ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์
หลักสูตร Ph.D. & M.Sc. in Business Analytics and Data Science
หลักสูตร Ph.D. & M.Sc. in Applied Statistics
สาขาวิชา Actuarial Science and Risk Management
คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
หลักสูตร Ph.D. & M.Sc. in Business Analytics and Data Science
หลักสูตร Ph.D. & M.Sc. in Applied Statistics
สาขาวิชา Actuarial Science and Risk Management
คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย เราจึงช่วยกันยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราชและความเสียสละของบรรพบุรุษไทย
ประโยคดังกล่าวที่ขึ้นต้นก่อนการเคารพธงชาติในตอนแปดโมงเช้าและหกโมงเย็นคงเป็นที่คุ้นหูคนไทยดี สมัยนี้ก็มีคนไทยจำนวนหนึ่งเมื่อได้ยินเพลงชาติก็ไม่ได้ยืนตรงเคารพธงชาติแต่อย่างใด เรื่องยืนตรงเคารพธงชาตินี้ถ้าเข้าใจไม่ผิดเกิดในสมัยจอมพลแปลก พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี ในช่วงที่มีการปลุกกระแสชาตินิยม และในสมัยหลังนี้มีคนที่ต้องการแสดงสัญลักษณ์กระด้างกระเดื่องล้มเจ้า เป็นพวกปฏิกษัตริย์นิยม ไม่ยอมถวายความเคารพในโรงภาพยนตร์เมื่อมีการเปิดเพลงสรรเสริญพระบารมี (Royal anthem) เพิ่มมาอีก
ความเป็น liberal สุดโต่ง และการต่อต้านสังคมแบบสุดโต่ง เป็นเรื่องปกติของวัยรุ่น มีนักศึกษาคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็เคยทำเช่นนี้ คือชักธงชาติไทยและจะเอาธงดำขึ้นเสา ปัจจุบันนักศึกษาคนนี้ก็ไม่มีแผ่นดินอยู่และไม่ได้อยู่บนแผ่นดินไทยแล้ว
ย้อนกลับตั้งแต่สมัยเหตุการณ์ 14 ตุลาคม มีนักศึกษากลุ่มหนึ่งฮึกเหิมบังอาจไปอัญเชิญธงไตรรงค์ลงจากยอดตึกโดม ศาสตราจารย์ สัญญา ธรรมศักดิ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และองคมนตรี ซึ่งเข้าไปเฝ้าพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่พระตำหนักจิตรลดารโหฐานในเวลานั้น อันเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่เมื่อบ้านเมืองเกิดวิกฤติคณะองคมนตรีจะไปรอเข้าเฝ้าในพระราชวัง อ สัญญาได้ให้สัมภาษณ์ไว้ในฐานสัปดาห์วิจารณ์ ในเดือนพฤษภาคม 2537 ว่านายพีรพล ตริยะเกษม นายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในเวลานั้น ได้ติดต่อไปเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง “อาจารย์ครับ มันชักธงดำขึ้นบนยอดโดมกันแล้วนะ เอาธงชาติลง” อาจารย์สัญญาได้กล่าวตอบไปว่า “ไม่ได้นะโว้ย เอาออกเดี๋ยวนี้เลย ถ้าลื้อไม่ไปจัดการเอาลงภายในเวลาชั่วโมงนี้ อั๊วลาออกเด็ดขาด เป็นไม่ได้ เอาธงชาติของอั๊วลงได้อย่างไร ประชาชนทั้งชาติ พีรพลก็ไปจัดการ เอาลงจริง”
