ผู้จัดการรายวัน 360 - สธ.เผยพบคนไทยป่วยโควิด-19 เพิ่ม 3 ราย หลังจากปู่-ย่า กลับมาจากไปเที่ยวฮอกไกโด นำเชื้อกลับมาติดหลานชายวัย 8 ขวบ ย้ำยังไม่ถึงยังไม่ถึงซุูเปอร์สเปรดเดอร์ พร้อมติดตามใกล้ชิดคนร่วมทริปฮอกไกโด “อนุทิน” ย้ำการแพร่ระบาดยังอยู่ในระดับ 2 ฉุน "มนุษย์ปู่" ตำหนิทำให้คนอื่นเดือดร้อน ก่อนโพสต์บอกสถานการณ์ไม่ดี เสี่ยงเข้าสู่เฟสที่ 3 ขณะที่ สธ. ประกาศให้บุคลากรในสังกัดงดเดินทางไปยังประเทศเสี่ยง วอนบริษัททัวร์งดจัดโปรโมชั่นราคาถูก ย้ำหากกลับจากประเทศเสี่ยงต้องกักตัวเองที่บ้าน ส่วน ร.ร.พระหฤทัย ดอนเมือง ปิดการเรียนการสอน 14 วัน คัดกรองเด็กเสี่ยงติดไวรัสโควิด-19 พร้อมบิ๊กคลีนนิ่ง
วานนี้ (26ก.พ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข พร้อมด้วยนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดสาธารณสุข และนพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โรคไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โควิด-19 ประจำวัน ระบุว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 3 ราย ซึ่งเป็นครอบครัวเดียวกัน และมีผู้ป่วยที่ติดเชื้อรักษาหายเพิ่มขึ้นอีก 2 ราย
น.พ.สุขุม กล่าวว่า ผู้ป่วยที่ติดเชื้อรายใหม่ทั้ง 3 ราย เป็นครอบครัวเดียวกัน โดยรายที่ 1 เป็นชายไทย อายุ 65 ปี เดินทางไปท่องเที่ยวเมืองฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น หลังจากกลับมามีอาการเป็นไข้ ไอ จากนั้น 3 วันไปหมอที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ 2 แห่ง ให้ผลเป็นบวก ยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 จึงส่งตัวไปรักษา ที่ รพ.ทรวงอก ผู้ป่วยรายนี้มีอาการปอดอักเสบ เนื่องจากทิ้งอาการไว้ถึง 3 วันก่อนที่จะไปพบหมอ
ส่วนรายที่ 2 เป็นภรรยาของผู้ป่วยรายที่ 1 เดินทางไปเมืองฮอกไกโด กลับมามีอาการเช่นกัน มีอาการไอ มีไข้ ตอนนี้รักษาตัวอยู่ที่สถาบันบำราศนราดูร อาการไม่หนัก ขณะที่รายที่ 3 เป็นเด็กชายไทย อายุ 8 ปี เป็นหลานของผู้ป่วยรายที่ 1 ไม่ได้ไปต่างประเทศด้วย แต่อยู่ใกล้ชิดปู่ มีอาการเช่นกัน แต่น้อย รักษาตัวอยู่ที่สถาบันบำราศนราดูร
“ขณะนี้คณะกรรมการได้มีการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยทุกคน และติดตามผู้ที่โดยสารที่เดินทางด้วยเครื่องบินลำเดียวกันกับผู้ป่วยทั้ง 2 ราย เพื่อให้มารับการตรวจ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าถึงแม้มี 3 รายนี้ยังอยู่ในระยะที่สอง 2 ยังไม่ถึงซูเปอร์สเปรดเดอร์ เคสนี้ก็เหมือนครอบครัวคนจีนที่พบทำให้ติดต่อกันภายในครอบครัว ยังดูแลได้” นพ.สุขุมกล่าว
ด้านนายอนุทิน กล่าวว่า การแพร่ระบาดโควิด-19 ยังอยู่ที่ระดับ 2 คือ แพร่ระบาดในวงจำกัดและสืบหาได้ว่าผู้ป่วยติดเชื้อมาจากที่ใด จะพยายามให้อยู่ระดับนี้ให้นานที่สุด แต่หากสถานการณ์เข้าสู่ระดับ 3 คือ แพร่ระบาดในวงกว้างและสืบทราบไม่ได้ว่าผู้ป่วยแต่ละรายติดเชื้อมาจากที่ใด ก็ต้องทำตามขั้นตอน ย้ำว่ารัฐบาลไม่ปกปิด ประกาศทุกอย่างตามความเป็นจริง
