ในหลวงโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จแทนพระองค์ พระราชทานเครื่องมือแพทย์ 4 เรือนจำเป้าหมาย ในภาคใต้ ตามโครงการราชทัณฑ์ปันสุขฯ
เมื่อเวลา13.53 น. วานนี้ (2ก.พ.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ในฐานะที่ทรงเป็นองค์ประธานกรรมการโครงการราชทัณฑ์ปันสุขฯ เสด็จแทนพระองค์ไปพระราชทานเครื่องมือแพทย์แก่เรือนจำในภาคใต้ จำนวน 4 แห่ง ประกอบด้วย เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี เรือนจำกลางสงขลา และทัณฑสถานหญิงสงขลา พร้อมพระราชทานรถเอกซเรย์เคลื่อนที่ ให้กับ รพ.สงขลา และ รพ.มหาราช จ.นครศรีธรรมราช พร้อมพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวนหนึ่ง ให้กับเรือนจำกลางปัตตานี เพื่อเป็นเงินตั้งต้นในการสร้างสถานพยาบาลในเรือนจำกลางปัตตานี ตามโครงการ "ราชทัณฑ์ ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์" ณ เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช อันเป็นการสนองต่อพระราชปณิธาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพผู้ต้องขัง ซึ่งเป็นไปตามหลักมนุษยธรรมที่ต้องดูแลประชาชนทุกส่วนในสังคม ให้มีสิทธิในการรับการรักษาพยาบาลอย่างเท่าเทียมกัน และเมื่อพ้นโทษ จะได้มีสุขภาพสมบูรณ์ ทั้งกายและใจ ออกมาสู่สังคมภายนอก และประกอบอาชีพสุจริตได้อย่างมีคุณภาพ อันเป็นการสืบสาน รักษาและต่อยอด แนวพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงกดปุ่มเปิดแพรคลุมป้าย "มุมสุขภาพ ราชทัณฑ์ ปันสุข" ที่แดนพยาบาล และทอดพระเนตรภายใน"มุมสุขภาพ ราชทัณฑ์ ปันสุข" ทอดพระเนตรเครื่องมือแพทย์ที่พระราชทานให้แก่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช จำนวน 24 รายการ เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี 28 รายการ ทัณฑสถานหญิงสงขลา 28 รายการ และเรือนจำกลางสงขลา 25 รายการ โดยเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ถือเป็นเรือนจำลำดับแรกๆ ในทางภาคใต้ ที่ใช้การตรวจรักษาผู้ต้องขังด้วยวิธีการแพทย์ทางไกล โดยผู้ต้องขังที่เจ็บป่วยด้วยโรคประจำตัวเล็กๆ น้อยๆ สามารถพูดคุยกับหมอที่ รพ.มหาราชได้ โดยไม่จำเป็นต้องไปรับการตรวจรักษาที่ รพ.
