จีนประกาศ"ภาวะฉุกเฉินสูงสุด"ทั่วประเทศ "ปธน. สี จิ้นผิง" ตั้งทีมพิเศษ ยับยั้งไวรัสโคโรนา "ปักกิ่ง" สั่งงดบริการรถโดยสารระหว่างมณฑลไม่มีกำหนด เผยยอดผู้ป่วยทะลุ 2 พัน เสียชีวิต 56 ราย เชื้อแพร่กระจายไปหลายประเทศ "นายกฯ" กำชับสธ. ปรับปรุง วางแผนรับมือ "อนุทิน"เตรียมเสนอครม. 28ม.ค.นี้ ยกระดับให้เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อรัฐบาลสามารถใช้อำนาจพิเศษในการบริหารสถานการณ์ เผยล่าสุดไทยพบผู้ป่วย 8 ราย หายดีแล้ว 5 ราย อีก 3 รายอยู่ห้องแยกโรคใน รพ. ด้าน ททท.เผย หากจีนปิดประเทศ กระทบท่องเที่ยวไทย 4 แสนล้าน
สืบเนื่องจากรายงานผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ขยายวงไปทั่วประเทศ หน่วยปกครองระดับมณฑล 30 แห่งของจีน ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระดับสูงสุด เพื่อยับยั้งการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
ทั้งนี้ ที่ มองโกเลียใน หนิงเซี่ย เฮยหลงเจียง จี๋หลิน เหลียวหนิง ซานซี ส่านซี เหอหนาน กานซู่ ชิงไห่ ซินเจียง และไห่หนาน ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข ระดับสูงสุดตามภูมิภาคอื่นๆของประเทศ ยกเว้นที่ ทิเบต
สำหรับจำนวนผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสฯ ล่าสุด รวมอยู่ที่ 2,022 ราย โดยมีอาการหนักขั้นวิกฤต 324 ราย ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตรวมอยู่ที่ 56 ราย จากข้อมูล ณ วันเสาร์ที่ 25 ม.ค. แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อในจีนแผ่นดินใหญ่ 1,975 ราย, ฮ่องกง 5 ราย, ไต้หวัน 3 ราย , มาเก๊า 5 ราย, ประเทศอื่น ๆ ในเอเชีย 24 (รวมประเทศไทย 8 ราย), ฝรั่งเศส 3 ราย, สหรัฐฯ 3 ราย , ออสเตรเลีย 4 ราย
ส่วนผู้ป่วยจำนวน 8 รายในไทย หายดีแล้ว 5 ราย อีก 3 ราย อยู่ระหว่างการรักษา
"สี จิ้นผิง" ตั้งทีมพิเศษสกัดไวรัสฯ
ด้านคณะกรรมการกรมการเมืองประจำคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน(CPC)จัดการประชุมด้านการป้องกันและการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค โดย"สี จิ้นผิง" เลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคฯ เป็นประธานการประชุม ได้ตัดสินใจจัดตั้งคณะทำงานพิเศษประจำคณะกรรมการกลางพรรคฯ เพื่อกำกับดูแลการปฏิบัติงานป้องกันและควบคุมเชื้อไวรัสฯ
นอกจากนั้น การประชุมฯยังดำเนินการศึกษาและการเตรียมการในประเด็นต่างๆ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการรักษาผู้ป่วย และจะส่งคณะทำงานพิเศษไปยังมณฑลหูเป่ย ทางตอนกลางของประเทศ เพื่อชี้แนวทางการปฏิบัติงานในพื้นที่
"ชีวิตคือสิ่งสำคัญสูงสุด ความรับผิดชอบของเราคือ การป้องกันและการควบคุมเชื้อไวรัสฯ" สี กล่าว พร้อมออกคำสั่งให้การป้องกันและการควบคุมเชื้อไวรัสฯ เป็นพันธกิจอันดับหนึ่ง ของคณะกรรมการพรรคฯ และรัฐบาลทุกระดับ
การประชุมฯระบุว่า สี จับตามองการแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิด เขาเรียกประชุมหลายครั้ง รับฟังรายงานและออกคำสั่งต่างๆ พร้อมเรียกร้องคณะกรรมการพรรคฯ รัฐบาลทุกระดับ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยึดถือชีวิตและสุขภาพของประชาชนเป็นอันดับแรก
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่รัฐในหูเป่ยต้องให้ความสำคัญยิ่งยวดกับการป้องกันและการควบคุมเชื้อไวรัสฯ รวมถึงดำเนินมาตรการเข้มงวดเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาด และนำผู้ป่วยทุกคนมากักกันตัวเพื่อรับการรักษา ณ ศูนย์กลางเดียวกัน
การประชุมฯ สำทับถึงการเผยแพร่ข้อมูลอย่างทันท่วงที ถูกต้องแม่นยำ และบริสุทธิ์โปร่งใส เพื่อแก้ไขข้อวิตกกังวลจากสาธารณชนทั้งในและนอกประเทศ
จีน รับยังมีความรู้เรื่องไวรัสฯ ในวงจำกัด
หม่า เสียวเหว่ย ผู้อำนวยการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ แถลงในวันอาทิตย์ (26ม.ค.) ยอมรับว่ายังมีข้อมูลความรู้เกี่ยวกับไวรัสโคโรนา 2019 เพียงจำกัด พร้อมเสริมว่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ มีระยะฟักตัว 1-14 วัน และการแพร่เชื้อจะเกิดขึ้นในระยะฟักตัวของโรค ซึ่งต่างจากโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (ซาร์ส) ที่เกิดจากไวรัสโคโรนา และมีต้นกำเนิดในจีนเหมือนกัน และทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 800 คนในปี 2002-2003
หม่า เสริมว่ารัฐบาลจีนจะเพิ่มมาตรการควบคุมโรค จากปัจจุบันที่มีการระงับการขนส่งและการเดินทาง รวมทั้งยกเลิกการจัดกิจกรรมขนาดใหญ่ในหลายเมือง
ไวรัสปริศนานี้ เชื่อว่า ถือกำเนิดขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้ว ในตลาดอาหารทะเลของเมืองอู่ฮั่น ที่มีการลักลอบขายสัตว์ป่า ได้แพร่หลายไปยังเมืองต่างๆ ในจีน ซึ่งรวมถึงกรุงปักกิ่ง และมหานครเซี่ยงไฮ้ ตลอดจน ถึงอเมริกา ไทย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส และแคนาดา
ทั้งนี้ ทางการจีน ได้ประกาศห้ามขายสัตว์ป่าทั้งในตลาด ร้านอาหาร และแพล็ตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซ เนื่องจากเชื่อว่า สัตว์เหล่านี้เป็นที่มาของไวรัสต่างๆ ที่วิวัฒนาการ กลายพันธุ์ และสามารถติดต่อถึงคน
