ผู้จัดการรายวัน360-เมีย "บรรยิน" เข้าให้ปากคำกองปราบปรามตามหมายเรียก ชี้แจงปมจุดเผาศพพี่ชายผู้พิพากษา และกรณีสั่งสาวใช้ซื้อซิมให้ทีมสังหาร ยันไม่เกี่ยวข้องกับคดี เผย "น้องเบล" หลังถูกเข้าบำบัด ยังเครียดปรับตัวไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (10 มี.ค.) ที่กองปราบปราม นางวราภรณ์ ตั้งภากรณ์ ภรรยา พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภาภรณ์ ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สัณห์เพ็ชร หนูทอง ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.ป. เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมตามหมายเรียกในคดีที่ พ.ต.ท.บรรยิน และพวกรวม 6 คนก่อเหตุอุ้มฆ่านายวีรชัย ศกุนตะประเสริฐ พี่ชาย น.ส.พนิดา ศกุนตะประเสริฐ ผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ ทั้งปมที่ดินที่มีชื่อเป็นผู้ครอบครอง การให้คนงานไปซื้อซิมให้ทีมสังหาร ที่มาที่ไปของรถโตโยต้า วีโก้ ที่ใช้ก่อเหตุ และข้อสงสัยอื่นๆ
โดยทันทีที่มาถึง นางวราภรณ์ได้กล่าวสั้นๆ กับสื่อมวลชนก่อนการเข้าพบพนักงานสอบสวนว่า วันนี้มาตามนัดหมาย ซึ่งตนได้เตรียมเอกสารต่างๆ มาชี้แจงเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ หลังการเข้าให้ปากคำกับทางพนักงานสอบสวน รวมระยะเวลาเกือบ 4 ชั่วโมง นางวราภรณ์ ได้เดินทางขึ้นรถกลับในทันที โดยเปิดเผยกับสื่อมวลชนเพียงสั้นๆ ว่า ที่ดินผืนดังกล่าวเป็นของตนจริง แต่ตนไม่ทราบว่า พ.ต.ท.บรรยิน และพวกนำศพไปเผาทำลายที่นั่น ซึ่งในส่วนนี้ได้ชี้แจงรายละเอียดให้กับทางพนักงานสอบสวนไปหมดแล้ว และขอยืนยันว่าตนเอง เป็นผู้บริสุทธิ์ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวแต่อย่างใด และทางพนักงานสอบสวนก็ไม่ได้นัดหมายให้ตนมาให้ปากคำเพิ่มเติมอีก
ส่วนกรณีของ น.ส.บุษญา ตั้งภากรณ์ หรือเบล บุตรสาว พ.ต.ท.บรรยิน ที่ถูกตำรวจสน.ทองหล่อ ดำเนินคดีฐานเสพยาเสพติดหลังไปปาร์ตี้กับเพื่อนที่บ้านพักย่านคลอง 6 จ.ปทุมธานี และขณะนี้ถูกส่งตัวไปเข้ารับการบำบัดอยู่นั้น ตนยังไม่ได้ไปเข้าเยี่ยม แต่ก็มีพูดคุยสอบถามบ้าง เบื้องต้นทราบว่าตอนนี้ยังปรับตัวไม่ได้ มีไข้ขึ้นสูง เพราะอยู่ในสภาวะเครียด เพราะหลังได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับเรื่องตัวเองจึงส่งผลต่อสภาพจิตใจและร่างกาย
รายงานข่าวแจ้งว่า นางวราภรณ์ให้ข้อมูลว่าที่ดินผืนดังกล่าวเป็นที่ดินที่ซื้อต่อมาอีกทอดหนึ่ง ส่วนตัวมีชื่อครอบครองอยู่ 4 แปลง เคยไปดูพื้นที่เพียงแค่ครั้งเดียวซึ่งนานมาแล้ว จำไม่ได้ว่าแต่ละแปลงอยู่ตรงไหนบ้าง และไม่ทราบว่า พ.ต.ท.บรรยิน และพวกจะนำศพผู้ตายไปผาทำลายในที่ดินผืนนี้ เพราะไม่ทราบว่ามีการก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ส่วนกรณีซิมโทรศัพท์มือถือ ได้รับว่าเป็นผู้ให้คนงานในบ้านไปเปิดซิมจริง เพราะต้องการนำมาใช้ในสำนักงานเนื่องจากเห็นว่าในช่วงนั้นทางค่ายโทรศัพท์มีการจัดโปรโมชั่นประหยัดค่าโทร แต่ไม่ทราบว่าหลังจากเปิดเบอร์ขึ้นมาแล้วใครนำไปใช้ทำอะไรบ้าง แต่ทางพนักงานสอบสวนยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การทั้งหมดและจะมีการนำไปพิจารณาควบคู่กับพยานหลักฐานอื่นๆ เพื่อพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (10 มี.