พร้อมกันนี้ ได้กล่าวตำหนิชายสูงอายุไทยที่กลับจากฮอกไกโดแล้วป่วยไวรัสโควิด-19 ที่ปกปิดไม่ยอมทำตามขั้นตอนการควบคุมโรคว่า “เราเห็นมนุษย์ป้าที่เกาหลี แล้วเราก็ไม่อยากมีมนุษย์ปู่ ที่ทำให้คนเดือดร้อนต้องติดตามตรวจคนอีกเป็นร้อย เรื่องนี้ต้องพูดกันตรงๆ ไม่ต้องมาเกรงใจกัน”
ขณะเดียวกัน ขอความร่วมมือไปยังสายการบินและบริษัทนำเที่ยวหยุดจัดโปรโมชั่นตั๋วโดยสาร และโปรแกรมท่องเที่ยวในราคาถูกสำหรับการเดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศกลุ่มเสี่ยง โดยขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ
สธ.สั่งบุคลากรงดไปประเทศเสี่ยง "โควิด-19"
นายอนุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ได้ให้ปลัด สธ.ออกประกาศงดบุคลากร สธ.ทั้งหมด เดินทางไปต่างประเทศกลุ่มเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นการดูงาน ลาพักผ่อนไปเที่ยว ขอให้ช่วยกันทำงาน ลดความเสี่ยงคนไทยรับเชื้อไวรัสโควิด-19 และขอความร่วมมือหน่วยงานราชการทุกหน่วยงานออกมาตรการชั่วคราว ใช้แนวทางเลื่อนการไปประชุมในประเทศเสี่ยง หรืออย่าเพิ่งอนุญาตให้มีการลาไปประชุม ไปเที่ยวประเทศเสี่ยงซึ่งหลายหน่วยงานได้เริ่มทำไปแล้ว ก็ต้องขอขอบคุณที่เป็นแบบอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนงานราชการควรทำเป็นแบบอย่างประชาชนและองค์กรอื่นๆ ถ้าภาคเอกชน สมาคม องค์กร จะช่วยออกมาตรการ ก็จะเป็นการช่วยประเทศไทยลดโอกาสมีผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19
นอกจากนี้ ขอความร่วมมือสายการบินหยุดโปรโมชัน ไม่ใช่คนไม่เดินทาง ก็ออกโปรให้คนไปเที่ยว โดยไม่คำนึงถึงผลเสียที่จะตามมา อย่างไปญี่ปุ่น 2-3 พันบาท ค่าตั๋วถูก แต่ค่ารักษาแพง ค่าเสียโอกาสมหาศาล ยิ่งรับเชื้อมาเต็มๆ อาจเป็นการเที่ยวครั้งสุดท้ายก็ได้ จึงขอให้ประชาชนหักห้ามใจ ประเทศไทยยังมีอีกหลายแห่งที่ไปเที่ยวได้ ที่บ่นว่าเศรษฐกิจไม่ดี รายได้ท่องเที่ยวหายไป เพราะต่างประเทศก็ไม่มาเที่ยวไทย ยังห่วงจะไปเที่ยวต่างประเทศ จริงๆ ควรเที่ยวในประเทศกันเอง ให้เงินสะพัดกันเองในไทย ช่วยเหลือเพื่อนร่วมชาติ กระตุ้นเศรษฐกิจด้วยกันดีกว่า เพราะแม้ไปต่างประเทศเงินบาทก็อ่อนลงไปแล้ว ไปก็ไม่ได้ประหยัดมากมาย อยากให้คำนึงถึงความจำเป็น สถานการณ์ประเทศวันนี้ โดยเฉพาะไปเมืองกลุ่มเสี่ยง อย่างฮอกไกโด ก็มีติดเชื้อมากที่สุดในญี่ปุ่น การป้องกันควบคุมโรคติดต่อระดับข้ามชาติ ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ไม่ใช่ฝ่ายสาธารณสุขไล่เก็บป้องกันอย่างเดียว ประชาชนควรให้ความร่วมมือด้วย
