4 ราย ซึ่งเป็นข้อหาใหม่ มีโทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และไม่ปิดป้ายแสดงราคา 28 ราย ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท และข้อหาแพงเกินสมควร 75 ราย มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ได้กำชับให้ตำรวจนครบาลเฝ้าติดตามตรวจสอบสถานการณ์การจำหน่ายหน้ากากอนามัย เจลล้างมืออย่างใกล้ชิด หากพบการกระทำผิด ให้รวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดอย่างเคร่งครัดทุกราย โดยให้ ผกก.ทุกสน.เป็นผู้ควบคุมกำกับการสอบสวนคดี