xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : ย้ำแผล"เพื่อไทย" ฮั้วรัฐบาล เงื่อนไขส้มหวานสู้ “นอกสภา”

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันจันทร์ที่ 2 มีนาคม 2563 ตอน ย้ำแผล "เพื่อไทย" ฮั้วรัฐบาล เงื่อนไขส้มหวานสู้ “นอกสภา”   



ปรากฎการณ์ แฟลชม็อบ ของพลังกลุ่มนิสิตนักศึกษา ที่ กระพริบขึ้นทั่วประเทศ ในมหาวิทยาลัยเกิอบทุกแห่ง เป็นเรื่องที่มีความเป็นมา เป็นความสะสมของปัญหาที่เหมือนกองไฟที่รอวันลุกโชนขึ้น จนล่าสุดเมื่อพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ และการอภิปรายไม่ไว้วางใจเกิดปัญหาคนของอนาคตใหม่โดนกีดกันไม่ได้พูด จึงเป็นเชื้อไฟที่สุมเข้าไป ผลักดันให้เกิดแฟลชม็อบไปเกือบทุกมหาวิทยาลัย

เรามาขยายในปมปัญหาที่รัฐสภา ว่ามีการเดินเกมเบื้องลึกเบื้องหลังอย่างไร ตามข่าวลือเรื่องฮั้วกันระหว่างรัฐบาล กับ “เพื่อไทย” ในเกมอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทำให้เห็นความแตกแยกในของฝ่ายค้าน ว่า แท้จริงแล้วไม่ได้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
หลังปิดศึกซักฟอกแบบอลเวง อดีตพรรคอนาคตใหม่เปิดหน้าแฉ “เพื่อไทย” ทำให้เห็นรอยร้าวบางอย่างที่เกิดขึ้นมานานแล้ว เพียงแต่ยังไม่ได้ลุกลามใหญ่โตเท่านี้

ทางด้าน “เพื่อไทย” ไม่ได้ให้ใจกับ “อนาคตใหม่” ดังภาพการกระทำปรากฎให้ที่เห็น แต่เพราะสถานการณ์ทำให้ทั้งสองพรรคต้องลงเรือนลำเดียวกันในนามฝ่ายค้าน ตามทฤษฎีศัตรูของศัตรูคือ “มิตร” ศัตรูที่ว่า คือ ฝ่ายรัฐบาล

ซึ่งที่ผ่านมา สองพรรคนี้ไม่ได้ทำงานสอดประสานกันอย่างราบรื่นนัก เพราะต่างฝ่ายต่างคิดว่า ตัวเองคือ เบอร์หนึ่งในยุคนี้

พรรคเพื่อไทยถือว่า ได้ ส.ส.มากที่สุดในประเทศ คะแนนความนิยมยังคงล้นหลาม โดยเฉพาะคนชื่อทักษิณ ชินวัตร ยังขายได้อยู่

ขณะเดียวกัน มองว่า คะแนนพรรคอนาคตใหม่ที่ได้มาจากการเลือกตั้งจำนวน6.3ล้านเสียง เพราะรับอานิสงส์จากการยุบพรรคไทยรักษาชาติ ไม่เช่นนั้นจะไม่ได้จำนวน ส.ส.มากมายขนาดนี้

ขณะที่พรรคอนาคตใหม่ทะนงว่า จำนวน ส.ส.ที่ได้มา81คนจนได้เป็นพรรคอันดับ 3 ในสภาฯต่อจากพรรคพลังประชารัฐ และพรรคเพื่อไทย และการได้คะแนนรวมมากสุดในกรุงเทพมหานคร เกิดจากกระแสในตัวธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรค

นอกจากนี้ พวกสีส้มยังเห็นว่า พรรคเพื่อไทย เป็นเพียงพรรคกินบุญเก่าของทักษิณ แต่ขณะนี้ได้ผลัดสู่ยุคใหม่คือ ยุคของพรรคอนาคตใหม่ที่ขึ้นมาแทนที่เรียบร้อยแล้ว

ความไม่พอใจของสองพรรคเกิดขึ้นเป็นระยะ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานในคณะกรรมาธิการ สภาผู้แทนราษฎร ที่ ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ ค่อนข้างเป็นตัวของตัวเองสูง คณะใดที่พวกเขาได้เป็นประธานคณะกรรมาธิการ แทบจะไม่ฟังใครเลย แม้แต่พรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยกัน

