แม้บรรดาองครักษ์พิทักษ์รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะดาหน้าออกปราม ประณาม คำรามหรือพยายามโจมตี เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของกลุ่มนักเรียนนักศึกษา ซึ่งออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล แต่กิจกรรมแฟลชม็อบกลับดำเนินไปด้วยความคึกคัก และอยู่เป็นที่จับตาของทุกฝ่าย
กลุ่มนักศึกษา ไม่เคยออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองมาหลายสิบปีแล้ว โดยบทบาทการชุมนุมครั้งสุดท้าย เกิดขึ้นในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬปี 2535 โดยออกมาร่วมกับประชาชนขับไล่รัฐบาลพล.อ.สุจินดา คราประยูร หลังจากนั้นไม่มีการรวมตัวเป็นกลุ่มเป็นก้อน เป็นเครือข่ายหรือภาคี เพื่อแสดงจุดยืนทางการเมืองแต่อย่างใด
มีแต่การเคลื่อนไหวแสดงสัญลักษณ์หรือจุดยืนทางการเมืองประปรายกลุ่มย่อยๆ เท่านั้น
เพิ่งจะมีกิจกรรมแฟลชม็อบเท่านั้นที่นักเรียน นักศึกษาแทบทั่วประเทศลุกฮือเคลื่อนไหว ประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านพล.อ.ประยุทธ์ โดยมีชนวนจากการที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคอนาคตใหม่
แฟลชม็อบที่กำลังลุกลามไปในสถาบันการศึกษา จะนำไปสู่เหตุการณ์ใหญ่ซ้ำรอยประวัติศาสตร์เหตุการณ์วันมหาวิปโยค 14 ตุลาคม 2516 หรือจะลงเอยด้วย เหตุการณ์ 6 ตุลาฯ ทมิฬปี 2516 หรือไม่ เป็นเพียงสิ่งที่ถามไถ่กันเท่านั้น
นับตั้งแต่เข้ายึดอำนาจ โดยการโค่นล้มรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 กระแสต่อต้านพล.อ.ประยุทธ์ถูกสั่งสมมากขึ้นเรื่อยๆ
คะแนนนิยมพ.อ.ประยุทธ์ พุ่งขึ้นสูงสุดขีด ในช่วงแรกของการขับไล่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย โค่นล้มระบอบทักษิณเท่านั้น
แต่ยิ่งอยู่ในอำนาจนานๆ ยิ่งสืบทอดอำนาจ โดยไม่ยอมแก้ปัญหาอะไร ไม่มีผลงานอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งที่คุมอำนาจเบ็ดเสร็จมากว่า 5 ปี และเป็นนายกรัฐมนตรีเกือบจะครบ 6 ปี ทำให้พลังแห่งความศรัทธา ถูกแปรรูปเป็นกระแสความเบื่อหน่าย
สุดท้ายกลายเป็นกระแสการต่อต้าน
ความไม่พอใจการบริหารประเทศของพล.อ.ประยุทธ์ แพร่กระจายไปทั่วประเทศแล้ว ก่อนหน้าที่กลุ่มนักเรียน นักศึกษาจะออกมาตะโกนขับไล่
เพราะแค่ประชาชนที่หมดศรัทธา ไม่อยู่ในเงื่อนไขที่จะออกมาเคลื่อนไหว ประกาศจุดยืนความไม่พอใจรัฐบาลเหมือนนักเรียน นักศึกษาเท่านั้น
การยุบพรรคอนาคตใหม่ อาจถูกหยิบยกเป็นเงื่อนไขในการปลุกให้นักเรียน นักศึกษาพับตำราชั่วคราว เพื่อร่วมกันจัดกิจกรรมแฟลชม็อบ ประกาศจุดยืนต่อต้านรัฐบาล และเป็นการจุดไฟในการชุมนุมทางการเมือง
ท้าทายอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์เป็นครั้งแรก นับจากรัฐประหาร
ไฟจะจุดติดหรือไม่ ม็อบของกลุ่มนักเรียน นักศึกษาจะนำไปสู่การโค่นล้มรัฐบาลในที่สุดหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์คงอยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์
ชนวนการยุบพรรคอนาคตใหม่ หรือการเล่นงานนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อาจไม่มีน้ำหนักมากพอที่จะดึงพล.อ.ประยุทธ์ลงจากเก้าอี้ได้
และกลุ่มนักเรียน นักศึกษา แม้จะลุกฮือกันทั้งประเทศ คงไม่มีพลังมากพอที่จะผลักดันการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลได้ ถ้าประชาชนส่วนใหญ่ยังสนับสนุน ชื่นชมพล.อ.ประยุทธ์อยู่
แต่มวลชนที่เชียร์รัฐบาลลุงตู่เหลืออยู่สักเท่าไหร่
ปัญหาที่ถูกปล่อยปละละเลยมาเกือบ 6 ปี ประเทศที่แทบจะหยุดนิ่งนับตั้งแต่พล.อ.ประยุทธ์เข้ามากุมอำนาจ เศรษฐกิจที่ทรุดหนักจนเดือดร้อนแสนสาหัสแทบทั้งประเทศ การทุจริตคอร์รัปชันที่มีสภาพเป็นเชื้อร้ายที่แพร่ระบาดในประเทศไทยยิ่งกว่าไวรัสโควิด-19 ทำให้ประชาชนที่เคยรัก เคยเชียร์ลุงตู่ แปรพักตร์เป็นฝ่ายต่อต้าน
และอยู่ในภาวะที่เตรียมพร้อม รอเวลาและจังหวะที่จะเข้าร่วมกับกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ซึ่งกำลังโบกธงไสวต่อต้านรัฐบาล
ความพยายามดับไฟแฟลชม็อบ ไม่ได้เป็นเพราะรัฐบาลกลัวนักเรียน นักศึกษา แต่เป็นเพราะรู้ว่า ถ้าแฟลชม็อบเคลื่อนขบวนออกมานอกสถาบันการศึกษา อาจจะคุมกันไม่อยู่ สกัดกันไม่ไหว และกลายเป็นมหาม็อบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนับยุคพล.อ.ประยุทธ์
เพราะประชาชนที่เก็บกดความไม่พอใจ จะโดดเข้าร่วมวง ยิ่งคนกำลังตกงาน ยิ่งกำลังเดือดร้อนจากผลกระทบเศรษฐกิจและเชื้อไวรัส ยิ่งต้องการประกาศให้รู้ว่า
ยุคลุงตู่น่าจะปิดฉากลงเสียทีได้แล้ว
อยู่มาเกือบ 6 ปีแล้ว ไม่ยอมทำอะไร จนไม่มีใครหวังแล้วว่า อยู่ต่อจะทำอะไรให้ประเทศดีขึ้น จึงไม่รู้ว่า จะปล่อยให้อยู่ต่อทำไม
เด็กๆ นำร่องออกมาจุดไฟไล่รัฐบาลลุงตู่แล้วนะ ส่วนผู้ใหญ่กำลังฮึ่มๆ เตรียมเดินลงถนนร่วมสมทบกับเด็กๆ