"ฝั่งขวาเจ้าพระยา"
"โชกุน"
เฟกนิวส์ หรือข่าวปลอมมากับโซเชียล มีเดีย โดยเฉพาะเวลาเกิดเหตุการณ์สำคัญๆ ที่ร้ายแรง ข่าวปลอมก็จะว่อนไปทั่ว คนที่หนึ่งสร้างข่าว แล้วเอาไปปล่อยบนเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ อินสตราแกรมหรืออื่นๆ คนที่สอง คนที่สาม ที่สี่... เอาไปแชร์ต่อๆ กันเป็นลูกโซ่ ปั่นกันจนเป็นกระแสที่คนไม่น้อยหลงเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง
เฟกนิวส์เรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ตอนนี้ กำลังแพร่ระบาดอยู่บนโซเชียล มีเดีย นอกจากประเทศไทยแล้ว เชื่อว่า ในประเทศอื่นๆ ก็คงจะมีการระบาดเช่นกัน
สำหรับบ้านเรา เฟกนิวส์เรื่องไวรัสจากเมืองอู่ฮั่น ถูกใช้เป็นเครื่องมือ ในการดิสเครดิตรัฐบาลจากฝ่ายตรงข้าม เพื่อสร้างภาพว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีไม่มีประสิทธิภาพ แก้ไขปัญหาไม่ได้ ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงจนถึงขณะนี้ ต้องบอกว่า รัฐบาล “เอาอยู่” คือ ควบคุมไม่ให้เกิดการระบาดในประเทศไทยได้ ด้วยการคัดกรองคนที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น เมืองอื่นๆ ในประเทศจีน รวมถึงผู้มาจากทุกประเทศ ที่จะต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง และสนามบินนานาชาติอื่นๆ
คนที่ติดเชื้อ ก็ได้รับการดูแลรักษาจนหายดี เดินทางกลับประเทศได้
เพียงแต่ว่า อ่อนเรื่องการสื่อสารให้ประชาชนรู้ว่า ทำอะไรไปบ้าง ดีว่าไม่มีการระบาดเกิดขึ้นในบ้านเรา และไม่มีคนตาย และมีพลเมือง “จิตอาสา” คอยสู้รบตบมือกับ มือปั้น มือปั่นเฟกนิวส์ด้วยการนำเสนอข้อมูลที่เป็นความจริงมาหักล้าง กระแสข่าวปลอม เรื่องนี้จึงปลุกไม่ขึ้น
เฟกนิวส์ เรื่องไวรัสอู่ฮั่นนี้ คนปั้น คนปั่น มีทั้งคนทั่วไปที่ไม่รู้ข้อเท็จจริงใครป้อนอะไรมาให้ก็เอาไปแชร์ต่อ กับคนที่น่าจะมีความรู้ดี มีสติปัญญา แต่ไม่มีจิตสำนึก เพราะไม่ชอบรัฐบาล คนพวกนี้มีตั้งแต่สื่อมวลชนอาชีพ นักการเมืองพรรคฝ่ายค้านที่เป็นถึง ประธานยุทธศาสตร์ นักเขียนซีไรต์ นักวิชาการ ฯลฯ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือกระทรวงดีอี นำทัพไปตามจับคนที่สร้างเฟกนิวส์บนโซเชียล มีเดียมาได้หลายคน แต่ไม่กล้าจับตัวการสำคัญ คือ สื่อมวลชน ที่ทั้งปั้น และปั่นข่าวไวรัสอู่ฮั่นเพื่อดิสเครดิตรัฐบาล ทั้งที่รู้ว่า เป็นค่ายไหน สำนักไหน
ล่าสุดคือ การสร้างและเผยแพร่ข่าวปลอม โดยสำนักข่าวออนไลน์แห่งหนึ่ง และทีวีบางช่องว่า มีคนจากเมืองอู่ฮั่น 5 ล้านคนมาเที่ยวไทยตอนตรุษจีน โดยอ้างคำให้สัมภาษณ์ของนายโจว เซียนวั่ง นายกเทศมนตรีเมืองอู่ฮั่น เดือดร้อนถึงนายโจว ต้องแก้ข่าวผ่าน China Media Group ของทางการจีน ให้ทักท้วงผ่านนายกสมาคมนักข่าว นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยว่า ตลอดการสัมภาษณ์สดในรายการความยาว 26.30 นาที นายกเทศมนตรีเมืองอู่ฮั่นไม่ได้พูดถึงประเด็นการเดินทางออกนอกเมืองของชาวอู่ฮั่นในช่วงเทศกาลตรุษจีนเลย ข้อมูลของทางการจีนเอง ก็ไม่เคยกล่าวหรือระบุว่า ชาวอู่ฮั่น 5 ล้านคน เดินทางจากเมืองอู่ฮั่นในช่วงเทศกาลตรุษจีนด้วย
ดังนั้น ตัวเลขชาวอู่ฮั่น 5 ล้านคนมาจากไหน ก็มาจากเจตนาการปั้น และปั่นข่าวปลอมของสำนักข่าวที่อยู่ตรงข้ามกับรัฐบาลมาโดยตลอดนั่นเอง ซึ่งหากบรรณาธิการผู้ควบคุม จะมีจิตสำนึก แค่ใช้สามัญสำนึกก็จะรู้ว่า เป็นไปไม่ได้ จะเอาเครื่องบินที่ไหนมาขนคนอู่ฮั่น 5 ล้านคนมาไทยในช่วงตรุษจีน จะเอาห้องพักที่ไหน เพราะตลอดทั้งปี ยังมีคนจีนมาเที่ยวไทยเพียง 2.8 ล้านคนเท่านั้น
ตอนนี้นักศึกษาไทย และคนไทย 65 คนที่ไปเรียนหนังสือที่เมืองอู่ฮั่นกำลังตกเป็นเหยื่อของขบวนการเฟกนิวส์ ที่กำลังปั้นข่าวว่า กำลังลำบาก ไม่มีอาหาร น้ำดื่ม ถูกรัฐบาลทอดทิ้ง ไม่ยอมส่งเครื่องบินไปรับ ในขณะที่ชาติอื่นๆ ส่งเครื่องบินรับคนของตนหมดแล้ว ซึ่งตรงกันข้ามกับความเป็นจริงโดยสิ้นเชิง
การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาที่เมืองอู่ฮั่น ในที่สุด ก็จะถูกควบคุมให้ยุติลงได้ จะเร็วหรือช้า จะมีผู้เสียชีวิตมากเท่าไรเท่านั้นแหละ แต่ไวรัสเฟกนิวส์จะแพร่ระบาดบนเครือข่ายโซเชียลเน็ตเวิร์กต่อไป หมดจากเรื่องการระบาดของไวรัสโคโรนาแล้ว ก็รอให้เกิดเรื่องใหม่ๆ ที่จะเอามาปั้น มาปั่นต่อไป เพราะไวรัสเฟกนิวส์เป็นเชื้อโรคที่ใครติดแล้ว รักษาไม่หาย