ขณะเดียวกัน กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงว่า จะส่งเครื่องบินไปรับเจ้าหน้าที่สถานกงสุล ในอู่ฮั่น และพลเมืองสหรัฐฯ จำนวนจำกัด ในวันอังคาร (28ม.ค.) และมุ่งหน้าสู่ ซานฟรานซิสโก
เช่นเดียวกับ รัฐบาลฝรั่งเศส และผู้ผลิตรถ พีเอสเอ เผยว่า กำลังวางแผนอพยพเจ้าหน้าที่และครอบครัวออกจากเมืองหนึ่งในจีนที่ถูกกักกันโรคเช่นเดียวกัน
ไวรัสฯทำตรุษจีน กร่อย
ทั้งนี้ วิกฤตไวรัสโคโรนา 2019 ทำลายบรรยากาศการฉลองเทศกาลตรุษจีนโดยสิ้นเชิง จากปกติที่พี่น้องชาวจีนหลายร้อยล้านคน จะออกเดินทางทั่วประเทศ และบางส่วนออกนอกประเทศ กลับกลายเป็นการออกมาตรการระงับการเดินทางเข้า-ออกเมืองต่างๆ นอกจากนั้นโรงภาพยนตร์จำนวนมาก ยังปิดให้บริการเพื่อป้องกันการระบาด เช่นเดียวกับบริการเรือสำราญ และบริการด้านการท่องเที่ยวและบันเทิงอีกมากมาย เช่น เซี่ยงไฮ้ ดิสนีย์แลนด์ ที่ก่อนหน้านี้คาดว่าจะได้ต้อนรับนักท่องเที่ยววันละ 100,000 คน ตลอดช่วงวันขึ้นปีใหม่จีน
ที่ฮ่องกง รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อวันเสาร์ หลังพบผู้ติดเชื้อ 5 ราย พร้อมสั่งยกเลิกงานฉลองตรุษจีนขนาดใหญ่ และระงับการให้บริการเที่ยวบินและรถไฟความเร็วสูงระหว่างฮ่องกง กับอู่ฮั่น นอกจากนี้ยังประกาศให้สถาบันการศึกษาหยุดต่อเนื่องหลังเทศกาลตรุษจีนไปจนถึงวันที่ 17 ก.พ.63
ปักกิ่งสั่งงดเดินรถโดยสารระหว่างมณฑล
กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน ประกาศแผนการระงับการให้บริการรถโดยสารประจำทางหลวง ระหว่างมณฑลทุกสาย ตั้งแต่วันอาทิตย์ (26 ม.ค.) โดยยังไม่มีกำหนดการกลับมาให้บริการที่แน่ชัด ทั้งยังดำเนินมาตรการ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายผู้โดยสารทุกคนในสถานีรถไฟใต้ดิน 55 แห่ง รวมถึงสถานีรถไฟธรรมดา และท่าอากาศยานนานาชาตินครหลวงปักกิ่ง โดยผู้ที่มีอุณหภูมิผิดปกติ จะถูกส่งตัวไปยังรพ.
นอกจากนี้มีการยกระดับขั้นตอนทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคในสถานีรถไฟใต้ดิน และรถโดยสารประจำทาง โดยตู้โดยสารต้องถูกฆ่าเชื้อโรคทุกวัน ส่วนทางเข้า-ทางออก บันไดเลื่อน ห้องน้ำ และพื้นที่สาธารณะ ในสถานีฯ ต้องถูกฆ่าเชื้อโรค วันละ 3 รอบ
จีนห้ามกรุปทัวร์ออกนอกปท.ตั้งแต่ 27ม.ค.
สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจีน ได้เผยแพร่ประกาศอย่างเป็นทางการ ระบุว่า นับตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป ให้ธุรกิจนำเที่ยวทุกแห่งในประเทศหยุดขายบริการนำเที่ยวเส้นทางต่างๆ เป็นการชั่วคราว รวมถึงตั๋วเครื่องบิน และที่พัก ส่วนคณะที่เดินทางออกไปแล้ว ก็ให้ดำเนินการตามสัญญาการท่องเที่ยวต่อไป ส่วนคณะที่อยู่ระหว่างการเดินทาง ให้ระมัดระวังเรื่องสุขภาพของลูกค้า และดำเนินการป้องกันอย่างรอบคอบ พร้อมกันนี้ให้จัดการปัญหาเกี่ยวกับสัญญาการท่องเที่ยวด้วยความระมัดระวัง
ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับของกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของจีน บริการการท่องเที่ยวแบบเป็นหมู่คณะ รวมถึงตั๋วเครื่องบิน และที่พักให้หยุดดำเนินการตั้งแต่ วันที่ 24 ม.ค.63 ส่วนคณะท่องเที่ยวที่เดินทางไปต่างประเทศ เพื่อให้เกิดความปลอดภัย คณะที่เดินทางก่อน วันที่ 27 ม.ค.ให้สามารถเดินทางได้ตามปกติ แต่บริการคณะท่องเที่ยวที่ออกเดินทางตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค. รวมถึงการขายตั๋วเครื่องบิน และที่พักให้ระงับเป็นการชั่วคราว โดยลูกค้าและบริษัทนำเที่ยวให้แก้ไขปัญหาต่างๆที่ตามมา โดยยึดตามเงื่อนไขสัญญา และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
คนไทยในอู่ฮั่น เผยภาพเมืองร้าง
ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "ณัฐวุฒิ เอี่ยมเนตร" ซึ่งเป็นคนไทยในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย เผยภาพบรรยากาศในตลาดเมืองอู่ฮั่น และซูเปอร์มาร์เก็ต ที่ต่างพากันปิดทำการทั้งหมด ปราศจากผู้คนเหมือนเมืองร้าง น่าวังเวง จากสถานการณ์โรคระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ทำให้รัฐบาลจีนประกาศปิดเมืองอู่ฮั่น ห้ามผู้คนเดินทางออกนอกเมือง โดยก่อนหน้านี้ ประชาชนในเมืองยังซื้อของอุปโภคบริโภคกักตุนไว้
ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "ณัฐวุฒิ เอี่ยมเนตร" โพสต์ข้อความระบุว่า คนไทยที่อยู่ที่อู่ฮั่น มีประมาณ 50-60 คน ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา พักอาศัยอยู่ในเขตมหาวิทยาลัย จึงมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง ผู้คนไม่พลุกพล่าน เพราะเป็นช่วงมหาวิทยาลัยปิดเทอม
สถานการณ์ปัจจุบันเมืองอู่ฮั่น เงียบจริงๆ ไม่เปิดตลาด หรือห้างร้าน การเดินทางเป็นไปได้ยาก เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ใช้ระบบการขนส่งสาธารณะ แต่ปัจจุบันหยุดให้บริการไปแล้ว ประชาชนที่จำเป็นต้องออกไปข้างนอก หรือจำเป็นต้องไปโรงพยาบาล สามารถโทรศัพท์ไปที่สำนักงานเขตที่ตนเองอาศัย จะมีรถที่ทางรัฐจัดมารับส่ง
