ผู้จัดการรายวัน 360 - ศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว 5 แกนนำพันธมิตรฯ หลังถูกพิพากษาจำคุกคนละ 1-2 ปี ในคดีนำมวลชนปิดล้อมสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ในช่วงการชุมนุมขับไลรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ปี 51 โดยตีราคาประกันคนละ 2 แสนบาท ยกเว้น "สมเกียรติ" จำเลยที่ 1 ตีราคาประกัน 3 แสนบาท
วันนี้ (12 ก.พ.) ศาลอาญานัดอ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้น คดีที่พนักงานอัยกรฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก นายภูวดล ทรงประเสริฐ นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล แกนนำและแนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานร่วมกันบุกรุก มั่วสุม สร้างความวุ่นวายในบ้านเมือง อั้งยี่ซ่องโจรฯ กรณีร่วมกันบุกยึดสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (เอ็นบีที) ในช่วงการชุมนุมของ พธม. เพื่อขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช เมื่อปี 2551
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 25-26 สิงหาคม 2551 จำเลยทั้ง 5 กับพวก 85 คน ที่ศาลฎีกาพิพากษาลงโทษแล้ว กับพวกอีกหลายคนที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ร่วมกันเดินขบวนในถนนสาธารณะ จากบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ และจากที่อื่นๆ โดยมีอาวุธปืน มีด ขวาน ไม้กอล์ฟ ไม้ท่อน หนังสติ๊ก ลูกเหล็ก แล้ว ร่วมกันบุกรุกเข้าไปในบริเวณและอาคารสำนักงานสถานี NBT ทุบทำลายประตูหน้าต่าง ตัดสายไฟฟ้า ตู้ควบคุมระบบไฟฟ้า ระบบโทรศัพท์ ระบบคอมพิวเตอร์ ระบบกล้องวงจรปิด ทำลายระบบส่งสัญญาณ การออกอากาศวิทยุโทรทัศน์ และร่วมกันข่มขืนใจพนักงานไม่ให้ปฏิบัติหน้าที่ออกอากาศและกระจาย เสียง และสั่งให้ออกไปจากอาคารสถานี โดยจำเลยทั้งห้าเป็นหัวหน้าและเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการในการ กระทำความผิด อันเป็นความผิดฐานร่วมกันเป็นซ่องโจร ฐานร่วมกันทำให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ฐานร่วมกันบุกรุก และฐานร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานตามที่คู่ความทั้งสองฝ่ายนำสืบแล้ว เห็นว่า โจทก็มีพยานเจ้าพนักงานตำรวจที่ไปดูแลรักษาความปลอดภัยหลายปาก ผู้อำนวยการและช่างภาพสถานี NBT เบิกความว่า ก่อนเกิดเหตุกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยชุมนุมกันที่บริเวณสะพานมัมวานรังสรรค์ เพื่อขับไล่รัฐบาลที่มีนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี จากนั้นได้ประกาศเคลื่อนขบวน โดยมีกลุ่มนักรบศรีวิชัย การ์ดของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บุกรุกเข้าไปในอาคารสถานี NBT ผู้ชุมนุมบนรถดังกล่วผลัดเปลี่ยนกันพูดโจมตีรัฐบาลและสถานี NBT ว่าเป็นกระบอกเสียงของรัฐบาล ต้องการยึด NBT ให้จอดำ และเชื่อมต่อสัญญาณออกอากาศเผยแพร่ข้อมูลข่วสารของกลุ่มพันธมิตรประชาชนพื่อประชาธิปไตย
พร้อมกันนี้ ยังได้เรียกร้องให้รัฐบาลปล่อยตัวผู้ที่ถูกจับต่อมากลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยพังประตูรั้วเหล็กฝ่าแนวกั้นของเจ้าพนักงานตำรวจบุกรุกเข้าไปในบริเวณพื้นที่และอาคารสถานี มีจำเลยที่ 5 ประกาศต่อหน้าเจ้าพนักงานตำรวจว่า ผู้ชุมนุมเป็นกองทัพประชาชน ผู้บัญชาการสั่งการให้มายึด NBT ให้เจ้าพนักงานตำรวจออกจากอาคารทั้งหมด
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว เห็นว่า จำเลยกระทำผิดจริง พิพากษาจำคุกจำเลยทั้ง 5 คน ในความผิดฐานร่วมกันบุกรุกเข้าไปในบริเวณและอาคารสำนักงานสถานี NBT สั่งจำคุกนายสมเกียรติ เป็นเวลา 2 ปี ส่วนจำเลยที่เหลืออีก 4 คน จำคุกคนละ 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา พร้อมทั้งยกฟ้องข้อหาอั้งยี่ซ่องโจรกับจำเลยทั้งหมด ขณะที่จำเลยทั้ง 5 คนอยู่ระหว่างยื่นเรื่องประกันตัวเพื่อเตรียมอุทธรณ์ต่อสู้คดีต่อไป
ภายหลังคำพิพากษาทนายของจำเลยทั้ง 5 คน ได้ยื่นคำร้อง พร้อมหลักทรัพย์ขอประกันตัวชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดี โดยนายสมเกียรติ จำเลย ที่ 1 ใช้โฉนดที่ดินเป็นหลักทรัพย์ ส่วนจำเลยที่ 2-5 ใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสดคนละ 200,000 บาท รวม 800,000 บาทประกันตัว
