แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง วอนคนไทยให้อภัยนิสิตจุฬาฯ นำผ้าดำขึ้นเสาไว้ทุกข์กระบวนการยุติธรรม ชี้ได้บทเรียนการสื่อสารกับคนหมู่มากแล้ว ขอร้องให้ทุกคนปฏิบัติต่อกันด้วยความเมตตา และให้อภัยหากไม่พอใจในสิ่งที่เขาพยายามทำ และพยายามทำความเข้าใจ
จากกรณีที่โลกออนไลน์แห่แชร์คลิปพร้อมวิพากษ์วิจารณ์กลุ่มนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกลุ่มหนึ่ง พยายามจะนำผ้าสีดำชักขึ้นเสาธงชาติไทย เมื่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้ามาห้ามปราม กลับตะโกนกรีดร้องช่วยด้วย และอ้างว่าเป็นการแสดงเสรีภาพ และแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ โดยพบว่าหนึ่งในนั้นเป็นรองประธานสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเคยเป็นแกนนำในการจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุง
อ่านประกอบ : แห่แชร์คลิปนิสิตจุฬาฯ ปลดธงชาติชักธงดำขึ้นแทน กรีดร้องใส่ รปภ.ขัดขวางสิทธิเสรีภาพ
ล่าสุด เฟซบุ๊ก “โบว์ ณัฏฐา มหัทธนา - Nuttaa Mahattana” แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง โพสต์คำชี้แจงระบุว่า เมื่อวันที่ 24 ก.พ. นิสิตได้จัดงาน “จุฬารวมพล” ไม่ได้มีการแตะต้องธงชาติ และมีการเคารพธงชาติเวลา 18.00 น. โดยก่อนการเคารพธงชาติ น้องเฟลอได้ขึ้นพูดเชิญชวนให้เพื่อนนิสิตได้เคารพธงชาติพร้อมกัน โดยกล่าวว่าเราจะร้องเพลงชาติร่วมกัน เป็นการร้องเพลงชาติเพื่อประชาชน ก่อนนิสิตอีกคนจะเสริมว่าให้ร่วมกันร้องให้ดังที่สุด
หลังการร้องเพลงเคารพธงชาติลงจากเสาเวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่เก็บธงชาติกลับไปแล้ว ก่อนดวงอาทิตย์ตก น้องเฟลอและเพื่อนได้ไปที่เสาธงพร้อมผ้าดำ โดยมีคำอธิบายในภายหลังว่าต้องการผูกธงดำขึ้นเสาธงครึ่งเสา เพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ไว้ทุกข์ต่อกระบวนการยุติธรรม เมื่อเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยเห็นจึงตกใจและเข้าห้ามปราม ทำให้ไม่สามารถผูกธงได้สำเร็จ น้องเฟลอจึงเดินกลับไปที่งาน
เรื่องการให้ความสำคัญและความหมายของการเคารพธงชาติในกิจกรรมจุฬารวมพล น้องเฟลอได้เคยพูดไว้ในรายการทุบประเด็น ทางเพจไบร์ททูเดย์ ที่นายยุคล วิเศษสังข์ เป็นพิธีกร รายการนี้เป็นรายการสด ออกอากาศไปเมื่อวันที่ 27 ก.พ. ก่อนที่ 4 วันต่อมาจะมีคลิปความพยายามชักธงดำเผยแพร่ออกมาทางเพจหนึ่ง อันนำสู่การล่าแม่มดเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวของน้องเพื่อโจมตีกันในลักษณะอาฆาตมาดร้าย
น.ส.ณัฏฐากล่าวว่า ไม่ว่าใครจะมีความรู้สึกต่อเรื่องนี้อย่างไร ข้อเท็จจริงไม่ควรถูกบิดเบือน น้องๆไม่ได้แตะต้องธงชาติ เพราะตอนเดินไปที่เสาธงนั้นเป็นเวลาหลังเคารพธงชาติร่วมกันและธงชาติถูกเก็บไปเรียบร้อยแล้ว พวกเขาเพียงต้องการใช้ธงดำเป็นสัญลักษณ์ถึงความอยุติธรรมปิดท้ายกิจกรรม
ขณะเดียวกัน ตนคิดว่าทุกคนสามารถเรียนรู้จากเหตุการณ์นี้ว่าความรอบคอบใน “การสื่อสารกับคนหมู่มาก” สำคัญเพียงใด และการสื่อสารเชิงสัญลักษณ์นั้น หากเราไม่สามารถอธิบายให้สังคมเข้าใจอย่างทั่วถึงได้จริง ในกรณีที่มีความอ่อนไหวสูงก็อาจนำมาซึ่งผลอันไม่พึงประสงค์
“อย่างในครั้งนี้ ต่อให้สามารถชักธงดำขึ้นเสาและอธิบายกันในงานได้ หากภาพเผยแพร่ออกไปก็จะมีคนจำนวนมากไม่พอใจจากการตีความที่เพี้ยนไปได้หลายทิศทางทั้งโดยจงใจและไม่ตั้งใจ เกิดบรรยากาศที่เป็นอันตราย และทำให้การสร้างความเข้าใจเป้าหมายของการเคลื่อนไหวกับสังคมต่อไปเป็นไปด้วยความยากลำบาก” น.ส.ณัฏฐากล่าว
น.ส.ณัฏฐากล่าวว่า ต้องไม่ลืมว่าความสำเร็จของการขับเคลื่อนทางการเมือง ไม่ว่าจะโดยนักศึกษา ประชาชน หรือนักการเมือง อยู่ที่ความสามารถในการทำให้คนจำนวนมากที่สุดเข้าใจและเห็นด้วยว่าเราต้องการสร้างสังคมที่ดีขึ้นด้วยกันได้อย่างไร หากเราสร้างสภาวะที่ทำให้เกิดเสียงรบกวน (noise) มากกว่าเสียงสะท้อน (voice) เสียแล้ว ทุกอย่างจะยากมากเพราะผู้คนจะพูดกันไม่รู้เรื่อง
ทั้งนี้ ไม่ว่าประชาชนผู้รับข้อมูลข่าวสารจะรู้สึกอย่างไรเมื่อได้ทราบข้อเท็จจริงนี้แล้ว อยากขอร้องให้ทุกคนปฏิบัติต่อกันด้วยความเมตตา หากเราเห็นเยาวชนเหล่านี้เหมือนน้อง เหมือนลูกเหมือนหลาน ที่มีความปรารถนาดีต่อชาติบ้านเมืองเช่นเดียวกับพวกเราทุกคนแล้ว ก็ขอให้ได้ให้กำลังใจหากคุณเห็นด้วยกับพวกเขา ขอให้ให้อภัยหากคุณไม่พอใจในสิ่งที่เขาพยายามทำ และขอให้สละเวลาทำความเข้าใจหากยังสับสน
“สำหรับโบว์ พวกเขาคือน้องร่วมชาติ ที่กำลังเรียนรู้และเติบโต เช่นเดียวกับผู้ใหญ่อย่างเราๆ ที่ก็ยังเรียนรู้และเติบโตทางความคิดได้ทุกวัน” น.ส.ณัฏฐากล่าวทิ้งท้าย