ปัจจุบันยังไม่เกิดสภาวะขาดแคลน จึงบอกไม่ได้เหมือนกันว่า จะเป็นอย่างไรต่อไป ประชาชนในอู่ฮั่น ต่างเก็บตัวอยู่ในบ้าน และให้ความร่วมมือกับรัฐบาลดีมาก ส่วนสภาพอากาศ ช่วงนี้อากาศหนาว และฝนตกทุกวัน
นายกฯกำชับสธ.ปรับแผนรับมือ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม โพสต์เฟซบุ๊ก ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-ch ว่า ได้ติดตามสถานการณ์ #ไวรัสโคโรนา มาตลอด ได้กำชับกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เตรียมความพร้อม ปรับแผนรับมือตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาตรการป้องกัน และปฏิบัติตั้งแต่ต้นปี เน้นการตรวจคัดกรอง ณ ท่าอากาศยาน 5 แห่ง และด่านตรวจคนเข้าเมือง ยกระดับศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน เป็นระดับ 3 พร้อมแจ้งเตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่ ที่มีการระบาด และให้โรงพยาบาลทั่วประเทศเตรียมแผนรับมือตลอด 24 ชม.
”อนุทิน”ชงครม.ยกระดับวาระแห่งชาติ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข เป็นประธานการประชุมมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 รวมกับ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมยกระดับให้เป็นวาระระดับชาติ ที่รัฐบาลสามารถใช้อำนาจพิเศษ ในการบริหารสถานการณ์ ก่อนจัดทำมาตรการนำเสนอที่ประชุม ครม.ในวันอังคารที่ 28 ม.ค.นี้
นายอนุทิน กล่าวว่า 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา สธ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันอย่างเต็มที่ ในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสฯ สามารถรักษาผู้ป่วยให้หายได้หลายราย และส่งตัวกลับไปยังภูมิลำเนาที่ประเทศจีนแล้ว ยืนยันว่าทุกรายที่ตรวจพบว่า ติดเชื้อมาจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน แต่ยังไม่พบการแพร่ระบาดจากคนสู่คน ในประเทศไทย
ทั้งนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า ในไทยพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสฯ จำนวน 8 ราย หายกลับบ้านได้แล้ว 5 ราย อีก 3 ราย ยังอยู่ในห้องแยกโรคในโรงพยาบาลสังกัดสธ. อาการดีขึ้นแล้ว รอผลแล็บตรวจยืนยันหากไม่พบเชื้อ จึงจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ โดยยืนยันทั้งหมดติดเชื้อจากต่างประเทศก่อนเดินทางมาประเทศไทย
รับสมัครล่ามภาษาจีนช่วยคัดกรองโรค
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ประกาศรับสมัครล่ามภาษาจีน สำหรับคัดกรองผู้เดินทางที่ด่านควบคุมโรค ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และอู่ตะเภา จ.ระยอง เพื่อทำหน้าที่สัมภาษณ์ คัดกรองผู้เดินทางจากพื้นที่เสี่ยง ร่วมกับทีมเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรค กรมควบคุมโรค และอีกชุดหนึ่งสำหรับทีมสอบสวนโรค ทำหน้าที่สัมภาษณ์ผู้ป่วยผ่านระบบอินเตอร์คอม และติดตามผู้สัมผัส ร่วมกับทีมเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรค กรมควบคุมโรค ในพื้นที่กรุงเทพฯ และนนทบุรี หรืออาจจะมีออกต่างจังหวัดบ้าง โดยทั้งสองชุด ถ้าจำเป็นต้องสัมภาษณ์ต่อหน้า จะมีทีมคอยดูแลเรื่อง อุปกรณ์ป้องกันร่างกาย เช่น หน้ากาก N95 ชุดป้องกันการติดเชื้อ (PPE) พร้อมสอนวิธีการสวมใส่ที่ถูกต้อง
คุณสมบัติของผู้สมัคร ไม่จำกัดเพศ อายุตั้งแต่ 20-45 ปี เข้าใจศัพท์ทางการแพทย์ และสาธารณสุขเบื้องต้น โดยมีค่าตอบแทนแบบเหมา วันละ 5,000 บาท หรือแบบรายชั่วโมงละ 400-600 บาท โดยต้องทำสัญญาจ้างกับกรมควบคุมโรค และเซ็นชื่อปฏิบัติงานที่ด่านควบคุมโรค โดยเวลาเข้างาน สำหรับด่านควบคุมโรค ท่าอากาศยานนานาชาติ แบ่งเป็น 2 กะ คือ 08.00-20.00 น. และ 20.00-08.00 น. ทีมสอบสวนโรค เวลาเข้างาน 09.00-03.00 น. (เวร On Callปฏิบัติงานเมื่อมีการพบผู้ป่วยสงสัย) สำหรับทีมสอบสวนโรค ในวันที่ต้องไปปฏิบัติงานนอกพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จะมีค่าเดินทางจากที่พัก มาถึงกรมควบคุมโรค (ไป-กลับ) ให้ด้วย
ผู้สนใจสามารถสมัครได้ ติดต่อคุณแมว โทร. 089-787-0340 กรณีปฏิบัติงานร่วมกับทีมสอบสวนโรค ติดต่อคุณจีจี โทร. 061-998-1116
เชียงใหม่ถกเครียดสกัดไวรัสอู่ฮั่น
บ่ายวานนี้ (26ม.ค.) ที่ห้องประชุมสำนักงานท่าอากาศยานเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผวจ.เชียงใหม่ พร้อมด้วย นายเหริน ยี่เซิง กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำเชียงใหม่ ,นายอมรรักษ์ ชุมสาย ณ อยุธยา ผอ.ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และนพ. วรเชษฐ เต๋ชะรัก ผอ. รพ.นครพิงค์ ประชุมหารือร่วมกัน กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดมาตรการเฝ้าระวังป้องกัน การแพร่ระบาดของโรค ที่จะเข้ามายัง จ.เชียงใหม่
โดยที่ผ่านมา ด่านควบคุมโรค ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ และศูนย์ควบคุมโรค ทำการติดตั้งเครื่อง เทอร์โมสแกน ตรวจสอบนักท่องเที่ยวจีน เดินทางด้วยเที่ยวบินตรงจากเมืองอู่ฮั่น มายัง จ.เชียงใหม่ ทุกเที่ยวบิน และล่าสุด มีการประกาศยกเลิกเที่ยวบิน ระหว่างวันที่ 24ม.ค.- 4ก.พ. แล้ว
