xs
xsm
sm
md
lg

'ลุงตู่'โต้ฝ่ายค้านลั่นเร่งแก้ปัญหาศก.-ไม่เอื้อประโยชน์กลุ่มนายทุน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ผู้จัดการรายวัน 360 - นายกฯ แจงฝ่ายค้าน ยันรัฐบาลเร่งแก้สารพัดปัญหาเศรษฐกิจ ยันไม่เคยเอื้อประโยชน์กลุ่มทุน “ศักดิ์สยาม" แจงไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบินช่วยเอื้อประโยชน์ระบบเศรษฐกิจของประเทศ "บิ๊กป๊อก" ยืนยันรถไฟฟ้าสายสีทองไม่เอื้อเอกชน จากใต้ดินเปลี่ยนเป็นบนดิน เพื่อเชื่อมต่อกันทั้งระบบให้เอกชนลงทุนก่อน เพื่อเร่งการพัฒนากทม. รมว.ดีอีเอส ยืนยัน มาตรา 44 ผ่าทางตันโทรคมนาคม ชี้ช่วยดันไทยประมูล 5จี สำเร็จ รัฐได้เงินแสนล้านบาท สุทิน ชี้กลุ่มทุนรวยขึ้น บริษัทยักษ์ใหญ่ 5% ครองรายได้เกือบหมด

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวชี้แจงถึงภาพรวมเศรษฐกิจ ต่อในสภาผู้แทนราษฎร์ ในการพิจารณาญัตติการอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล วันที่สองว่า รัฐบาลมีมาตรการต่างๆที่จะเข้าไปแก้ไขภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย และเรื่องหนี้ครัวเรือนแม้จะอยู่ในระดับสูง แต่อยู่ในภาวะทรงตัว และเป็นหนี้จากการสะสมสินทรัพย์ แต่รัฐบาลให้ความสำคัญและแก้ไขปัญหาในส่วนของหนี้บัตรเครดิต หนี้ส่วนบุคคล ซึ่งจะเห็นได้ว่า หนี้ครัวเรือนของไทยเทียบกับต่างประเทศ จะพบว่า หนี้ครัวเรือนของไทยอยู่ที่ 79% แต่ของเกาหลีใต้ แคนดานา ยูโรโซน นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์ และออสเตรเลีย มีหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีมากกว่า 95% ซึ่งการที่หนี้ครัวเรือนของต่างประเทศสูง เพราะมีการพัฒนาสูง รายได้ประเทศมาก และมีกำลังในการชำระหนี้

เรื่องของการจ้างงานในปีนี้ แนวโน้มยังไม่เป็นกังวลมากนัก โดยรัฐบาลได้เข้ามาดูแลกลุ่มผู้ว่างงาน ที่คาดว่าจะมีประมาณ 3.8 แสนคน ผ่านการพัฒนาและหางานให้ และมีกระทรวงที่รับผิดชอบอยู่ รวมถึงทางกระทรวงแรงงานยังมีตำแหน่งว่างงานรองรับ 34,626 อัตรา

สำหรับการให้สิทธิประโยชน์แก่บริษัทอาลีบาบานั้น เป็นการให้สิทธิประโยชน์เฉพาะกิจการที่มีการกระจายสินค้าทันสมัย ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) แต่มีข้อตกลงกับทางอาลีบาบาต้องมีการพัฒนาบุคลากร และพัฒนาระบบแพลตฟอร์มไทยให้มีประสิทธิภาพเหมือนกับของอาลีบาบา ซึ่งในส่วนของกิจการไทยก็สามารถนำสินค้ามาขายในไทยเทรดดอตคอม ที่กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการได้

ปัดเอื้อกลุ่มนายทุน

ส่วนเรื่องการเอื้อประโยชน์ให้กับตนและพวกพ้องนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การพบปะกับนักธุรกิจเป็นการพบปะอย่างเปิดเผย แต่หากไม่มีรูปกับใครถือว่าเป็นการพบปะที่ไม่ปกติมากกว่า และตนเองก็ไม่ต้องการจะทะเลาะกับใคร