พรรคอนาคตใหม่ยึดหลักการของตน ไม่สนใจวัฒนธรรมหรือวิถีการทำงานในสภาฯ ของนักการเมืองอาชีพ แต่เดินตามแนวทางของตัวเอง จนบางครั้งหลายคนในพรรคร่วมฝ่ายค้านแสดงความอึดอัด

พรรคสีส้ม สะกดคำ ประนีประนอมในการทำงาน ไม่เป็น แต่เชื่อว่า หลักการของตัวเองคือ สิ่งถูกต้อง ที่ผ่านมาจึงมักจะเห็นการทำงานในลักษณะ “หักด้ามพร้าด้วยเข่า”

สถานการณ์อยู่บนความกินแหนงแคลงใจ หวานอมขมกลืน แต่ไม่ถึงขั้นแตกหัก เพราะวันนี้จุดร่วมคือ การล้มรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ได้ กระทั่งเกิดกรณีแย่งซีนการอภิปรายในสภาฯ

เบื้องหลังการหักเหลี่ยมเฉือนคมหลังศึกซักฟอกว่ากันว่า อดีตพรรคอนาคตใหม่ต้องการให้เรื่องการฮั้วกันระหว่างรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยเป็นประเด็นใหญ่โต เพื่อให้เกิด “แรงส่ง” ไปยังแฟลชม็อบ

แฟลชม็อบ ที่กระพริบไปทั่วประเทศ ทุกรั้วมหาวิทยาลัย นิสิตนักศึกษามีการนัดชุมนุมกันอย่างคึกคัก และอาจจะมีการนัดชุมนุมใหญ่ เมื่อปลุกเร้าจนสถานการณ์สุกงอม บนข้อเรียกร้อง ให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยุบสภา และเขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

จึง จะเห็นว่า ทันทีที่มีข่าวการฮั้วกันระหว่างพรรคเพื่อไทยกับรัฐบาล ทีม “ไอโอ” ปฏิบัติการสงครามข่าวของฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล ได้พยายามขยี้ประเด็นนี้ต่อเนื่อง

โดยมีความพยายามจะสื่อให้อดีตพรรคอนาคตใหม่ คือ ผู้ถูกกระทำทุกๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นกรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ และเรื่องการทำงานในสภาฯ

มีการเปิดคลิปประจานว่า มีความพยายามจะกำจัดอดีตพรรคอนาคตใหม่ให้พ้นการเมืองไทย โดยการโจมตีทัพด้วยพลังดูดใช้เงินล่อ ส.ส.ของพรรค ไปอยู่กับฝ่ายรัฐบาล รวมถึง 9 ส.ส.ไปซบพรรคภูมิใจไทย

ส่วนอดีตพรรคอนาคตใหม่ที่ยังอยู่ในสภาฯ ดูจะมีความไม่แน่นอนขึ้นเรื่อยๆ ซ้ำร้ายยังต้องมาเจอปฏิบัติการ “ฮั้ว” กันระหว่างฝ่ายรัฐบาล กับแกนนำพรรคฝ่ายค้านอีก พวกเขาจึงไม่เหลือหนทางต่อสู้ในสภาฯแล้ว

สิ่งเหล่านี้เป็นเหตุเป็นผลสร้างความชอบธรรมที่จะนำมาสู่การต่อสู้นอกสภา หรือบนท้องถนน

อดีตพรรคอนาคตใหม่ ต้องการให้แฟลชม็อบ ไม่ใช่ม็อบที่เกิดขึ้นเพราะความไม่พอใจที่พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ ซึ่งเป็นเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัว แต่ต้องการหาเหตุผลอื่นในการขับไล่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยให้เป็นประเด็นได้เสียที่มีผลกระทบต่อสาธารณะ

แฟลชม็อบที่กะพริบขึ้นภายในมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ดูเหมือนเดินคนละทาง ที่มีความอิสระไม่ได้มีเบื้องหลัง มีนักการเมืองอย่างแกนนำอดีตอนาคตใหม่ชักใยอยู่

แต่เป้าหมายคือไล่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ แบะแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มคนที่เพิ่งพ้นจากสภา

จากบรรยากาศช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือว่าม็อบกะพริบจุดติดแล้ว ต่อไปจะเปิดแนวรบรุกฆาตอย่างไร เป็นเรื่องที่น่าลุ้นและติดตามด้วยใจระทึก


กำลังโหลดความคิดเห็น