ด้าน นพ.สุขุม กล่าวว่า ขณะนี้ได้ออกนโยบายห้ามบุคลากร สธ.ทุกคนเดินทางประเทศกลุ่มเสี่ยงตามประกาศโดยไม่มีเหตุจำเป็น หากมีเหตุจำเป็นกลับมาต้องกักตัวเองที่บ้าน 14 วัน ตามแนวทางกำหนดไว้ ลดการสุงสุงกับคนอื่น แยกสำรับกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย ตรวจติดตามทุกวัน เพื่อไม่ให้แพร่เชื้อ โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องทำงานบริการประชาชน หากมีไข้ไอให้พบแพทย์แจ้งประวัติการเดินทางกลับจากประเทศเสี่ยง ผู้ป่วยที่รักษารวดเร็วก็จะลดความรุนแรง เหมือนกรณีครอบครัวที่กลับจากฮอกไกโด เพราะรอ 3 วันถึงมา ก็มีอาการปอดบวมแล้ว ทั้งที่วันแรกอาการแค่ไข้ไอ และขอความร่วมมือคนทั่วไป ถ้าทราบว่าใครกลับจากต่างประเทศเสี่ยงแล้วมีอาการผิดปกติ ขอให้แจ้งบุคลากรสาธารณสุขทันที ซึ่งตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 บอกว่าถ้าเจอโรคติดต่ออันตรายต้องแจ้งใน 3 ชั่วโมง เพื่อลดไม่ให้เกิดการแพร่กระจาย สำหรับประเทศเสี่ยงคือจีน (ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน) ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ อิตาลี และอิหร่าน โดยกำลังจับตาสหรัฐอเมริกาเพิ่ม และอนาคตอาจเพิ่มประเทศอีก
"หมอหนู" เผยสถานการณ์ไม่ดี เสี่ยงเข้าสู่เฟส 3
หลังจากนั้น นายอนุทิน ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก สถานการณ์ไม่ดี เพิ่มอีก 3 ราย ยอดผู้ป่วยสะสม รวม 40 ราย แม้จะรักษาหาย กลับบ้านได้เพิ่มอีก 2 ราย แต่ผู้เฝ้าระวังเพิ่ม 200 กว่าราย สถานการณ์ในประเทศไทย มีความเสี่ยงที่จะเข้าสู่เฟสที่ 3 คือ การระบาดในประเทศไทย ซึ่งเรามีวิธีการที่จะหยุด หรือ ยืดระยะเวลาเข้าสู่เฟสที่ 3 ช่วยกันควบคุมการระบาดในประเทศไทย ได้ ด้วยการดูแลตัวเองให้ปลอดภัย ปลอดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ด้วยการ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ อยู่ห่างไกลคนไอ จาม หลีกเลี่ยงสถานที่มีการจัดกิจกรรมและมีชุมนุมชนจำนวนมาก
ทุกครั้งที่ป่วย ไอ จาม ต้องใส่หน้ากากอนามัย ตลอดเวลา และรีบไปพบแพทย์ รวมทั้งให้ข้อมูลรายละเอียดแก่แพทย์ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ อย่างเคร่งครัด
ขอให้ระลึกไว้เสมอว่า การปกปิดข้อมูลและสาเหตุอาการป่วย อาจจะทำร้ายคนในครอบครัว และคนที่คุณรัก ให้เจ็บป่วย และเสียชีวิตได้ หากรักษาไม่ทัน เพราะไม่รู้สาเหตุของโรค
ร.ร.พระหฤทัย ดอนเมือง ปิด 14 วัน
สำนักงานเขตดอนเมือง พร้อมด้วยศูนย์บริการสาธารณสุข 60 กองควบคุมโรคติดต่อ สำนักอนามัย กรมควบคุมโรค ลงพื้นที่โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ ดอนเมือง ซึ่งเป็นโรงเรียนที่เด็กชาย อายุ 8 ขวบ (1 ในผู้ติดเชื้อใหม่ 3 ราย) โดยขณะนี้ทางโรงเรียนได้สั่งให้ปิดการเรียนการสอนแล้ว เป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่ 26 ก.พ. - 9 มี.ค. 63 และทางสำนักงานเขตดอนเมืองจะเข้าทำความสะอาดโรงเรียนทันที (26 ก.พ.) รวมถึงการขยายผลไปยังสมาชิกในครอบครัว ซึ่งทำงานธนาคารธนชาต และสั่งสาขาดอนเมืองปิดไปแล้วเช่นกัน ส่วนของพนักงาน บุคลากร โรงพยาบาล ที่ดูแลช่วงแรก ก่อนตรวจ เกือบ 40 คน ตอนนี้ต้องให้อยู่เฝ้าดูอาการในห้องปลอดเชื้อทั้งหมด