ค.) ที่กองปราบปราม นางวราภรณ์ ตั้งภากรณ์ ภรรยา พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภาภรณ์ ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สัณห์เพ็ชร หนูทอง ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.ป. เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมตามหมายเรียกในคดีที่ พ.ต.ท.บรรยิน และพวกรวม 6 คนก่อเหตุอุ้มฆ่านายวีรชัย ศกุนตะประเสริฐ พี่ชาย น.ส.พนิดา ศกุนตะประเสริฐ ผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ ทั้งปมที่ดินที่มีชื่อเป็นผู้ครอบครอง การให้คนงานไปซื้อซิมให้ทีมสังหาร ที่มาที่ไปของรถโตโยต้า วีโก้ ที่ใช้ก่อเหตุ และข้อสงสัยอื่นๆ
โดยทันทีที่มาถึง นางวราภรณ์ได้กล่าวสั้นๆ กับสื่อมวลชนก่อนการเข้าพบพนักงานสอบสวนว่า วันนี้มาตามนัดหมาย ซึ่งตนได้เตรียมเอกสารต่างๆ มาชี้แจงเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ หลังการเข้าให้ปากคำกับทางพนักงานสอบสวน รวมระยะเวลาเกือบ 4 ชั่วโมง นางวราภรณ์ ได้เดินทางขึ้นรถกลับในทันที โดยเปิดเผยกับสื่อมวลชนเพียงสั้นๆ ว่า ที่ดินผืนดังกล่าวเป็นของตนจริง แต่ตนไม่ทราบว่า พ.ต.ท.บรรยิน และพวกนำศพไปเผาทำลายที่นั่น ซึ่งในส่วนนี้ได้ชี้แจงรายละเอียดให้กับทางพนักงานสอบสวนไปหมดแล้ว และขอยืนยันว่าตนเอง เป็นผู้บริสุทธิ์ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวแต่อย่างใด และทางพนักงานสอบสวนก็ไม่ได้นัดหมายให้ตนมาให้ปากคำเพิ่มเติมอีก
ส่วนกรณีของ น.ส.บุษญา ตั้งภากรณ์ หรือเบล บุตรสาว พ.ต.ท.บรรยิน ที่ถูกตำรวจสน.ทองหล่อ ดำเนินคดีฐานเสพยาเสพติดหลังไปปาร์ตี้กับเพื่อนที่บ้านพักย่านคลอง 6 จ.ปทุมธานี และขณะนี้ถูกส่งตัวไปเข้ารับการบำบัดอยู่นั้น ตนยังไม่ได้ไปเข้าเยี่ยม แต่ก็มีพูดคุยสอบถามบ้าง เบื้องต้นทราบว่าตอนนี้ยังปรับตัวไม่ได้ มีไข้ขึ้นสูง เพราะอยู่ในสภาวะเครียด เพราะหลังได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับเรื่องตัวเองจึงส่งผลต่อสภาพจิตใจและร่างกาย
รายงานข่าวแจ้งว่า นางวราภรณ์ให้ข้อมูลว่าที่ดินผืนดังกล่าวเป็นที่ดินที่ซื้อต่อมาอีกทอดหนึ่ง ส่วนตัวมีชื่อครอบครองอยู่ 4 แปลง เคยไปดูพื้นที่เพียงแค่ครั้งเดียวซึ่งนานมาแล้ว จำไม่ได้ว่าแต่ละแปลงอยู่ตรงไหนบ้าง และไม่ทราบว่า พ.ต.ท.บรรยิน และพวกจะนำศพผู้ตายไปผาทำลายในที่ดินผืนนี้ เพราะไม่ทราบว่ามีการก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ส่วนกรณีซิมโทรศัพท์มือถือ ได้รับว่าเป็นผู้ให้คนงานในบ้านไปเปิดซิมจริง เพราะต้องการนำมาใช้ในสำนักงานเนื่องจากเห็นว่าในช่วงนั้นทางค่ายโทรศัพท์มีการจัดโปรโมชั่นประหยัดค่าโทร แต่ไม่ทราบว่าหลังจากเปิดเบอร์ขึ้นมาแล้วใครนำไปใช้ทำอะไรบ้าง แต่ทางพนักงานสอบสวนยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การทั้งหมดและจะมีการนำไปพิจารณาควบคู่กับพยานหลักฐานอื่นๆ เพื่อพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงต่อไป