"โสภณ องค์การณ์"
ยุคเศรษฐกิจตายซากคนระดับรากหญ้ากำลังสิ้นไร้ไม้ตอก รากเลือดทั้งแผ่นดิน อาชญากรรมสารพัด ตัดช่องย่องเบา ลักวิ่งชิงปล้น กลายเป็นเหตุร้ายรายวัน ชาวบ้านบอกสวนดุสิตโพลว่ามีความกังวลอย่างมากในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
ถ้ายังมีทางเลือก โดยไม่ให้ผู้อื่นเดือดร้อนเกินไป ก็ใช้วิธีฆ่าตัวตายหนีทุกข์ เป็นหนทางยอมแพ้ หลังจากดูแล้วโอกาสจะมีชีวิตดีขึ้นสุดแสนจะมืดมน ยิ่งอยู่ยิ่งทุกข์
ทางเลือกยอดนิยมยุคนี้คือจุดเตาอั้งโล่ในรถยนต์ รมควันให้ตัวเองเสียชีวิต บางครอบครัวเลือกตายหมู่ ไม่เหลือให้สมาชิกคนไหนต้องทนทุกข์ วันก่อนมีครอบครัวจุดเตารมควันเสียชีวิต อีกรายหัวหน้าครอบครัวตัดสินใจสังหารหมู่ก่อนปลิดชีวิตตัวเอง
สภาพเศรษฐกิจแร้นแค้น ยากสำหรับการดำรงชีพ ทำให้คนสิ้นหวังเลือกหนทางตาย แต่ก็ยังมีหลายคนที่ยอมเสี่ยง ประกอบอาชญากรรมทั้งขโมยตู้เอทีเอ็ม ปล้นรถขนเงิน หรือเลือกเอาที่คิดว่าเป็นโอกาสเหมาะ เชื่อมั่นว่าทำแล้วจะรอดไปได้
อาชญากรรมเป็นทางเลือกสุดท้ายสำหรับคนสิ้นหนทางจะได้ทรัพย์สินเงินทอง ดังนั้นจึงมีข่าวการก่อเหตุประทุษร้ายต่อทรัพย์สิน และถึงขั้นเอาชีวิตถ้าเจ้าของทรัพย์ต่อสู้ขัดขืนเนื่องจากเสียดาย ทั้งไม่แน่ใจว่าถ้าถูกชิงไปแล้ว จะมีโอกาสได้คืน
อาชญากร ฆาตกร หรือผู้ร้ายทั่วไปจึงเป็นภัยสังคม ผู้กุมอำนาจรัฐได้แต่เพียงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าระวัง เพราะยิ่งมีอาชญากรรมมากเพียงใด ก็ฟ้องให้เห็นการไร้ความสามารถในการบริหารบ้านเมืองมากขึ้น เช่นยุคคนอกไหม้ไส้ขมดังที่เป็นอยู่
อยากจะบอกว่าใครก็ตามที่วางแผนจะประกอบอาชญากรรม เช่นการปล้นร้านทอง ธนาคาร หรือเป้าหมายซึ่งส่งผลสวยงามด้านทรัพย์สิน ขอให้เลิกคิด เว้นแต่ว่าอยากเสี่ยงเผื่อรอด ถ้าถูกจับได้ก็ขอไปอยู่ในความอนุเคราะห์ของกรมราชทัณฑ์ให้เลี้ยงดูนานๆ
ที่เตือนว่าให้เลิกคิดเพราะโอกาสรอดจากฝีมือตำรวจไทยนั้นยากมาก ไม่ว่าจะเก่งฉกาจเพียงใดก็ไม่มีทางจะหนีพ้น เว้นแต่จะเข้าเงื่อนไขพิเศษเฉพาะราย ดูกรณีผู้อำนวยการโรงเรียนในสิงห์บุรีถูกจับได้ว่าเป็นโจรปล้นร้านทอง ฆ่าคนตาย 3 ราย
ก่อนหน้านี้พยายามหลบ กลบรอยอาชญากรรม หนีตำรวจได้ประมาณ 2 สัปดาห์ สุดท้ายก็ไปไม่รอด เพราะเป็นอย่างที่ว่า ทุกอาชญากรรมย่อมทิ้งร่องรอยไว้เสมอ ตำรวจไทยฝีมือจัดจ้าน ยิ่งในคดีเกี่ยวโยงกับทรัพย์สินก้อนใหญ่ เงิน ทองคำ ก็ยิ่งมีแรงตามจับ
วันเดียวกับที่จับผู้อำนวยการโรงเรียน ก็มีเหตุปล้นธนาคารกรุงเทพในห้างโลตัส สาขาประชาอุทิศ ทุ่งครุ ได้เงินไปประมาณ 3 แสนบาท จากนั้นขี่จักรยานยนต์หนีไปได้ แต่จะหนีรอดไปได้สักกี่วัน ในเมืองมีกล้องวงจรปิดเป็นหูตามากยิ่งกว่าตาสับปะรด
มีคดีปล้นชิงทรัพย์ เพียงแค่เห็นแถบรองเท้า หรือรอยขีดบนหมวกกันน็อก ตำรวจก็ตามจับได้แล้ว สมกับคำที่ว่า “ภายไต้ดวงอาทิตย์นี้ไม่มีอะไรที่ตำรวจไทยทำไม่ได้”
