ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้"หน่วยงานรับงบประมาณ" ดำเนินการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ สำหรับรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 โดยอนุมัติให้หน่วยรับงบประมาณ ก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการใหม่ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 จำนวน 1,470 รายการ เป็นวงเงินภาระผูกพันรวมทั้งสิ้น 307,602.2 ล้านบาท สำหรับรายการที่มีวงเงินรวมตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป จำนวน 43 รายการ วงเงิน 111,225.0 ล้านบาท
ครม.ระบุว่า เมื่อทราบผลประกวดราคาแล้ว เห็นสมควรให้หน่วยรับงบประมาณ นำเสนอนายกรัฐมนตรีทราบอีกครั้งหนึ่งก่อนดำเนินการต่อไป พบว่า ตัวอย่างบิ๊กโปรเจกต์ ก่อหนี้ผูกพันข้ามงบประมาณปี 2563 เริ่มจาก "กระทรวงคมนาคม" เป็น "โครงการใหม่" ของกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท การรถไฟแห่งประเทศไทย การท่าเรือแห่งประเทศไทย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย
ในส่วนของ "กรมทางหลวงชนบท" ที่เน้นรูปแบบการร่วมลงทุนมากขึ้น งบประมาณในส่วนนี้ เป็นค่าเวนคืน "ส่วนใหญ่อยู่ในระดับ 1,000 ล้านบาท" ในช่วงการผูกพัน 1-2 ปี (2563-2564) "เช่น เส้นทางนครปฐม-ชะอำ ก่อหนี้ผูกพันในปี 2563 และ เส้นหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ มีการตั้งงบประมาณหนี้ผูกพัน เพื่อจ้างที่ปรึกษาช่วยเวนคืนเท่านั้น ส่วนงบเวนคืน จะตั้งเป็นลำดับต่อไป เป็นการก่อหนี้ เพิ่มอีกประมาณ 20%
ส่วนแผนจัดงบประมาณผูกพันปี 2563 ของ "กรมทางหลวง" ได้แก่ การพัฒนาทางหลวงรองรับระเบียบเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) เช่น สายปราจีนบุรี-อ.พนมสารคาม ตอน บ.หนองบัวหมู-อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา จ.ปราจีนบุรี สายแยกทางหลวงหมาย 315 (ดอนสีนนท์) –บรรจบทางหลวงหมายเลข 331 (แปลงยาว) จ.ฉะเชิงเทรา สายฉะเชิงเทรา-ต.เขาหินซ้อน ตอน อ.พนมสารคาม-ต.เขาหินซ้อน สาย อ.สัตหีบ-อ.บ้านฉาง จ.ชลบุรี จ.ระยอง สาย อ.พนัสนิคม-บ.เกาะโพธิ์ จ.ชลบุรี สาย อ.บ้านฉาง-ถนนซอย 13 ของนิคมสร้างตนเองจังหวัดระยอง จ.ระยอง สาย ต.มาบตาพุด-อ.นิคมพัฒนา สายแยกทางหลวงหมายเลข 36-ต่างระดับมาบเอียง จ.ชลบุรี สายต่างระดับมาบเอียง-แยกทางหลวงหมายเลข 344 (แยกหนองปรือ) จ.ชลบุรี เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีทางหลวงเชื่อมโยงระหว่างประเทศ ประกอบด้วย 1.สาย อ.ปราสาท-ด่านช่องจอม ตอน บ.โคกตะเคียน-บ.ด่านพัฒนา จ.สุรินทร์ สายเชียงใหม่-เชียงราย เป็นต้น
"สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.)" มีงบผูกพันข้ามปี โครงการเสนอใหม่ในปี 2563 ทีได้รับความเห็นชอบกว่า 5 หมื่นล้านบาทพบว่า "เป็นโครงการที่ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา รวมทั้งแผนดำเนินโครงการใหม่อีกกว่า 100 โครงการ รวมโครงการทั้งเก่าและใหม่กว่า 1,000 โครงการ ซึ่งงบดังกล่าวจะใช้ลงทุนในแผนบริหารจัดการน้ำทั้งประเทศจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องน้ำทั้งหมด เช่น