ด่านมุกดาหารคัดกรองเข้ม
ที่บริเวณขาเข้าด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต) นายนพพร กลิ่นใกล้ เจ้าหน้าที่ควบคุมพาหะนำโรค ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ร่วมกับด่านตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหาร ได้ติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกน ตรวจคัดกรองผู้ป่วยไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่อาจจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางจากพื้นที่ ที่เป็นแหล่งเกิดโรคมาท่องเที่ยว โดยจังหวัดมุกดาหารเป็นจังหวัดตามแนวชายแดน ทำหน้าที่คัดกรองผู้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว หรือเยี่ยมญาติ ตลอดจนเข้ามาทำธุรกิจในจังหวัดมุกดาหาร
ทั้งนี้ จ.มุกดาหาร มีพื้นที่ติดต่อกับ แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว มีคนเชื้อชาติจีนมาอาศัย และมาทำธุรกิจที่แขวงสะหวันนะเขตเป็นจำนวนมาก เดินทางเข้ามายังฝั่งประเทศไทยทางสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 จึงได้มีการตรวจเข้มคัดกรองผู้ป่วยที่เดินทางเข้ามาเกี่ยวกับโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
พบนักท่องเที่ยวจีนติดเชื้อเที่ยวเกาะเสม็ด
วานนี้ (26 ม.ค.) นักท่องเที่ยวหญิงจากมณฑลเจียงซู ประเทศจีน อายุ54 ปี ซึ่งเดินทางมาท่องเที่ยวยังเกาะเสม็ด จ.ระยอง กับกรุ๊ปทัวร์ได้ถูกนำตัวส่ง รพ.ระยอง เป็นการด่วน หลังมีอาการไข้สูง ไอ เจ็บคอ หายใจเหนื่อย ขณะกำลังเดินเล่นอยู่บนชายหาดกับกลุ่มเพื่อนชาวจีน ซึ่งอาการดังกล่าว มีลักษณะคล้ายผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา ไกด์ทัวร์จึงรีบนำตัวกลับขึ้นฝั่งเพื่อเข้าตรวจดูอาการที่โรงพยาบาลทันที
นักท่องเที่ยวหญิงชาวจีน ดังกล่าวได้เดินทางมากับกรุ๊ปทัวร์จากมณฑลเจียงซู ถึงสนามบินดอนเมือง เมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา และได้เดินทางต่อมาท่องเที่ยวยังเกาะเสม็ด
และเมื่อช่วงเช้าวันที่ 26 ม.ค.นี้ พบว่า มีอาการป่วยเป็นไข้จนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลระยอง ซึ่งขณะนี้แพทย์ได้นำนักท่องเที่ยวหญิงชาวจีน เข้ารักษาตัวอยู่ในห้องแยกเฉพาะ พร้อมกับเฝ้าดูอาการตลอด 24 ชม.
จีนปิดปท.กระทบท่องเที่ยวไทย4แสนล.
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า การที่จีนประกาศภาวะฉุกเฉินสูงสุด ปิดมณฑล 30 แห่ง ห้ามคนเข้าออก ย่อมมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวไทยในภาพรวม
สถิติที่ผ่านมานักท่องเที่ยวจากจีน เดินทางมาประเทศไทยประมาณ 800,000 คนต่อเดือน และมีค่าใช้จ่ายประมาณ คนละ 50,000 บาทต่อคนต่อทริป โดยถ้ามีการปิดประเทศ ห้ามคนเข้าออกจริง จากเดิมที่คาดว่าจะมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวไทยประมาณ 70% จะเป็นความเสียหายที่เกิดขึ้น 100% คิดเป็นมูลต่าประมาณ 4 แสนล้าน
ทางการท่องเที่ยวเตรียมที่จะหาตลาดใหม่เข้ามาทดแทน เช่น ตลาดอาเซียนและอินเดีย เพิ่มขึ้นโดยในวันที่ 28 ม.ค.นี้ เตรียมประชุมหารือกับผู้ประกอบการเอกชน เช่น สายการบินบริษัทท่องเที่ยวธุรกิจโรงแรมรถเช่าเพื่อหามาตรการช่วยเหลือและหาตลาดเป้าหมายใหม่ขณะเดียวกันได้ให้สำนักงานท่องเที่ยวต่างประเทศ 5 แห่ง ที่อยู่ในจีน ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้น และช่วยเหลือนักท่องเที่ยวจีนที่ตกค้าง เช่น ขณะนี้มีนักท่องเที่ยวจีนจากเมืองหัวเป่ย และหูจิ้ง ที่ตกค้างและยังไม่สามารถกลับประเทศได้ พร้อมเตรียมออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ
อย่างไรก็ตาม ขอให้นักท่องเที่ยวอย่าวิตกมากเกินไปโดยเชื่อว่าระบบสาธารณสุขของไทยสามารถรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้
เตรียมส่ง C130รับคนไทยกลับจากอู่ฮั่น
รายงานจากกระทรวงต่างประเทศ เปิดเผยว่าเตรียมเข้าประชุมแผนฉุกเฉินเพื่อใช้เครื่องบิน c130 ในการอพยพคนไทยออกจากเมืองอู่ฮั่น เนื่องจากสายการบินพาณิชย์ ไม่สามารถทำการบินได้ โดยคาดว่าในเมืองอู่ฮั่น มีชาวไทยอาศัยอยู่ไม่ถึง100 คน
ทั้งนี้แหล่งข่าวจากกองทัพอากาศ กล่าวว่า ในการอพยพคนไทยออกจากเมืองอู่ฮั่น ทางกองทัพมีความพร้อม และมีอากาศยานหลายแบบที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ ขึ้นอยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม จะสั่งการ และทางการจีนจะอนุญาตให้เราเข้าไปหรือไม่ เนื่องจากเมื่อมีโรคติดต่อร้ายแรง มักจะห้ามไม่ให้มีการอพยพ เพราะจะเกิดการกระจายของเชื้อโรค
สืบเนื่องจากรายงานผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ขยายวงไปทั่วประเทศ หน่วยปกครองระดับมณฑล 30 แห่งของจีน ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระดับสูงสุด เพื่อยับยั้งการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