"ผมเห็นหลายท่านเอารูปผมถ่ายรูปกับคนนั้นคนนี้ 24 ตระกูล หายไปตระกูลหนึ่งครับ หายไปอยู่ไหนก็ไม่รู้ ตระกูลนี้ 25 คนที่รวยผิดปกติหรือไม่ แต่ตระกูลที่ทำถูกกฏหมายก็ยังอยู่ได้"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ในส่วนของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ทุกคนมีรายได้ สามารถซื้อของใช้จำเป็น และไม่ใช่ซื้อเฉพาะร้านธงฟ้าเท่านั้น มีการปลดล็อคร้านค้าโชว์ห่วยซึ่งจะได้รับประโยชน์จากโครงการนี้ด้วย ปัจจุบัน มีร้านธงฟ้าประชารัฐ 86,784 ร้านค้าทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้มีรายได้น้อย 14.6 ล้านคน และการใช้จ่ายผ่านร้านค้าปลีก เช่น Big C หรือ Lotus และเซเว่นอีเลฟเว่น มีสัดส่วนต่ำมาก เฉลี่ย 0.03% ส่วนมาตรการชิม ช้อป ใช้ มีการประเมินข้อมูลถึงวันที่ 26 ม.ค.63 ประชาชนได้รับสิทธิรวมทั้งหมด 14 ล้านคน มียอดการใช้สิทธิ 11 ล้านราย มียอดใช้จ่ายทั้งหมด 28,493 ล้านบาท มีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการนี้ทั้งหมดกว่า 176,000 ร้าน

พัฒนาระบบโครงสร้างภาษี หนุนท้องถิ่นมีรายได้

ในเรื่องของการแข่งขันตลาดออนไลน์ที่มีทุนจีนมาเปิดร้านค้า จนทำให้ธุรกิจเอสเอ็มอีขาดทุนนั้น รัฐบาลมีแนวทางให้การอบรมเรียนรู้กับผู้ประกอบการ แต่ถ้าให้แบบเดิมก็เหมือนยาชาหรือยาพิษ จึงต้องมีการพัฒนาร่วมกันและปฏิรูป ร้านค้าปลีก ร้านค้าย่อย เอสเอ็มอี ซึ่งวันนี้ตลาดออนไลน์พัฒนามากขึ้น ทั้งสหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน กองทุนชุมชน กองทุนประชาชน แต่ยังไปไม่ทั่วถึง เพราะที่ผ่านมายังทำได้ไม่ครบถ้วนบริบูรณ์

ขณะที่ เอสเอ็มอี ที่จะเข้าสู่การใช้เงินกองทุนวงเงิน 10,000 ล้านบาทนั้น ปัจจุบันมาขึ้นทะเบียนเพียง 1 ล้านราย จากทั้งหมดกว่า 3 ล้านราย ส่วนการลงทุนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าทำไมคนรวยถึงรวยมากขึ้นนั้น ต้องดูว่าเขารวยเพราะอะไร จากการลงทุน หรือจากการประกอบการที่ถูกกฎหมายหรือไม่

ส่วนเรื่องภาษีนั้น เห็นว่าจำเป็นต้องปรับปรุงระบบโครงสร้างภาษี แต่ไม่ได้ต้องการไปรีดภาษีจากใคร เพียงแต่ต้องช่วยกันเสียภาษี และทำอย่างไรให้ท้องถิ่นมีรายได้มากขึ้น ดังนั้นจึงต้องมีการพัฒนาระบบโครงสร้างภาษี

" การแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ต้องแก้ด้วยวิธีการและกฎหมาย ถ้าจะให้ใช้อำนาจของตน ตนไม่มีอำนาจขนาดนั้น ถ้ามีอำนาจขนาดนั้น ก็คงอยู่ไม่ได้"

"ศักดิ์สยาม"แจงไฮสปีดเทรนไม่เอื้อเอกชน

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ชี้แจงที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เรื่องรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน สนามบินดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา และ โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก EEC ที่ น.ส.สรัสนันท์ อรรณนพพร ส.ส. ขอนแก่น พรรคเพื่อไทยนำมาอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลโดยกล่าวหาว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้เอกชนนั้น ขอยืนยันว่าโครงการดังกล่าว ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้เอกชนรายใดทั้งสิ้น การทำสัญญาก็ไม่เอื้อเอกชน