เหตุการณ์ธงดำแทนธงไตรรงค์ จึงไม่ได้พึ่งเกิด เคยมีความพยายามอย่างนี้มาหลายครั้ง ล้วนแล้วแต่เกิดโดยนิสิตนักศึกษาที่ต้องการเรียกร้องบางสิ่งบางอย่าง เช่น เสรีภาพ หรือ ความเสมอภาค หรือ ประชาธิปไตย อันเป็นลักษณะปกติ
ธงไตรรงค์ไม่ใช่ธงชาติแบบแรกของไทย ซึ่งเดิมเราใช้ธงช้างเผือก พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงออกแบบธงไตรงรงค์พระราชทานให้คนไทย ทั้งนี้สีน้ำเงินขาบบนธงไตรรงค์เป็นสีส่วนพระองค์ของพระมหากษัตริย์ อันเป็นสีประจำวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว คือ วันเสาร์
อันที่จริงเพลงชาติไทยที่เราร้องกันทุกวันนี้ เป็นเพลงชาติไทยที่ผ่านการเปลี่ยนแปลงมาหลายฉบับและมีความเชื่อมโยงกับเพลงสรรเสริญพระบารมีด้วย เพราะก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครองไม่มีเพลงชาติไทย มีแต่เพลงสรรเสริญพระบารมี ซึ่งก็มีประวัติความเป็นมานับตั้งแต่กรุงศรีอยุธยาที่ต้องมีการบรรเลงเพลงเวลารับเสด็จหรือส่งเสด็จ (ลองนึกถึงเพลงมหาฤกษ์ มหาชัยที่เราคุ้นเคยกันและใช้ในปัจจุบัน) ต่อมาเราก็รับธรรมเนียมอย่างตะวันตกคือนำเพลง God save the king อันเป็นเพลงชาติและเพลงสรรเสริญพระบารมีของอังกฤษมาใช้เป็นของเรา หลังจากนั้นก็ได้มีการปรับเพลงบุหลันลอยเลื่อน (หรือเพลงทรงพระสุบิน) ซึ่งเป็นพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ให้มาเป็นเพลงสรรเสริญพระบารมี ประเทศไทยเราเพิ่งมีเพลงชาติไทยแยกออกจากเพลงสรรเสริญพระบารมีหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี 2475 เสียด้วยซ้ำ
คณะราษฎรได้ประกาศให้มีการใช้เพลงชาติ (National anthem) แทนเพลงสรรเสริญพระบารมี (Royal anthem) ด้วยสาเหตุที่เราก็คงพอจะเข้าใจได้ ในสมัยสมบูรณาญาสิทธิราช พระเจ้าแผ่นดินคือเจ้าของแผ่นดินและคือชาตินั่นเอง เพลงชาติ การเคารพธงชาติเหล่านี้ ล้วนแล้วเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นชาตินิยม และเป็นความพยายามแยกชาติรัฐ ออกจากองค์พระมหากษัตริย์ เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่พยายามทำให้เกิดขึ้นจากคนที่เกี่ยวข้องกับคณะราษฎรทั้งสิ้น แม้จะยังยึดโยงสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้ด้วยสีน้ำเงินบนผืนธงไตรรงค์ก็ตาม
เพลงชาติไทยฉบับที่ใช้ปัจจุบันนี้ประพันธุ์เนื้อร้องโดย หลวงสารานุประพันธ์ (นวล ปาจิณพยัคฆ์) เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (จอมพล ป. พิบูลสงคราม) และพระเจนดุริยางค์ (ปิติ วาทยะกร) เป็นผู้ประพันธ์ทำนองเพลงชาติไทย