ทั้งนี้ ที่ มองโกเลียใน หนิงเซี่ย เฮยหลงเจียง จี๋หลิน เหลียวหนิง ซานซี ส่านซี เหอหนาน กานซู่ ชิงไห่ ซินเจียง และไห่หนาน ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข ระดับสูงสุดตามภูมิภาคอื่นๆของประเทศ ยกเว้นที่ ทิเบต
สำหรับจำนวนผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสฯ ล่าสุด รวมอยู่ที่ 2,022 ราย โดยมีอาการหนักขั้นวิกฤต 324 ราย ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตรวมอยู่ที่ 56 ราย จากข้อมูล ณ วันเสาร์ที่ 25 ม.ค. แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อในจีนแผ่นดินใหญ่ 1,975 ราย, ฮ่องกง 5 ราย, ไต้หวัน 3 ราย , มาเก๊า 5 ราย, ประเทศอื่น ๆ ในเอเชีย 24 (รวมประเทศไทย 8 ราย), ฝรั่งเศส 3 ราย, สหรัฐฯ 3 ราย , ออสเตรเลีย 4 ราย
ส่วนผู้ป่วยจำนวน 8 รายในไทย หายดีแล้ว 5 ราย อีก 3 ราย อยู่ระหว่างการรักษา
"สี จิ้นผิง" ตั้งทีมพิเศษสกัดไวรัสฯ
ด้านคณะกรรมการกรมการเมืองประจำคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน(CPC)จัดการประชุมด้านการป้องกันและการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค โดย"สี จิ้นผิง" เลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคฯ เป็นประธานการประชุม ได้ตัดสินใจจัดตั้งคณะทำงานพิเศษประจำคณะกรรมการกลางพรรคฯ เพื่อกำกับดูแลการปฏิบัติงานป้องกันและควบคุมเชื้อไวรัสฯ
นอกจากนั้น การประชุมฯยังดำเนินการศึกษาและการเตรียมการในประเด็นต่างๆ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการรักษาผู้ป่วย และจะส่งคณะทำงานพิเศษไปยังมณฑลหูเป่ย ทางตอนกลางของประเทศ เพื่อชี้แนวทางการปฏิบัติงานในพื้นที่
"ชีวิตคือสิ่งสำคัญสูงสุด ความรับผิดชอบของเราคือ การป้องกันและการควบคุมเชื้อไวรัสฯ" สี กล่าว พร้อมออกคำสั่งให้การป้องกันและการควบคุมเชื้อไวรัสฯ เป็นพันธกิจอันดับหนึ่ง ของคณะกรรมการพรรคฯ และรัฐบาลทุกระดับ
การประชุมฯระบุว่า สี จับตามองการแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิด เขาเรียกประชุมหลายครั้ง รับฟังรายงานและออกคำสั่งต่างๆ พร้อมเรียกร้องคณะกรรมการพรรคฯ รัฐบาลทุกระดับ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยึดถือชีวิตและสุขภาพของประชาชนเป็นอันดับแรก
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่รัฐในหูเป่ยต้องให้ความสำคัญยิ่งยวดกับการป้องกันและการควบคุมเชื้อไวรัสฯ รวมถึงดำเนินมาตรการเข้มงวดเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาด และนำผู้ป่วยทุกคนมากักกันตัวเพื่อรับการรักษา ณ ศูนย์กลางเดียวกัน
การประชุมฯ สำทับถึงการเผยแพร่ข้อมูลอย่างทันท่วงที ถูกต้องแม่นยำ และบริสุทธิ์โปร่งใส เพื่อแก้ไขข้อวิตกกังวลจากสาธารณชนทั้งในและนอกประเทศ
จีน รับยังมีความรู้เรื่องไวรัสฯ ในวงจำกัด
หม่า เสียวเหว่ย ผู้อำนวยการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ แถลงในวันอาทิตย์ (26ม.ค.) ยอมรับว่ายังมีข้อมูลความรู้เกี่ยวกับไวรัสโคโรนา 2019 เพียงจำกัด พร้อมเสริมว่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ มีระยะฟักตัว 1-14 วัน และการแพร่เชื้อจะเกิดขึ้นในระยะฟักตัวของโรค ซึ่งต่างจากโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (ซาร์ส) ที่เกิดจากไวรัสโคโรนา และมีต้นกำเนิดในจีนเหมือนกัน และทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 800 คนในปี 2002-2003
หม่า เสริมว่ารัฐบาลจีนจะเพิ่มมาตรการควบคุมโรค จากปัจจุบันที่มีการระงับการขนส่งและการเดินทาง รวมทั้งยกเลิกการจัดกิจกรรมขนาดใหญ่ในหลายเมือง
ไวรัสปริศนานี้ เชื่อว่า ถือกำเนิดขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้ว ในตลาดอาหารทะเลของเมืองอู่ฮั่น ที่มีการลักลอบขายสัตว์ป่า ได้แพร่หลายไปยังเมืองต่างๆ ในจีน ซึ่งรวมถึงกรุงปักกิ่ง และมหานครเซี่ยงไฮ้ ตลอดจน ถึงอเมริกา ไทย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส และแคนาดา
ทั้งนี้ ทางการจีน ได้ประกาศห้ามขายสัตว์ป่าทั้งในตลาด ร้านอาหาร และแพล็ตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซ เนื่องจากเชื่อว่า สัตว์เหล่านี้เป็นที่มาของไวรัสต่างๆ ที่วิวัฒนาการ กลายพันธุ์ และสามารถติดต่อถึงคน
ขณะเดียวกัน กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงว่า จะส่งเครื่องบินไปรับเจ้าหน้าที่สถานกงสุล ในอู่ฮั่น และพลเมืองสหรัฐฯ จำนวนจำกัด ในวันอังคาร (28ม.ค.) และมุ่งหน้าสู่ ซานฟรานซิสโก
เช่นเดียวกับ รัฐบาลฝรั่งเศส และผู้ผลิตรถ พีเอสเอ เผยว่า กำลังวางแผนอพยพเจ้าหน้าที่และครอบครัวออกจากเมืองหนึ่งในจีนที่ถูกกักกันโรคเช่นเดียวกัน
ไวรัสฯทำตรุษจีน กร่อย
ทั้งนี้ วิกฤตไวรัสโคโรนา 2019 ทำลายบรรยากาศการฉลองเทศกาลตรุษจีนโดยสิ้นเชิง จากปกติที่พี่น้องชาวจีนหลายร้อยล้านคน จะออกเดินทางทั่วประเทศ และบางส่วนออกนอกประเทศ กลับกลายเป็นการออกมาตรการระงับการเดินทางเข้า-ออกเมืองต่างๆ นอกจากนั้นโรงภาพยนตร์จำนวนมาก ยังปิดให้บริการเพื่อป้องกันการระบาด เช่นเดียวกับบริการเรือสำราญ และบริการด้านการท่องเที่ยวและบันเทิงอีกมากมาย เช่น เซี่ยงไฮ้ ดิสนีย์แลนด์ ที่ก่อนหน้านี้คาดว่าจะได้ต้อนรับนักท่องเที่ยววันละ 100,000 คน ตลอดช่วงวันขึ้นปีใหม่จีน