"โครงการอ่างเก็บน้ำน้ำกิ พร้อมระบบส่งน้ำ ต.ผาทอง อ.ท่าวังผา จ.น่าน" เป็นโครงการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลางที่มีพื้นที่รับน้ำ 88.7 ตารางกิโลเมตร ปริมาณน้ำท่า 71.6 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ความจุ 57.3 ล้าน ลบ.ม. เพิ่มพื้นที่ชลประทาน 8,000 ไร่
"อุโมงค์ระบายน้ำใต้คลองทวีวัฒนา บริเวณคอขวด" งบประมาณ 2,274.20 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีโครงการอุโมงค์ระบายน้ำใต้คลองแสนแสบ โครงการปรับปรุงคลองยม-น่าน เขื่อน ค.ส.ล. คลองพระยาราชมนตรี ช่วงบางบอนถึงคลองหนองใหญ่ และช่วงคลองภาษีเจริญ-คลองบางเชือกหนัก
ขณะที่ "กระทรวงเกษตรและสหกรณ์" เช่น โครงการต่อเนื่องจากแผนเดิม ในโครงการ "ไทยนิยม ยั่งยืน" ที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2561 จำนวนทั้งสิ้น 2.49 หมื่นล้านบาท เพื่อดำเนินงานตามแผนงานยุทธศาสตร์ 2 แผนงาน ได้แก่ แผนงานยุทธศาสตร์ปฏิรูปโครงการผลิตภาคเกษตร จำนวน 20 โครงการ และ แผนงานยุทธศาสตร์เสริมสร้างศักยภาพและพัฒนาคุณภาพชีวิต จำนวน 2 โครงการ
ล่าสุด มีโครงการที่ดำเนินการยังไม่แล้วเสร็จ จำนวน 11 โครงการ ยังเหลืองบอีกกว่า 6,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบผูกพันที่จะต้องดำเนินการต่อให้แล้วเสร็จ
ย้อนกลับไปดู สัปดาห์ก่อน สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เวียนหนังสือ กรณี "สำนักงบประมาณ"ได้สรุปรายงานสถานภาพการดำเนินงานรายจ่ายลงทุน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ไปพลางก่อน ในภาพรวมประเทศ ณ วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2563 จำนวน 508 หน่วยรับ งบประมาณ รวมทั้งสิ้น จำนวน 160,787 รายการ วงเงินทั้งสิ้น 643,668 ล้านบาท
ประกอบด้วย รายการปีเดียว จำนวน 157,182 รายการ วงเงิน 434,351ล้านบาท รายการผูกพันใหม่ จำนวน 1,238 รายการ วงเงิน 53,944 ล้านบาท และรายการผูกพันเดิม จำนวน 2,367 รายการ วงเงิน 155,372 ล้านบาท โดยจำแนกสถานภาพการดำเนินงานรายจ่ายลงทุน ได้ดังนี้
(1) งานจ้างเหมา อยู่ระหว่างการสำรวจออกแบบ/กำหนดคุณลักษณะ SPEC จำนวน 10,123 รายการ วงเงิน 42,064 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 6.54
(2) งานจ้างเหมา อยู่ระหว่างจัดทำแบบรูปรายการ /TOR แล้วเสร็จ /กำหนดราคากลาง จำนวน 60,156 รายการ วงเงิน 77,789 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 12.09
(3) งานจ้างเหมา อยู่ระหว่างประกาศประกวดราคา /ประกาศจัดซื้อจัดจ้าง จำนวน 16,874 รายการ วงเงิน 93,551 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 14.53
(4) งานจ้างเหมา อยู่ระหว่างเปิดซอง /e-Auction ,e-market,e-bidding. จำนวน 6,505 รายการ วงเงิน 28,886 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 4.49
(5) งานจ้างเหมา อนุมัติผลการจัดซื้อจัดจ้าง (รอลงนามสัญญา) จำนวน 49,626 รายการ วงเงิน 96,296 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 14.96
(6) งานจ้างเหมา ลงนามสัญญาแล้ว (กรณีรายการผูกพันเดิม) จำนวน 22 รายการ วงเงิน 685 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.11