นายศักดิ์สยาม ยังชี้แจงเรื่องความสัมพันธ์ของนายกรัฐมนตรี กับ บริษัทเอกชนในโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน โดยยืนยันว่า ไม่ได้มีการเอื้อให้กับบริษัทเอกชนใดบริษัทหนึ่ง เพราะมีเอกชนซื้อเอกสารการคัดเลือกถึง 31 ราย เป็นการพิจารณาคัดเลือกเอกชนโดยอยู่บนพื้นฐานของผลประโยชน์ประเทศ และขอรับเงินสนับสนุนน้อยที่สุด

ส่วนรูปแบบการประมูลมัดรวม ไม่แยกการพัฒนาโครงสร้าง กับการพัฒนาที่ดินเข้าด้วยกัน รมว.คมนาคม ชี้แจงว่า เป็นการนำเอาศักยภาพของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อลดภาระงบประมาณเงินสนับสนุนของภาครัฐ

ส่วนข้อกล่าวหาที่ว่า การเซ็นสัญญาล่าช้า มีการปรับเปลี่ยนสัดส่วนการส่งมอบที่ดิน มีการส่งมอบพื้นที่ให้เอกชนเพิ่มมากขึ้นกว่าที่กำหนดในเอกสารคัดเลือกนั้น นายศักดิ์สยาม ชี้แจงว่า เพราะเอกสารการคัดเลือกเอกชนได้กำหนดไว้ว่า ให้ส่งมอบพื้นที่มากกว่าร้อยละ 50 หลังจากเจรจากับเอกชน เพื่อให้มีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เสร็จตามนโยบายรัฐบาล และการรถไฟแห่งประเทศไทย สามารถดำเนินการส่งมอบพื้นที่ได้ จึงได้กำหนดสัดส่วนการส่งมอบพื้นที่ประมาณ ร้อยละ 70 ซึ่งที่ดินทั้งหมดจะตกเป็นของแผ่นดิน โดยให้เอกชนส่งมอบพื้นที่กลับ หลังก่อสร้างเสร็จ

"บิ๊กป๊อก" ยืนยัน รถไฟฟ้าสายสีทองไม่เอื้อเอกชน

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีทอง อยู่ในแผนพัฒนาระบบขนส่งมวลชนขนาดรองของกทม.ตั้งแต่ปี 2552 โดยให้สายรองเป็นอำนาจดำเนินการของท้องถิ่น ต่อมาคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก ได้เห็นชอบให้กทม. ดำเนินการโครงการ และมีมติครม.เห็นชอบให้กทม.ดำเนินการได้ ส่วนการยกเลิกมติ ครม.ปี 2537 ที่ในพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ จะต้อสร้างเป็นระบบใต้ดินนั้น สายสีทองเป็นสายรองที่ต้องเชื่อมกับสายอื่นๆ เช่น สายสีเขียวที่มีอยู่แล้ว เป็นต้น หากไม่ทำเช่นนี้ จะต้องใช้เงินลงทุนและเวลาดำเนินการอีกมาก ดังนั้น มติครม. จึงยกเว้นให้สามารถก่อสร้างบนดินได้ เพื่อเชื่อมกับสายสีเขียว

รมว.ดีอี ยืนยัน มาตรา 44 ผ่าทางตันโทรคมนาคม

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงการจัดสรรคลื่นถี่ในคลื่น 700 และการใช้ มาตรา 44 เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ว่า การบริหารจัดการคลื่นความถี่ จะเป็นหน้าที่ของ กสทช. ทีวีดิจิทัล มีปัญหาเกิดขึ้นจริงทุกคนในประเทศไทยรู้ดี การประมูลทีวีดิจิทัล เกิดขึ้นในปี 2556 ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นรัฐบาลชุดไหน เกิดการแข่งขันจนราคาสูงมาก ผู้ได้รับประมูลก็นำไปบริหาร

ทั้งนี้ การใช้ มาตรา 44 ของ คสช.ในอดีต เป็นการดำเนินการเพื่อช่วยผ่าทางตันของประเทศ เพราะหากไม่มีการใช้มาตรา 44 เพื่อให้ทีวีดิจิทัล คืนคลื่นความถี่ จะทำให้หนี้สินของทีวีดิจิทัล ที่มีอยู่ประมาณ 17,000 ล้านบาท ไม่ได้รับการแก้ไข ดังนั้นการเอาคลื่นความถี่คืนมา และนำไปประมูลใหม่ และได้เงินกลับมาประมาณ 50,000 ล้านบาท เมื่อหักกันแล้วรัฐยังได้เงินกลับมาประมาณ 30,000 ล้านบาท ทุกอย่างเป็นการแก้ไขปัญหาให้ประเทศ และมีการประมูล 5 จี ทำให้เม็ดเงิน 1 แสนล้านบาท สามารถเข้ารัฐได้เมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา จากการประมูล 5 จี ซึ่งจะต้องมีการต่อยอดต่อไป