ที่ฮ่องกง รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อวันเสาร์ หลังพบผู้ติดเชื้อ 5 ราย พร้อมสั่งยกเลิกงานฉลองตรุษจีนขนาดใหญ่ และระงับการให้บริการเที่ยวบินและรถไฟความเร็วสูงระหว่างฮ่องกง กับอู่ฮั่น นอกจากนี้ยังประกาศให้สถาบันการศึกษาหยุดต่อเนื่องหลังเทศกาลตรุษจีนไปจนถึงวันที่ 17 ก.พ.63
ปักกิ่งสั่งงดเดินรถโดยสารระหว่างมณฑล
กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน ประกาศแผนการระงับการให้บริการรถโดยสารประจำทางหลวง ระหว่างมณฑลทุกสาย ตั้งแต่วันอาทิตย์ (26 ม.ค.) โดยยังไม่มีกำหนดการกลับมาให้บริการที่แน่ชัด ทั้งยังดำเนินมาตรการ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายผู้โดยสารทุกคนในสถานีรถไฟใต้ดิน 55 แห่ง รวมถึงสถานีรถไฟธรรมดา และท่าอากาศยานนานาชาตินครหลวงปักกิ่ง โดยผู้ที่มีอุณหภูมิผิดปกติ จะถูกส่งตัวไปยังรพ.
นอกจากนี้มีการยกระดับขั้นตอนทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคในสถานีรถไฟใต้ดิน และรถโดยสารประจำทาง โดยตู้โดยสารต้องถูกฆ่าเชื้อโรคทุกวัน ส่วนทางเข้า-ทางออก บันไดเลื่อน ห้องน้ำ และพื้นที่สาธารณะ ในสถานีฯ ต้องถูกฆ่าเชื้อโรค วันละ 3 รอบ
จีนห้ามกรุปทัวร์ออกนอกปท.ตั้งแต่ 27ม.ค.
สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจีน ได้เผยแพร่ประกาศอย่างเป็นทางการ ระบุว่า นับตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป ให้ธุรกิจนำเที่ยวทุกแห่งในประเทศหยุดขายบริการนำเที่ยวเส้นทางต่างๆ เป็นการชั่วคราว รวมถึงตั๋วเครื่องบิน และที่พัก ส่วนคณะที่เดินทางออกไปแล้ว ก็ให้ดำเนินการตามสัญญาการท่องเที่ยวต่อไป ส่วนคณะที่อยู่ระหว่างการเดินทาง ให้ระมัดระวังเรื่องสุขภาพของลูกค้า และดำเนินการป้องกันอย่างรอบคอบ พร้อมกันนี้ให้จัดการปัญหาเกี่ยวกับสัญญาการท่องเที่ยวด้วยความระมัดระวัง
ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับของกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของจีน บริการการท่องเที่ยวแบบเป็นหมู่คณะ รวมถึงตั๋วเครื่องบิน และที่พักให้หยุดดำเนินการตั้งแต่ วันที่ 24 ม.ค.63 ส่วนคณะท่องเที่ยวที่เดินทางไปต่างประเทศ เพื่อให้เกิดความปลอดภัย คณะที่เดินทางก่อน วันที่ 27 ม.ค.ให้สามารถเดินทางได้ตามปกติ แต่บริการคณะท่องเที่ยวที่ออกเดินทางตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค. รวมถึงการขายตั๋วเครื่องบิน และที่พักให้ระงับเป็นการชั่วคราว โดยลูกค้าและบริษัทนำเที่ยวให้แก้ไขปัญหาต่างๆที่ตามมา โดยยึดตามเงื่อนไขสัญญา และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
คนไทยในอู่ฮั่น เผยภาพเมืองร้าง
ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "ณัฐวุฒิ เอี่ยมเนตร" ซึ่งเป็นคนไทยในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย เผยภาพบรรยากาศในตลาดเมืองอู่ฮั่น และซูเปอร์มาร์เก็ต ที่ต่างพากันปิดทำการทั้งหมด ปราศจากผู้คนเหมือนเมืองร้าง น่าวังเวง จากสถานการณ์โรคระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ทำให้รัฐบาลจีนประกาศปิดเมืองอู่ฮั่น ห้ามผู้คนเดินทางออกนอกเมือง โดยก่อนหน้านี้ ประชาชนในเมืองยังซื้อของอุปโภคบริโภคกักตุนไว้
ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "ณัฐวุฒิ เอี่ยมเนตร" โพสต์ข้อความระบุว่า คนไทยที่อยู่ที่อู่ฮั่น มีประมาณ 50-60 คน ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา พักอาศัยอยู่ในเขตมหาวิทยาลัย จึงมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง ผู้คนไม่พลุกพล่าน เพราะเป็นช่วงมหาวิทยาลัยปิดเทอม
สถานการณ์ปัจจุบันเมืองอู่ฮั่น เงียบจริงๆ ไม่เปิดตลาด หรือห้างร้าน การเดินทางเป็นไปได้ยาก เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ใช้ระบบการขนส่งสาธารณะ แต่ปัจจุบันหยุดให้บริการไปแล้ว ประชาชนที่จำเป็นต้องออกไปข้างนอก หรือจำเป็นต้องไปโรงพยาบาล สามารถโทรศัพท์ไปที่สำนักงานเขตที่ตนเองอาศัย จะมีรถที่ทางรัฐจัดมารับส่ง
ปัจจุบันยังไม่เกิดสภาวะขาดแคลน จึงบอกไม่ได้เหมือนกันว่า จะเป็นอย่างไรต่อไป ประชาชนในอู่ฮั่น ต่างเก็บตัวอยู่ในบ้าน และให้ความร่วมมือกับรัฐบาลดีมาก ส่วนสภาพอากาศ ช่วงนี้อากาศหนาว และฝนตกทุกวัน
นายกฯกำชับสธ.ปรับแผนรับมือ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม โพสต์เฟซบุ๊ก ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-ch ว่า ได้ติดตามสถานการณ์ #ไวรัสโคโรนา มาตลอด ได้กำชับกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เตรียมความพร้อม ปรับแผนรับมือตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาตรการป้องกัน และปฏิบัติตั้งแต่ต้นปี เน้นการตรวจคัดกรอง ณ ท่าอากาศยาน 5 แห่ง และด่านตรวจคนเข้าเมือง ยกระดับศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน เป็นระดับ 3 พร้อมแจ้งเตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่ ที่มีการระบาด และให้โรงพยาบาลทั่วประเทศเตรียมแผนรับมือตลอด 24 ชม.