หากหลวงสารานุประพันธ์กับคุณพระเจนดุริยางค์ยังมีชีวิตอยู่ คงเศร้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดที่เสาธงจุฬา เช่นเดียวกันกับศาสตราจารย์สุกิจ นิมมานเหมินทร์ เลขาธิการจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในสมัยนั้นผู้ที่ได้พยายามอย่างยิ่งที่จะสร้างเสาธงชาติไทยในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยให้สูงกว่าเสาธงสถานฑูตอังกฤษในประเทศไทยซึ่งเป็นเสาธงที่สูงสุดในประเทศไทยในเวลานั้น เพื่อให้เป็นศักดิ์ศรีของความเป็นชาติและความเป็นเอกราชของชาติไทย
แต่ถ้าหลวงสารานุประพันธ์กับคุณพระเจนดุริยางค์ยังมีชีวิตอยู่ ทั้งสองท่านผู้ประพันธ์เพลงชาติไทย น่าจะมีความสุขที่ได้ชม เพลงประสานเสียงระดับประถมต้นของนักเรียนโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัยนี้ น่ารักที่สุดในโลก
Wattana Little Angel ยังได้ร่วมกันร้องเพลงธงชาติกับหลง ลงลายและสันติ ลุนเผ่ ศิลปินแห่งชาติ เพลงธงชาติที่มีเนื้อหากินใจนี้ประพันธ์ โดยหลง ลงลาย และบรรเลงโดยวงดุริยางค์กองทัพเรือ
ธงชาติไทยไม่ใช่เพียงผืนผ้า เอาสีมาทาให้เป็นสามสี
แต่กว่าจะเป็นไตรรงค์ผืนนี้ เบื้องหลังยังมีเรื่องราวตั้งมากมาย
ทั้งความทุกข์ ทั้งชีวิตของบรรพชน หล่อรวมปะปนอนาคตลูกหลานไว้
แต่วันนี้ที่ได้เห็นผืนธงไทย น้ำตาแทบจะไหลให้สงสารแผ่นดิน
นานแค่ไหนที่เหมือนคนไทยลืมรักชาติ ปล่อยไตรรงค์โบกสะบัดอย่างเดียวดายเสียจนชิน
ถึงเวลาเหลียวมองธงคู่แผ่นดิน ฟังเพลงชาติให้ได้ยินเสียงหัวใจกันและกัน
ให้ลึกซึ้งถึงความทุกข์ของบรรพชน รู้สึกกังวลอนาคตของลูกหลาน
ถ้าเห็นสามสิ่งจากผืนธงเหมือน ๆ กัน เมื่อใดก็เมื่อนั้น สันติสุขจะคืนมา
ธงชาติและเพลงชาติไทย ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทยเสมอ ไม่ว่าจะถูกกระทำย่ำยี อย่างไรก็ตาม แดงคือชาติ ขาวคือศาสนา สีน้ำเงินหมายถึงองค์พระมหากษัตริย์ไทย สามสิ่งนี้คงไม่มีวันถูกโค่นล้มทำลายล้างไปจากชาติไทยได้
ในอีกด้านหนึ่งก็คงต้องเมตตานักศึกษาที่ทำเช่นนี้เหมือนกัน ความรู้สึกอึดอัดคับแค้นใจ ชังชาติ ไม่พอใจในชาติก็เกิดขึ้นได้ เมื่อยังอายุน้อยๆ ผมก็เคยคิดและเกิดความรู้สึกเช่นนี้เหมือนๆ กัน แต่เมื่อโตขึ้นผ่านประสบการณ์และการเรียนรู้มามากพอก็เริ่มเข้าใจหลายๆ อย่างมากขึ้นและก็คงต้องเรียนรู้ตรึกตรองคิดใคร่ครวญให้มากยิ่งขึ้นต่อไป
ผมขอเขียนกลอนนี้ให้น้องนิสิตจุฬา ในฐานะนิสิตรุ่นพี่ด้วยความเมตตาและมุทิตาจิต ขอให้น้องเติบโตและผ่านไป ความรู้สึกแบบที่น้องเป็น พี่เคยผ่านมาแล้วเช่นกัน
คนหนุ่มสาว ถ้าไม่เคยเป็นคอมมิวนิสต์หรือสังคมนิยม เลย คือคนไร้หัวใจ
