ปักกิ่ง, 26 ม.ค. (ซินหัว) - สืบเนื่องจากรายงานผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่ขยายวงไปทั่วประเทศ หน่วยปกครองระดับมณฑล 30 แห่งของจีน ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระดับสูงสุด เพื่อยับยั้งการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
เมื่อวันเสาร์ (25 ม.ค.) มองโกเลียใน หนิงเซี่ย เฮยหลงเจียง จี๋หลิน เหลียวหนิง ซานซี ส่านซี เหอหนาน กานซู่ ชิงไห่ ซินเจียง และ ไห่หนาน ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระดับสูงสุดตามภูมิภาคอื่นๆ ของประเทศ
จำนวนผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัส รวมอยู่ที่ 2,022 ราย โดยมีอาการหนักขั้นวิกฤต 324 ราย ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตรวมอยู่ที่ 56 ราย จากข้อมูล ณ วันเสาร์ที่ 25 ม.ค.
ทั้งนี้ “เขตปกครองตนเองทิเบต” ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน นับเป็นภูมิภาคเพียงแห่งเดียวที่ยังไม่มีรายงานผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสในปัจจุบัน
“สี จิ้นผิง” ตั้งทีมพิเศษ สกัดไวรัสโคโรนา ย้ำประชาชนสำคัญสุด
ด้านคณะกรรมการกรมการเมืองประจำคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) จัดการประชุมด้านการป้องกันและการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
สี จิ้นผิง เลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรค เป็นประธานการประชุมดังกล่าว ซึ่งตัดสินใจจัดตั้งคณะทำงานพิเศษประจำคณะกรรมการกลางพรรค เพื่อกำกับดูแลการปฏิบัติงานป้องกันและควบคุมเชื้อไวรัส
นอกจากนั้น การประชุมยังดำเนินการศึกษาและการเตรียมการในประเด็นต่างๆ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการรักษาผู้ป่วย และจะส่งคณะทำงานพิเศษไปยังมณฑลหูเป่ยทางตอนกลางของประเทศ เพื่อชี้แนวทางการปฏิบัติงานในพื้นที่
“ชีวิตคือสิ่งสำคัญสูงสุด ความรับผิดชอบของเรา คือ การป้องกันและการควบคุมเชื้อไวรัส” สี กล่าว พร้อมออกคำสั่งให้การป้องกันและการควบคุมเชื้อไวรัส เป็นพันธกิจอันดับหนึ่งของคณะกรรมการพรรค และรัฐบาลทุกระดับ
สี เน้นย้ำความสำคัญและความเร่งด่วนของการปฏิบัติงาน โดยเจ้าหน้าที่พรรค และรัฐบาลต้องปฏิบัติงาน และอยู่แนวหน้าเสมอ เพื่อรักษาความมั่นคงของสังคม และทำให้ประชาชนได้เฉลิมฉลองปีใหม่จีนอย่างสุขสงบ
การประชุมระบุว่า สีจับตามองการแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิด เขาเรียกประชุมหลายครั้ง รับฟังรายงาน และออกคำสั่งต่างๆ พร้อมเรียกร้องคณะกรรมการพรรค รัฐบาลทุกระดับ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยึดถือชีวิตและสุขภาพของประชาชนเป็นอันดับแรก
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่รัฐในหูเป่ยต้องให้ความสำคัญยิ่งยวดกับการป้องกันและการควบคุมเชื้อไวรัส รวมถึงดำเนินมาตรการเข้มงวดเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดและนำผู้ป่วยทุกคนมากักกันตัวเพื่อรับการรักษา ณ ศูนย์กลางเดียวกัน
การประชุม ยังเรียกร้องความพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส เร่งรัดการเพิ่มพูนบุคลากรทางการแพทย์ และการประสานงานทรัพยากรทางการแพทย์ระหว่างพลเรือนและกองทัพ
การปฏิบัติงานป้องกันและควบคุมเชื้อไวรัส ควรดำเนินบนทิศทางที่อ้างอิงหลักกฎหมาย หลักวิทยาศาสตร์ และความเป็นระเบียบ ขณะเดียวกัน การติดตาม การคัดกรอง และการแจ้งเตือน ล้วนเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ
การประชุม สำทับถึงการเผยแพร่ข้อมูลอย่างทันท่วงที ถูกต้องแม่นยำ และบริสุทธิ์โปร่งใส เพื่อแก้ไขข้อวิตกกังวลจากสาธารณชนทั้งในและนอกประเทศ