(7) งานดำเนินการเอง กำลังสำรวจออกแบบ/กำหนดแผนดำเนินงาน จำนวน 29 รายการ วงเงิน 73,322 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 11.39
(8) งานดำเนินการเอง มีแผนดำเนินการแล้ว จำนวน 15,246 รายการ วงเงิน 96,237 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 14.95
(9) ลงนามสัญญาและเริ่มดำเนินการแล้ว (กรณีรายการผูกพันเดิม) จำนวน 2,206 รายการ วงเงิน 134,834 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 20.95
ทั้งนี้ มีหน่วยรับงบประมาณที่ไม่รายงานสถานภาพ 5 หน่วย จำนวน 183 รายการ วงเงิน 757 ล้านบาท โดยหากพิจารณาจากการจำแนกสถานภาพการดำเนินงานรายจ่ายลงทุนตามขั้นตอนการจํดซื้อจัดจ้างดังกล่าว จะพบว่าปัจจุบันมีรายจ่ายลงทุนที่ได้ดำเนินการและผูกพันไปแล้ว และอยู่ระหว่างการเบิกจ่ายตามข้อ (6) - (9) ประกอบด้วย งานดำเนินการเองและรายการผูกพันเดิม จำนวน 17,503 รายการ วงเงิน 305,080 ล้านบาท และคาดว่าจะมีรายจ่ายลงทุนที่เป็นรายการปีเดียว และรายการผูกพัน ตามข้อ (5) ที่ได้อนุมัติการจัดซื้อจัดจ้างและอยู่ระหว่างรอลงนามในสัญญา จำนวน 49,626 รายการ วงเงิน 96,096 ล้านบาท สามารถลงนามในสัญญาได้ภายหลังจาก พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 มีผลใช้บังคับ โดยเฉพาะรายการจ้างเหมาปีเดียว จำนวน 49,504 รายการ วงเงิน 91,133 ล้านบาท.
นอกจากอนุมัติให้ก่อนหนี้ผูกพัน งบประมาณปี 2563 แล้ว ครม.ยังอนุมัติให้หน่วยรับงบประมาณที่ไม่สามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ ตามนัยมติครม. เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2552 (มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย และกรุงเทพมหานคร) สามารถดำเนินการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณตามที่เสนอได้
รายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณที่จะต้องจ่ายในรูปของเงินตราต่างประเทศ เช่น รายการค่าเช่าบ้าน ค่าเช่าอาคารสำนักงาน และค่าเช่าทรัพย์สินต่างประเทศ ฯลฯ ให้สำนักงบประมาณ พิจารณาอนุมัติวงเงินผูกพันที่เปลี่ยนแปลงไปจากที่ได้รับอนุมัติเนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยน ในกรณีที่หน่วยรับงบฯ สามารถปรับแผนการใช้จ่ายงบฯ ได้โดยไม่ต้องเสนอครม. พิจารณาให้ความเห็นชอบอีกครั้ง
ท้ายสุดให้หน่วยรับงบประมาณเร่งรัดดำเนินการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการใหม่ โดยให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดกำกับดูแลและเร่งรัดการดำเนินงานให้เป็นไปตามมติครม. เมื่อวันที่ 14 ม.ค.63 เรื่อง มาตรการเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563
นอกจากนั้น หน่วยงานรับงบประมาณ ที่ได้รับอนุมัติเงินจัดสรรจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2562 ไปพลางก่อน ให้เร่งประสานกับ สำนักงบประมาณ "ดำเนินการหักงบประมาณรายจ่าย" ที่ได้รับการจัดสรรออกจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563
แว่วว่า มากกว่าหลายแสนล้านบาทเลยที่เดียว.