ศาลพิเคราะห์แล้วมีคำสั่งอนุญาตจำเลยทั้ง 5 คน มีประกันตัวไป โดยนายสมเกียรติ จำเลยที่ 1 ตีราคาประกัน 3แสนบาท ส่วนจำเลยที่ 2-5 ตีราคาประกันคนละ 2 แสนบาทระหว่างอุทธรณ์คดี โดยไม่กำหนดเงื่อนไขใดๆ
วันนี้ (12 ก.พ.) ศาลอาญานัดอ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้น คดีที่พนักงานอัยกรฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก นายภูวดล ทรงประเสริฐ นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล แกนนำและแนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานร่วมกันบุกรุก มั่วสุม สร้างความวุ่นวายในบ้านเมือง อั้งยี่ซ่องโจรฯ กรณีร่วมกันบุกยึดสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (เอ็นบีที) ในช่วงการชุมนุมของ พธม. เพื่อขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช เมื่อปี 2551
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 25-26 สิงหาคม 2551 จำเลยทั้ง 5 กับพวก 85 คน ที่ศาลฎีกาพิพากษาลงโทษแล้ว กับพวกอีกหลายคนที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ร่วมกันเดินขบวนในถนนสาธารณะ จากบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ และจากที่อื่นๆ โดยมีอาวุธปืน มีด ขวาน ไม้กอล์ฟ ไม้ท่อน หนังสติ๊ก ลูกเหล็ก แล้ว ร่วมกันบุกรุกเข้าไปในบริเวณและอาคารสำนักงานสถานี NBT ทุบทำลายประตูหน้าต่าง ตัดสายไฟฟ้า ตู้ควบคุมระบบไฟฟ้า ระบบโทรศัพท์ ระบบคอมพิวเตอร์ ระบบกล้องวงจรปิด ทำลายระบบส่งสัญญาณ การออกอากาศวิทยุโทรทัศน์ และร่วมกันข่มขืนใจพนักงานไม่ให้ปฏิบัติหน้าที่ออกอากาศและกระจาย เสียง และสั่งให้ออกไปจากอาคารสถานี โดยจำเลยทั้งห้าเป็นหัวหน้าและเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการในการ กระทำความผิด อันเป็นความผิดฐานร่วมกันเป็นซ่องโจร ฐานร่วมกันทำให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ฐานร่วมกันบุกรุก และฐานร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานตามที่คู่ความทั้งสองฝ่ายนำสืบแล้ว เห็นว่า โจทก็มีพยานเจ้าพนักงานตำรวจที่ไปดูแลรักษาความปลอดภัยหลายปาก ผู้อำนวยการและช่างภาพสถานี NBT เบิกความว่า ก่อนเกิดเหตุกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยชุมนุมกันที่บริเวณสะพานมัมวานรังสรรค์ เพื่อขับไล่รัฐบาลที่มีนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี จากนั้นได้ประกาศเคลื่อนขบวน โดยมีกลุ่มนักรบศรีวิชัย การ์ดของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บุกรุกเข้าไปในอาคารสถานี NBT ผู้ชุมนุมบนรถดังกล่วผลัดเปลี่ยนกันพูดโจมตีรัฐบาลและสถานี NBT ว่าเป็นกระบอกเสียงของรัฐบาล ต้องการยึด NBT ให้จอดำ และเชื่อมต่อสัญญาณออกอากาศเผยแพร่ข้อมูลข่วสารของกลุ่มพันธมิตรประชาชนพื่อประชาธิปไตย
พร้อมกันนี้ ยังได้เรียกร้องให้รัฐบาลปล่อยตัวผู้ที่ถูกจับต่อมากลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยพังประตูรั้วเหล็กฝ่าแนวกั้นของเจ้าพนักงานตำรวจบุกรุกเข้าไปในบริเวณพื้นที่และอาคารสถานี มีจำเลยที่ 5 ประกาศต่อหน้าเจ้าพนักงานตำรวจว่า ผู้ชุมนุมเป็นกองทัพประชาชน ผู้บัญชาการสั่งการให้มายึด NBT ให้เจ้าพนักงานตำรวจออกจากอาคารทั้งหมด
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว เห็นว่า จำเลยกระทำผิดจริง พิพากษาจำคุกจำเลยทั้ง 5 คน ในความผิดฐานร่วมกันบุกรุกเข้าไปในบริเวณและอาคารสำนักงานสถานี NBT สั่งจำคุกนายสมเกียรติ เป็นเวลา 2 ปี ส่วนจำเลยที่เหลืออีก 4 คน จำคุกคนละ 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา พร้อมทั้งยกฟ้องข้อหาอั้งยี่ซ่องโจรกับจำเลยทั้งหมด ขณะที่จำเลยทั้ง 5 คนอยู่ระหว่างยื่นเรื่องประกันตัวเพื่อเตรียมอุทธรณ์ต่อสู้คดีต่อไป
ภายหลังคำพิพากษาทนายของจำเลยทั้ง 5 คน ได้ยื่นคำร้อง พร้อมหลักทรัพย์ขอประกันตัวชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดี โดยนายสมเกียรติ จำเลย ที่ 1 ใช้โฉนดที่ดินเป็นหลักทรัพย์ ส่วนจำเลยที่ 2-5 ใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสดคนละ 200,000 บาท รวม 800,000 บาทประกันตัว
ศาลพิเคราะห์แล้วมีคำสั่งอนุญาตจำเลยทั้ง 5 คน มีประกันตัวไป โดยนายสมเกียรติ จำเลยที่ 1 ตีราคาประกัน 3แสนบาท ส่วนจำเลยที่ 2-5 ตีราคาประกันคนละ 2 แสนบาทระหว่างอุทธรณ์คดี โดยไม่กำหนดเงื่อนไขใดๆ