คดีผู้อำนวยการโรงเรียนถือว่าผิดคาดอย่างแรง ก่อนหน้านี้ต่างเดาว่าเป็นคนในเครื่องแบบ หรือเป็นอดีตทหาร ตำรวจ มีความเชี่ยวชาญในการใช้ปืน มีอุปกรณ์พิเศษ แต่งกายโก้ ปิดมิดทุกอย่าง โดยหารู้ไม่ว่าลักษณะเช่นนั้นคือร่องรอยนำไปสู่การจับกุม
โดยสรุป อย่าคิดประกอบอาชญากรรมเด็ดขาดถ้าไม่เข้าข่ายองค์ประกอบสำคัญ การปล้นทรัพย์ไม่มีทางรอดพ้นมือตำรวจ มีหลายคดีผู้ร้ายหนีการจับกุมไปได้กว่า 10 ปี แทบจะหมดอายุความอีกไม่กี่วัน สุดท้ายก็โดนจับ เพราะตำรวจเกาะติดแบบไม่ปล่อย
บางยุคตำรวจเลี้ยงโจรเป็นสาย หรือทำตัวเป็นโจรเสียเอง หรือมีพฤติกรรมเยี่ยงโจร ถ้าไม่มีตำรวจดี ป่านนี้มีแต่โจรเต็มเมืองหมดแล้ว แต่ก็จับโจรปล้นชาติไม่ได้ง่าย
โจรปล้นทรัพย์หนีไปอยู่พม่า ลาว กัมพูชา ก็ยังไปไม่รอด ถูกหิ้วตัวมาติดคุก!
ถ้าคิดจะประกอบอาชญากรรม ต้องทำระดับชาติ กินคำโต ต้องเป็นผู้มีบารมี อิทธิพล กฎหมายเอื้อมไม่ถึง เพราะอยู่ระดับเดียวกับผู้ใช้กฎหมาย หรือเป็นผู้อยู่เหนือผู้รักษากฎหมาย ยิ่งเป็นคนในเครื่องแบบ เจ้าหน้าที่ระดับล่างไม่กล้าแตะต้อง
มีแต่ยืนตะเบ๊ะเคารพ หรือยกมือไหว้อาชญากรตัวเป้งๆ ให้เห็นกันอยู่ทุกวัน!
ต้องเป็นระดับซูปเปอร์บิ๊ก บารมีล้นพุง ถ้าเป็นคนธรรมดาต้องรวยมาก มีเครือข่ายกว้างขวางกับพวกซูเปอร์บิ๊ก นักการเมือง มีอิทธิพล และต้องอยู่ในวงจรอำนาจด้วย
เป็นบุคคลพิเศษ เช่นสวมจีวรระดับเจ้าคุณ มีความสำคัญ ถ้าถูกจับกุมจะทำให้เรื่องยุ่งยากสำหรับผู้กุมอำนาจรัฐ ปล่อยให้ไปอยู่ต่างประเทศดีกว่า ถ้าเป็นนักการเมืองร่ำรวย ก็หนีไปต่างประเทศได้ สมุนระดับกระจอกก็รอด จับมาได้ก็ไม่คุ้มค่าเครื่องบิน
ในประเทศที่มีการทุจริต คอร์รัปชั่น กินหนัก กินนาน กินยาว เงินและอำนาจทำให้อยู่รอดได้ เพราะทุกคนต้องการเงิน ตำแหน่ง หรือโอกาสก้าวหน้า คนมีอำนาจรัฐเต็มพุงจึงต้องรักษาอำนาจเพื่อไม่ต้องเข้าไปอยู่ในคุก และต้องให้ลูกน้องอยู่สืบทอดอำนาจ
ถ้าฝ่ายตรงกันข้ามได้กุมอำนาจ ดูแล้วไม่อยู่ในวิสัยเจรจาต่อรองได้ ก็ต้องหนีไปต่างประเทศ ว่ากันว่าหลายคนมีทรัพยากรพร้อมจะโยกย้ายถิ่นที่อยู่ไปต่างประเทศ ถ้าเกิดกลียุค คนสิ้นไร้ไม้ตอกถือมีดพร้ากระท้าขวานไปขอแบ่งเงินหน้าบ้านเศรษฐีมีทรัพย์
อย่านึกว่าจะไม่เกิดขึ้น ถ้าเศรษฐกิจยังตายซากจนชนชั้นกลางก็อยู่ไม่ได้!
ถ้าจะเป็นอาชญากรต้องมีเส้นสาย เครือข่าย ทุกวันนี้ใครทำผิดกฎหมาย แต่อยู่ฝ่ายเดียวกับพวกกุมอำนาจรัฐ ก็จะมีตัวช่วยยื้อเรื่องให้ล่าช้า ทำกันอย่างหน้าด้านๆ ถ้าเป็นฝ่ายตรงข้าม เช่นกำนันอิทธิพล อดีตรัฐมนตรี เครือข่าย ก็ต้องหนีไปต่างประเทศ
ข้อยกเว้นคือ ตำรวจยังไม่มีมาตรการจัดการกับคนหน้าด้านได้! ความหน้าด้านยังไม่ได้ถือว่าเป็นอาชญากรรม ทั้งๆ ที่มีพลังอิทธิพลมหาศาล เอาชนะได้แทบทุกวงการ