”อนุทิน”ชงครม.ยกระดับวาระแห่งชาติ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข เป็นประธานการประชุมมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 รวมกับ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมยกระดับให้เป็นวาระระดับชาติ ที่รัฐบาลสามารถใช้อำนาจพิเศษ ในการบริหารสถานการณ์ ก่อนจัดทำมาตรการนำเสนอที่ประชุม ครม.ในวันอังคารที่ 28 ม.ค.นี้
นายอนุทิน กล่าวว่า 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา สธ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันอย่างเต็มที่ ในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสฯ สามารถรักษาผู้ป่วยให้หายได้หลายราย และส่งตัวกลับไปยังภูมิลำเนาที่ประเทศจีนแล้ว ยืนยันว่าทุกรายที่ตรวจพบว่า ติดเชื้อมาจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน แต่ยังไม่พบการแพร่ระบาดจากคนสู่คน ในประเทศไทย
ทั้งนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า ในไทยพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสฯ จำนวน 8 ราย หายกลับบ้านได้แล้ว 5 ราย อีก 3 ราย ยังอยู่ในห้องแยกโรคในโรงพยาบาลสังกัดสธ. อาการดีขึ้นแล้ว รอผลแล็บตรวจยืนยันหากไม่พบเชื้อ จึงจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ โดยยืนยันทั้งหมดติดเชื้อจากต่างประเทศก่อนเดินทางมาประเทศไทย
รับสมัครล่ามภาษาจีนช่วยคัดกรองโรค
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ประกาศรับสมัครล่ามภาษาจีน สำหรับคัดกรองผู้เดินทางที่ด่านควบคุมโรค ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และอู่ตะเภา จ.ระยอง เพื่อทำหน้าที่สัมภาษณ์ คัดกรองผู้เดินทางจากพื้นที่เสี่ยง ร่วมกับทีมเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรค กรมควบคุมโรค และอีกชุดหนึ่งสำหรับทีมสอบสวนโรค ทำหน้าที่สัมภาษณ์ผู้ป่วยผ่านระบบอินเตอร์คอม และติดตามผู้สัมผัส ร่วมกับทีมเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรค กรมควบคุมโรค ในพื้นที่กรุงเทพฯ และนนทบุรี หรืออาจจะมีออกต่างจังหวัดบ้าง โดยทั้งสองชุด ถ้าจำเป็นต้องสัมภาษณ์ต่อหน้า จะมีทีมคอยดูแลเรื่อง อุปกรณ์ป้องกันร่างกาย เช่น หน้ากาก N95 ชุดป้องกันการติดเชื้อ (PPE) พร้อมสอนวิธีการสวมใส่ที่ถูกต้อง
คุณสมบัติของผู้สมัคร ไม่จำกัดเพศ อายุตั้งแต่ 20-45 ปี เข้าใจศัพท์ทางการแพทย์ และสาธารณสุขเบื้องต้น โดยมีค่าตอบแทนแบบเหมา วันละ 5,000 บาท หรือแบบรายชั่วโมงละ 400-600 บาท โดยต้องทำสัญญาจ้างกับกรมควบคุมโรค และเซ็นชื่อปฏิบัติงานที่ด่านควบคุมโรค โดยเวลาเข้างาน สำหรับด่านควบคุมโรค ท่าอากาศยานนานาชาติ แบ่งเป็น 2 กะ คือ 08.00-20.00 น. และ 20.00-08.00 น. ทีมสอบสวนโรค เวลาเข้างาน 09.00-03.00 น. (เวร On Callปฏิบัติงานเมื่อมีการพบผู้ป่วยสงสัย) สำหรับทีมสอบสวนโรค ในวันที่ต้องไปปฏิบัติงานนอกพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จะมีค่าเดินทางจากที่พัก มาถึงกรมควบคุมโรค (ไป-กลับ) ให้ด้วย
ผู้สนใจสามารถสมัครได้ ติดต่อคุณแมว โทร. 089-787-0340 กรณีปฏิบัติงานร่วมกับทีมสอบสวนโรค ติดต่อคุณจีจี โทร. 061-998-1116
เชียงใหม่ถกเครียดสกัดไวรัสอู่ฮั่น
บ่ายวานนี้ (26ม.ค.) ที่ห้องประชุมสำนักงานท่าอากาศยานเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผวจ.เชียงใหม่ พร้อมด้วย นายเหริน ยี่เซิง กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำเชียงใหม่ ,นายอมรรักษ์ ชุมสาย ณ อยุธยา ผอ.ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และนพ. วรเชษฐ เต๋ชะรัก ผอ. รพ.นครพิงค์ ประชุมหารือร่วมกัน กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดมาตรการเฝ้าระวังป้องกัน การแพร่ระบาดของโรค ที่จะเข้ามายัง จ.เชียงใหม่
โดยที่ผ่านมา ด่านควบคุมโรค ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ และศูนย์ควบคุมโรค ทำการติดตั้งเครื่อง เทอร์โมสแกน ตรวจสอบนักท่องเที่ยวจีน เดินทางด้วยเที่ยวบินตรงจากเมืองอู่ฮั่น มายัง จ.เชียงใหม่ ทุกเที่ยวบิน และล่าสุด มีการประกาศยกเลิกเที่ยวบิน ระหว่างวันที่ 24ม.ค.- 4ก.พ. แล้ว
ด่านมุกดาหารคัดกรองเข้ม