"จุรินทร์" ย้ำรัฐบาลไทยส่งเสริม SME ผ่านการค้าออนไลน์

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.พาณิชย์ ได้ชี้แจงแทนนายกฯ ต่อที่ประชุมสภาฯ โดยยืนยันว่า รัฐบลาลนี้ให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจฐานราก นโยบายประกันรายได้เกษตรกร และเบี้ยยังชีพผู้พิการก็คงไม่เพิ่มขึ้นจาก 800 เป็น 1,000 บาท อีกทั้งร้านโชห่วยต่างๆ ที่ต้องการรับการพัฒนา ก็มีโครงการสมาร์ทโชห่วย มาตรการพัฒนาสินค้า OTOP รัฐบาลยืนยันว่า ให้ความสนใจและดูแลคนข้างล่าง

ทั้งนี้ การที่ต้องไปร่วมมือกับแพลตฟอร์มต่างประเทศ เนื่องจากรัฐบาลต้องสนับสนุให้ไทยไปร่วมมือกับแพลตฟอร์มต่างประเทศ เพื่อเพิ่มช่องทางการขายสินค้าไทย โดยได้เซ็น MOU กับอาลีบาบา เพื่อให้ลูกค้าทั่วโลกของอาลีบาบา ได้เห็นสินค้าไทยด้วยการเปิดห้องการค้าของสินค้าไทย โดยเฉพาะคือ T Mall อีกทั้งกระทรวงยังไม่ได้เซ็น MOU กับ BigBasket.com ของอินเดีย และหลังจากนี้ จะทำกับอเมซอน ของสหรัฐฯ และ JPของญี่ปุ่น และมาเลเซีย เพื่อผลประโยชน์ของสินค้าคนไทย และเกษตร รวมทั้ง SME และคนที่อยู่ในเศรษฐกิจฐานราก

สุทิน ชี้บริษัทยักษ์ใหญ่5%ครองรายได้เกือบหมด

นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน อภิปรายว่า รัฐบาลมีการอ้างว่าปัญหาเศรษฐกิจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ปัญหาสงครมการค้า ค่าเงินบาทแข็ง และไวรัสโคโรน่ารวมทั้งโควิด19 รัฐบาลพูดจริงบางส่วนแต่ปกปิดบางประการ เนื่องจากสาเหตุที่วันนี้การแก้ไขเศรษฐกิจทำได้ยาก เพราะนายกฯมีปมด้อย เนื่องจากมาด้วยการยึดอำนาจ ทั่วโลกบอยคอต ยุโรปมีมาตรการลงโทษ จีดีพีของไทยคิดเป็นสัดส่วน 70 : 30 โดย70%เป็นเม็ดเงินจากต่าประเทศ แต่เวลานี้เม็ดเงินส่วนนี้กำลังหายไป เพราะต่างประเทศชะลอการลงทุน อีกทั้งไม่เชื่อมั่นในตัวนายกฯ ส่วนอีก 30%นั้น ส่วนหนึ่งมาจากงบประมาณของประเทศไทย แต่เวลานี้งบประมาณก็ยังไม่ประกาศออกมา

" ปัญหาใหญ่วันนี้ คือ เศรษฐกิจตกต่ำและเกิดความประหลาด โดยชาวบ้านและประเทศจน แต่มีคนรวยที่รวยขึ้น บริษัทใหญ่เพียง 5% กลับครองรายได้ถึง 95% ต่างกับบริษัทเล็ก 95% ที่ครองรายได้เพียง 5% เป็นการแย่งเศษเนื้อข้างเขียง รัฐบาลที่ผ่านมาตัวเลขความเหลื่อมล้ำเป็นแบบนี้หรือไม่ มันผิดปกติที่รัฐบาลชุดนี้ วันนี้อยากฟังคำตอบจากรัฐบาลว่า ทำไมถึงรวยมากขึ้นใน 5 ปี


กำลังโหลดความคิดเห็น