จากนั้นพระราชทานถุงพระราชทานให้กับผู้ต้องขังชายป่วย 10 ราย จากนั้นเสด็จออกจากสถานพยาบาลไปทอดพระเนตรนิทรรศการโครงการราชทัณฑ์ปันสุขฯ นิทรรศการจิตอาสาเราทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ของ 4 เรือนจำ 3 โรงพยาบาลดังกล่าว พร้อมทดพระเนตรรถเอ็กซ์เรย์เคลื่อนที่ ซึ่งนอกจากจะเพิ่มขีดความสามารถในการรักษาผู้ต้องขังแล้ว ประชาชนในพื้นที่ จ.สงขลา จ.นครศรีธรรมราช และจังหวัดใกล้เคียงยังได้ประโยชน์ ทางการแพทย์อีกด้วย โดยรถเอ็กซ์เรย์เคลื่อนที่นั้น สามารอ่านและประมวลผลการตรวจได้ภายใน 2 นาที
จากนั้นเสด็จฯ ไปยังสถานพยาบาลในแดนหญิง พระราชทานถุงพระราชทานให้กับผู้ต้องขังหญิงป่วย3 ราย และเสด็จฯไปยังห้องแม่และเด็กพระราชทานถุงพระราชทานให้กับผู้ต้องขังหญิงตั้งครรภ์ 3 ราย เด็กติดผู้ต้องขัง 4 ราย
ทั้งนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทอดอดพระเนตรอาสาสมัครสาธารณสุขในเรือนจำ (อสรจ.ชาย-หญิง) ในการช่วยเหลือผู้ป่วย ด้วยวิธีการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้า ซึ่ง อสรจ.ชาย-หญิง นั้นเป็นผู้ต้องขังชั้นดี มีจิตอาสา ต้องผ่านกรฝึกอบรมการปฐมพยาบาลเบื้องต้น จากผู้ชำนาญการ และมีกำหนดพ้นโทษมากกว่า 1 ปีขึ้นไป โดย อสรจ. 1 คน จะทำหน้าที่ดูแลผู้ต้องขัง 50 คน
ต่อมาเสด็จไปยังบริเวณจัดแสดงของผู้ต้องขัง หญิงทอดพระเนตรการแสดงของผู้ต้องขังหญิง รวม 2 ชุด ประกอบด้วย การแสดงฟ้อนร่วมสมัย ชุด พระรถเมรี และจินนี่โชว์ การนี้ทรงมีพระปฏิสันธานกับผู้ต้องขังหญิงความว่า "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ และพระราชินี ทรงฝากความห่วงใยมายังทุกท่าน ขอให้ทุกคนรักษาสุขภาพให้ดี"
การเสด็จฯพระราชดำเนินมาในการพระราชทานเครื่องมือแพทย์ แก่เรือนจำเป้าหมายทั้ง 4 แห่งครั้งนี้ ได้เกิดการบูรณาการในการทำงาน ระหว่างหน่วยงานทางสาธารณสุข หน่วยงานราชทัณฑ์ ภาคประชาชน จิตอาสา เข้ามาช่วยพัฒนาพื้นที่ ทั้งภายในและภายนอกเรือนจำ ถือเป็นตัวอย่างที่ดีของการทำงานร่วมกัน ระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ภายใต้ร่มพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี
เมื่อเวลา13.53 น. วานนี้ (2ก.พ.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ในฐานะที่ทรงเป็นองค์ประธานกรรมการโครงการราชทัณฑ์ปันสุขฯ เสด็จแทนพระองค์ไปพระราชทานเครื่องมือแพทย์แก่เรือนจำในภาคใต้ จำนวน 4 แห่ง ประกอบด้วย เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี เรือนจำกลางสงขลา และทัณฑสถานหญิงสงขลา พร้อมพระราชทานรถเอกซเรย์เคลื่อนที่ ให้กับ รพ.สงขลา และ รพ.มหาราช จ.นครศรีธรรมราช พร้อมพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวนหนึ่ง ให้กับเรือนจำกลางปัตตานี เพื่อเป็นเงินตั้งต้นในการสร้างสถานพยาบาลในเรือนจำกลางปัตตานี ตามโครงการ "ราชทัณฑ์ ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์" ณ เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช อันเป็นการสนองต่อพระราชปณิธาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพผู้ต้องขัง ซึ่งเป็นไปตามหลักมนุษยธรรมที่ต้องดูแลประชาชนทุกส่วนในสังคม ให้มีสิทธิในการรับการรักษาพยาบาลอย่างเท่าเทียมกัน และเมื่อพ้นโทษ จะได้มีสุขภาพสมบูรณ์ ทั้งกายและใจ ออกมาสู่สังคมภายนอก และประกอบอาชีพสุจริตได้อย่างมีคุณภาพ อันเป็นการสืบสาน รักษาและต่อยอด แนวพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงกดปุ่มเปิดแพรคลุมป้าย "มุมสุขภาพ ราชทัณฑ์ ปันสุข" ที่แดนพยาบาล และทอดพระเนตรภายใน"มุมสุขภาพ ราชทัณฑ์ ปันสุข" ทอดพระเนตรเครื่องมือแพทย์ที่พระราชทานให้แก่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช จำนวน 24 รายการ เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี 28 รายการ ทัณฑสถานหญิงสงขลา 28 รายการ และเรือนจำกลางสงขลา 25 รายการ โดยเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ถือเป็นเรือนจำลำดับแรกๆ ในทางภาคใต้ ที่ใช้การตรวจรักษาผู้ต้องขังด้วยวิธีการแพทย์ทางไกล โดยผู้ต้องขังที่เจ็บป่วยด้วยโรคประจำตัวเล็กๆ น้อยๆ สามารถพูดคุยกับหมอที่ รพ.มหาราชได้ โดยไม่จำเป็นต้องไปรับการตรวจรักษาที่ รพ.