แต่พอแก่มา วัยกลางคน ยังเป็นคอมมิวนิสต์อยู่คือคนไร้สติปัญญา
ไม่มีใครมาหลอกให้หลงผิด ทำลงไปไร้ความคิดล้วนหลงบ้า
บ้าคลั่งประชาธิปไตยไร้ปัญญา บ้าเสรีภาพหนักหนาแท้จองจำ
จองจำใจของตนคนชังชาติ ชั่วอุบาทว์เคียดแค้นแสนตกต่ำ
เปลี่ยนธงไทยให้มืดมนหม่นสีดำ ความระยำในดวงจิตคิดการณ์ไกล
คิดแต่ตนอัตตากูกล้าเก่ง อัตตาเขื่ีองอวดเบ่งหลงยิ่งใหญ่
คิดเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้ดั่งใจ กลายเป็นไฟชังชาติพลาดเผาตน
ตนคือความถูกต้องอหังการ์ แท้คืออวิชชาอันเดือดข้น
ข้นลวกร้อนทุกข์ใจดังไฟลน ลนแผดเผาใจตนให้ทุกข์ใจ
ใจไม่ได้ดั่งใจมันรุ่มร้อน ร้อนหลอกหลอนอคติสิยิ่งใหญ่
ใหญ่ท่วมทับเกลียดชังคลั่งภายใน ในหัวใจล้วนชังชาติขาดยินดี
ดีแต่เพ้อดีแต่ฝันฝันอันเจิดจ้า ตาไม่มองไปข้างหน้าไร้เงาสี
สีแสงสดงดงามตามที่มี มีไม่เห็นไม่เห็นดีนี้ร้อนรน
รนหาที่ชังขาติความขลาดเขลา เขลาเป็นเกราะความโง่เง่ามาแต่ต้น
ต้นเหตุทุกข์แท้ใจเช่นไฟลน ลนเผาจนทุกข์ใจหนักทุกกัปป์กัลป์
เธอเหนื่อยไหมกับดวงใจอันเคียดแค้น วางหัวใจให้หนักแน่นให้แม่นมั่น
เปิดหัวใจปลดทุกข์ว่างสุขพลัน ชนะใจตนเท่านั้นที่ยั่งยืน
เมื่อมองย้อนผ่านไปให้รู้ว่า ใจของเธอมีคุณค่าเหนือใดอื่น
เพลิงเผาใจชังชาติอย่าเติมฟืน พักหัวใจให้ฟื้นพ้นเกลียดชัง
น้องเอ๋ยน้องรัก เอนกายพักชมขอบฟ้าธาราหลั่ง
ชมอาทิตยจันทรากล้าพลัง มองย้อนหลังจงปล่อยวางว่างพักใจ
ใจเธอเจ็บปวดใจให้ผ่อนพัก เธอจะรักเธอจะเกลียดไปถึงไหน
ชีวิตเธอเจอเรื่องราวอีกยาวไกล วางลงบ้างว่างหัวใจไกลกังวล
ให้แก่คนหนุ่มสาว บางเรื่องราวอาจดูว่าน่าสับสน
ถอยออกมาลองมองให้รอบตน มองให้พ้นตัวเธอเล่าจะเข้าใจ
เข้าใจตามที่เป็นจริงอนิจจัง ไม่เข้าใจตามใจสั่งไม่หม่นไหม้
เมื่อพ้นผ่านการเกลียดชังคลั่งแค้นใจ เธอจะเป็นผู้ใหญ่ในฉับพลัน
กำลังใจมอบให้คนหนุ่มสาว ฉันเคยผ่านคืนรวดร้าวอกไหวสั่น
เมื่อเข้าใจฉันเติบโตไปกับมัน เธอจะก้าวพ้นเช่นฉันเคยผ่านมา ....
ขณะที่สังคมไทยกำลังประนามเด็กผู้ก่อเหตุอย่างหนักหนา รุนแรง โปรดทำความเข้าใจว่า เป็นเรื่องปกติของเด็กวัยนี้ที่จะแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวต่อต้านสังคมออกมา ต้องให้ที่สำหรับเด็กได้แสดงออก อย่างน้อยก็เป็นการระบุความคุกรุ่นทางอารมณ์ (Emotional venting) ออกมา ให้บรรเทาลงไปบ้าง ในอีกด้านการด่ารุนแรงยิ่งทำให้เกิดการต่อต้าน ยิ่งแรงกลับเข้าหา การพยายามลงโทษด้วยวิธีการต่างๆ ไม่อาจจะทำให้เด็กที่มีลักษณะเช่นนี้สำนึกได้เลย ต้องให้โอกาส ให้แรงเสริมทางบวก และให้โอกาสเด็กได้ปรับตัว ด้วยความเมตตา เพื่อให้เด็กได้กลับคืนมาสู่ความปกติผาสุขในสังคม ต้องให้โอกาสเด็กครับ