ที่บริเวณขาเข้าด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต) นายนพพร กลิ่นใกล้ เจ้าหน้าที่ควบคุมพาหะนำโรค ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ร่วมกับด่านตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหาร ได้ติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกน ตรวจคัดกรองผู้ป่วยไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่อาจจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางจากพื้นที่ ที่เป็นแหล่งเกิดโรคมาท่องเที่ยว โดยจังหวัดมุกดาหารเป็นจังหวัดตามแนวชายแดน ทำหน้าที่คัดกรองผู้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว หรือเยี่ยมญาติ ตลอดจนเข้ามาทำธุรกิจในจังหวัดมุกดาหาร
ทั้งนี้ จ.มุกดาหาร มีพื้นที่ติดต่อกับ แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว มีคนเชื้อชาติจีนมาอาศัย และมาทำธุรกิจที่แขวงสะหวันนะเขตเป็นจำนวนมาก เดินทางเข้ามายังฝั่งประเทศไทยทางสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 จึงได้มีการตรวจเข้มคัดกรองผู้ป่วยที่เดินทางเข้ามาเกี่ยวกับโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
พบนักท่องเที่ยวจีนติดเชื้อเที่ยวเกาะเสม็ด
วานนี้ (26 ม.ค.) นักท่องเที่ยวหญิงจากมณฑลเจียงซู ประเทศจีน อายุ54 ปี ซึ่งเดินทางมาท่องเที่ยวยังเกาะเสม็ด จ.ระยอง กับกรุ๊ปทัวร์ได้ถูกนำตัวส่ง รพ.ระยอง เป็นการด่วน หลังมีอาการไข้สูง ไอ เจ็บคอ หายใจเหนื่อย ขณะกำลังเดินเล่นอยู่บนชายหาดกับกลุ่มเพื่อนชาวจีน ซึ่งอาการดังกล่าว มีลักษณะคล้ายผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา ไกด์ทัวร์จึงรีบนำตัวกลับขึ้นฝั่งเพื่อเข้าตรวจดูอาการที่โรงพยาบาลทันที
นักท่องเที่ยวหญิงชาวจีน ดังกล่าวได้เดินทางมากับกรุ๊ปทัวร์จากมณฑลเจียงซู ถึงสนามบินดอนเมือง เมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา และได้เดินทางต่อมาท่องเที่ยวยังเกาะเสม็ด
และเมื่อช่วงเช้าวันที่ 26 ม.ค.นี้ พบว่า มีอาการป่วยเป็นไข้จนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลระยอง ซึ่งขณะนี้แพทย์ได้นำนักท่องเที่ยวหญิงชาวจีน เข้ารักษาตัวอยู่ในห้องแยกเฉพาะ พร้อมกับเฝ้าดูอาการตลอด 24 ชม.
จีนปิดปท.กระทบท่องเที่ยวไทย4แสนล.
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า การที่จีนประกาศภาวะฉุกเฉินสูงสุด ปิดมณฑล 30 แห่ง ห้ามคนเข้าออก ย่อมมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวไทยในภาพรวม
สถิติที่ผ่านมานักท่องเที่ยวจากจีน เดินทางมาประเทศไทยประมาณ 800,000 คนต่อเดือน และมีค่าใช้จ่ายประมาณ คนละ 50,000 บาทต่อคนต่อทริป โดยถ้ามีการปิดประเทศ ห้ามคนเข้าออกจริง จากเดิมที่คาดว่าจะมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวไทยประมาณ 70% จะเป็นความเสียหายที่เกิดขึ้น 100% คิดเป็นมูลต่าประมาณ 4 แสนล้าน
ทางการท่องเที่ยวเตรียมที่จะหาตลาดใหม่เข้ามาทดแทน เช่น ตลาดอาเซียนและอินเดีย เพิ่มขึ้นโดยในวันที่ 28 ม.ค.นี้ เตรียมประชุมหารือกับผู้ประกอบการเอกชน เช่น สายการบินบริษัทท่องเที่ยวธุรกิจโรงแรมรถเช่าเพื่อหามาตรการช่วยเหลือและหาตลาดเป้าหมายใหม่ขณะเดียวกันได้ให้สำนักงานท่องเที่ยวต่างประเทศ 5 แห่ง ที่อยู่ในจีน ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้น และช่วยเหลือนักท่องเที่ยวจีนที่ตกค้าง เช่น ขณะนี้มีนักท่องเที่ยวจีนจากเมืองหัวเป่ย และหูจิ้ง ที่ตกค้างและยังไม่สามารถกลับประเทศได้ พร้อมเตรียมออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ
อย่างไรก็ตาม ขอให้นักท่องเที่ยวอย่าวิตกมากเกินไปโดยเชื่อว่าระบบสาธารณสุขของไทยสามารถรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้
เตรียมส่ง C130รับคนไทยกลับจากอู่ฮั่น
รายงานจากกระทรวงต่างประเทศ เปิดเผยว่าเตรียมเข้าประชุมแผนฉุกเฉินเพื่อใช้เครื่องบิน c130 ในการอพยพคนไทยออกจากเมืองอู่ฮั่น เนื่องจากสายการบินพาณิชย์ ไม่สามารถทำการบินได้ โดยคาดว่าในเมืองอู่ฮั่น มีชาวไทยอาศัยอยู่ไม่ถึง100 คน
ทั้งนี้แหล่งข่าวจากกองทัพอากาศ กล่าวว่า ในการอพยพคนไทยออกจากเมืองอู่ฮั่น ทางกองทัพมีความพร้อม และมีอากาศยานหลายแบบที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ ขึ้นอยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม จะสั่งการ และทางการจีนจะอนุญาตให้เราเข้าไปหรือไม่ เนื่องจากเมื่อมีโรคติดต่อร้ายแรง มักจะห้ามไม่ให้มีการอพยพ เพราะจะเกิดการกระจายของเชื้อโรค
