xs
xsm
sm
md
lg

เจ้าสัว.....เหยื่อการเมือง

เผยแพร่:   โดย: นพ นรนารถ



พรรคอนาคตใหม่ ซึ่งถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคไปเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีตระกูล “จึงรุ่งเรืองกิจ” และบริษัทในเครือไทยซัมมิท เป็นสปอนเซอร์หลัก ผู้บริจาคเงินรายใหญ่เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานทางการเมืองของพรรค เงินบริจาคจำนวนหลายสิบล้านกระจายกันไปในชื่อของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ภรรยานายธนาธร แม่ยาย กรรมการบริษัทต่างๆ ในเครือไทยซัมมิท

เงินบริจาคเหล่านี้ เป็นการให้โดยสิเหน่หาจากแม่สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ เพื่อสนับสนุนให้ความฝันของลูกธนาธรเป็นจริง ไม่ใช่เพื่อหวังให้เครือไทยซัมมิทได้ประโยชน์ในทางธุรกิจ เพราะไทยซัมมิทเติบโตได้ด้วยฝีมือการบริหารงาน ไม่ใช่ด้วยอำนาจทางการเมือง มิฉะนั้น คงไม่สามารถดำรงอยู่ได้อย่างยั่งยืนมานานกว่า 40 ปี

ขณะเดียวกันเครือไทยซัมมิท ไม่ปรากฏชื่อเป็นผู้บริจาคเงินให้มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ในการอภิปรายนอกสภาฯ ของนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ และไม่ปรากฏว่า การไม่ได้บริจาคเงินให้มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด จะทำให้เครือไทยซัมมิท มีอุปสรรคในการขยายอาณาจักรธุรกิจแต่อย่างใด
เช่นเดียวกับการบริจาคเงินของ “เจ้าสัว” บริษัทต่างๆ ให้กับมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธาน ที่นายรังสิมันต์ จงใจ “เลือก” มานำเสนอก็ไม่ได้มีผลหรือเกี่ยวข้องใดๆ กับความเจริญก้าวหน้าของบริษัทเหล่านั้นเลย

การบริจาคเงินเพื่อสาธารณประโยชน์ เป็นอีกบทบาทหนึ่งของผู้ประกอบการยุคนี้ ที่ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม เป็นองค์ประกอบหนึ่งในความมีธรรมาภิบาล มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด เป็นหนึ่งในหลายๆ องค์กรที่ได้รับเงินบริจาค โดย “เจ้าสัว” กลุ่มธุรกิจ และประชาชนทั่วไป ไม่ต่างจากสภากาชาดไทย โรงพยาบาลต่างๆ สถาบันการศึกษา

การบริจาคเงินให้มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ไม่ใช่การบริจาคให้พล.อ.ประวิตร แต่เป็นการบริจาคให้มูลนิธิที่กองทัพบกตั้งขึ้น เพื่อตอบสนองพระราชเสาวนีย์ ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงห่วงใยต่อสภาพป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ซึ่งเป็นต้นน้ำของแม่น้ำสำคัญหลายสายในภาคตะวันออก และเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าจำนวนมาก ซึ่งเสื่อมโทรมลงเรื่อยๆ จากการเปิดสัมปทานทำไม้ การบุกรุก การล่าสัตว์ป่า ฯลฯ
ทรงรับโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ และสัตว์ป่าในพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ภาคตะวันออกไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริตั้งแต่พ.ศ. 2536 ต่อมา กองทัพบกได้จัดตั้ง “กองทุนเพื่อป่ารอยต่อ 5 จังหวัด” ขึ้น หลังจากนั้นได้พัฒนามาเป็นมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549

ธุรกิจของเจ้าสัว และผู้ประกอบการหลายรายที่ถูกตัดต่อลากเข้ามาในเกมต่อสู้ชิงอำนาจของผู้มาใหม่อย่างพรรคอนาคตใหม่มีอยู่ก่อน และเจริญก้าวหน้าก่อนที่จะมีมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด หลายสิบปี และก่อนที่พล.อ.ประวิตร จะเป็นผู้มีบารมีทางการเมือง

การเติบโตของธุรกิจเหล่านี้ เกิดขึ้นเพราะความสามารถของผู้ประกอบการที่พัฒนาตัวเองให้แข่งขันได้ และสร้างความยั่งยืนในระยะยาว ไม่ได้เกิดจากสายสัมพันธ์กับอำนาจการเมืองแต่อย่างใด การอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านในสภาฯ ที่พยายามโยงการได้มาของธุรกิจว่า เป็นเพราะสายสัมพันธ์ทางการเมืองนั้น เป็นเรื่องเท็จที่ถูกจับโกหกได้กลางสภาฯ ตัวอย่างเช่น การอภิปรายเรื่องการต่ออายุสัญญาสัมปทานศูนย์สิริกิติ์ว่า เอื้อประโยชน์ให้เจ้าสัวของ ส.ส.พรรคเพื่อไทยคนหนึ่งถูกหักล้างจากหลักฐานข้อเท็จจริง ความเป็นมาของการต่ออายุว่า เป็นคนละเรื่องกับที่ ส.ส.ผู้นั้นกล่าวหา

บริษัทผู้ผลิตไฟฟ้าหลายราย ถูกป้ายสีให้สังคมเข้าใจผิดว่า ได้สัมปทานมาเพราะบริจาคเงินให้มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ทั้งๆ ที่นโยบายการให้เอกชนร่วมผลิตไฟฟ้าเกิดขึ้นมานานแล้วตั้งแต่ พ.ศ. 2535 และการรับซื้อไฟฟ้าจากเอกชนเป็นการแข่งขันอย่างเสรี ที่มีผู้เข้าร่วมเสนอราคาหลายราย คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เป็นผู้คัดเลือกผู้เสนอราคาต่ำสุด ไม่ได้คัดเลือกว่า ใครบริจาคเงินให้ใคร และถึงวันนี้มีข้อพิสูจน์แล้วว่า การให้เอกชนร่วมผลิตไฟฟ้า ทำให้คนไทยมีไฟฟ้าใช้ทุกที่ตลอดเวลาในราคาถูกกว่าหลายๆ ประเทศเพื่อนบ้าน

บริษัทพลังงานรายหนึ่งในอินโฟกราฟิกที่ถูกนำไปปั่นกระแสโซเชียล มีเดีย เป็นผู้ประกอบการที่เติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะมีนวัตกรรมในเรื่องรถไฟฟ้า แบตเตอรี่รถไฟฟ้า ไม่ใช่เพราะบริจาคเงินให้มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด การบริจาคเงินเป็นการคืนประโยชน์ให้กับสังคม ส่งเสริมการอนุรักษ์ป่า

การต่อสู้ทางการเมืองทุกครั้ง ประชาชนถูกใช้เป็นเหยื่อจับเป็นตัวประกัน เพื่อสร้างความชอบธรรมในการชิงอำนาจ หลายปีก่อนคนอีสานถูกอุปโลกน์ให้เป็น “ไพร่” โดยฝ่ายชิงอำนาจ การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในสภาฯ และลามออกไปนอกสภาฯ เพราะการหักหลังกันเองของพรรคฝ่ายค้านครั้งนี้ ถึงคราว “เจ้าสัว” “ทุนผูกขาด” ถูกจับเป็นเหยื่อของพรรคฝ่ายค้าน และพรรคที่หมดอนาคตแล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น