จากนั้นพระราชทานถุงพระราชทานให้กับผู้ต้องขังชายป่วย 10 ราย จากนั้นเสด็จออกจากสถานพยาบาลไปทอดพระเนตรนิทรรศการโครงการราชทัณฑ์ปันสุขฯ นิทรรศการจิตอาสาเราทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ของ 4 เรือนจำ 3 โรงพยาบาลดังกล่าว พร้อมทดพระเนตรรถเอ็กซ์เรย์เคลื่อนที่ ซึ่งนอกจากจะเพิ่มขีดความสามารถในการรักษาผู้ต้องขังแล้ว ประชาชนในพื้นที่ จ.สงขลา จ.นครศรีธรรมราช และจังหวัดใกล้เคียงยังได้ประโยชน์ ทางการแพทย์อีกด้วย โดยรถเอ็กซ์เรย์เคลื่อนที่นั้น สามารอ่านและประมวลผลการตรวจได้ภายใน 2 นาที
จากนั้นเสด็จฯ ไปยังสถานพยาบาลในแดนหญิง พระราชทานถุงพระราชทานให้กับผู้ต้องขังหญิงป่วย3 ราย และเสด็จฯไปยังห้องแม่และเด็กพระราชทานถุงพระราชทานให้กับผู้ต้องขังหญิงตั้งครรภ์ 3 ราย เด็กติดผู้ต้องขัง 4 ราย
ทั้งนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทอดอดพระเนตรอาสาสมัครสาธารณสุขในเรือนจำ (อสรจ.ชาย-หญิง) ในการช่วยเหลือผู้ป่วย ด้วยวิธีการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้า ซึ่ง อสรจ.ชาย-หญิง นั้นเป็นผู้ต้องขังชั้นดี มีจิตอาสา ต้องผ่านกรฝึกอบรมการปฐมพยาบาลเบื้องต้น จากผู้ชำนาญการ และมีกำหนดพ้นโทษมากกว่า 1 ปีขึ้นไป โดย อสรจ. 1 คน จะทำหน้าที่ดูแลผู้ต้องขัง 50 คน
ต่อมาเสด็จไปยังบริเวณจัดแสดงของผู้ต้องขัง หญิงทอดพระเนตรการแสดงของผู้ต้องขังหญิง รวม 2 ชุด ประกอบด้วย การแสดงฟ้อนร่วมสมัย ชุด พระรถเมรี และจินนี่โชว์ การนี้ทรงมีพระปฏิสันธานกับผู้ต้องขังหญิงความว่า "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ และพระราชินี ทรงฝากความห่วงใยมายังทุกท่าน ขอให้ทุกคนรักษาสุขภาพให้ดี"
การเสด็จฯพระราชดำเนินมาในการพระราชทานเครื่องมือแพทย์ แก่เรือนจำเป้าหมายทั้ง 4 แห่งครั้งนี้ ได้เกิดการบูรณาการในการทำงาน ระหว่างหน่วยงานทางสาธารณสุข หน่วยงานราชทัณฑ์ ภาคประชาชน จิตอาสา เข้ามาช่วยพัฒนาพื้นที่ ทั้งภายในและภายนอกเรือนจำ ถือเป็นตัวอย่างที่ดีของการทำงานร่วมกัน ระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ภายใต้ร่มพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี