ประเทศไทยกำลังเผชิญวิกฤตภัยแล้งอีกรอบ ฟังว่าครั้งนี้หนักหนาสาหัสนักในรอบหลายสิบปี น้ำในเขื่อนหลักอยู่ในสภาพตื้นเขิน ภาคเกษตรได้รับผลกระทบแน่นอน การทำนาปรังไม่ต้องพูดถึง ห่วงแต่ว่าจะทำนาปีได้หรือไม่ เมื่อน้ำต้นทุนเหลือน้อย
ถ้าฤดูฝนปีนี้ทิ้งช่วงยาว หรือมีน้ำน้อย คงต้องหาทางแก้วิกฤตซ้ำเติมหนัก เพราะเกษตรกรชาวไร่ ชาวนา ไม่มีผลิตผลเพียงพอสำหรับสร้างรายได้ ใช้คืนหนี้ธนาคาร และหนี้นอกระบบ จ่ายเงินคืนให้นายทุนตกเขียวต้นฤดูได้ไม่เต็มที่แน่
จะมีชาวนาอีกกี่รายที่ต้องโบกมืออำลาโฉนดที่นาไร่เอาไปจำนองหรือขายฝากไว้กับนายทุนเงินกู้ดอกเบี้ยอัตราโหด และสถาบันการเงิน เมื่อภัยแล้งยืดเยื้อ คนจากภาคชนบทต้องดิ้นรนหาทางอยู่รอด อพยพเข้าเมืองใหญ่เพื่อหางานทำ หารายได้
ยามเศรษฐกิจเอสเอ็มอีระดับล่าง เป็นสมีตายซากรากหญ้าสิ้นสภาพอย่างทุกวันนี้ จะหางานทำ หรือทำมาหากินไม่ใช่เรื่องง่าย การจัดระเบียบสังคมยุคเผด็จการ ทหารทำให้การทำมาค้าขายข้างถนนของคนระดับรากหญ้าป่าคอนกรีตแทบไม่เหลือ
ถูกซ้ำเติมโดยภาวะเศรษฐกิจ นำไปสู่ปัญหาสังคม อาชญากรรมเป็นทางเลือกก่อนสุดท้าย การฆ่าตัวตายรมควันยกครัวเป็นทางเลือกสำหรับคนที่ไม่อยากดิ้นรนต่อสู้อีก สังคมระดับบน นักการเมือง พ่อค้านายทุน ขุนศึก ศักดินาใช้ชีวิตสุขสบาย
ว่าด้วยปัญหาภัยแล้ง สลับกับน้ำท่วม เป็นไปตามฤดูกาล ไม่มีใครคิดแก้ไขปัญหา “เชิงบูรณาการ” ตามคำขี้คุยของผู้กุมอำนาจทุกยุค เพราะวิกฤตภัยธรรมชาติชาวบ้านเดือดร้อนเป็นโอกาสทองของพวกนักการเมือง ข้าราชการ นักจัดซื้อจัดจ้าง
ยิ่งจัดซื้อจัดจ้าง งบก้อนใหญ่ตามระดับของวิกฤต ชาวบ้านเชื่อมั่นว่าเงินทอนต้องก้อนใหญ่ตามสัดส่วนตามสิทธิพึงได้พึงมีขึ้นอยู่กับตำแหน่งและศักยภาพในการโกง จัดสรรปันส่วนกับผู้มีส่วนร่วม และอนุมัติงบ ทำตัวเป็นภาระหนักแผ่นดินต่อไป
ปัญหาภัยแล้ง น้ำท่วมเกิดขึ้นทุกปี แต่ภัยที่น่ากลัวกว่าคือ “ความแห้งแล้งวิสัยทัศน์” ของผู้กุมอำนาจบริหารประเทศ และเกิดภาวะ “น้ำท่วมปาก” ของผู้เห็นปัญหา เห็นการโกงกิน แต่พูดไม่ได้ กลัวภัยจะมาถึงตัว อาชีพการงานจะสิ้นสุดง่ายๆ
เราเห็นความแห้งแล้งของห้วยหนองคลองบึง อ่างเก็บน้ำ แม่น้ำทั่วประเทศ อยู่ในสภาพตื้นเขินเหมือนวิสัยทัศน์ของผู้กุมอำนาจ ที่ผ่านมาไม่มีโครงการขุดลอกอย่างเป็นระบบอย่างจริงจัง เพื่อกักเก็บน้ำไว้ แทนการเร่งระบายลงทะเลเมื่อน้ำมาก
คลองต่างๆ ในย่านรังสิต ขุดในสมัยในหลวงรัชกาลที่ ๕ เพราะทรงมีวิสัยทัศน์กว้างไกล เป็นทั้งเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำท่วมกรุง และเก็บน้ำไว้ใช้หน้าแล้ง ไม่เคยได้รับการขุดให้ลึกเหมือนเดิม ทั้งๆ ที่มีงบประมาณ เครื่องจักรกลต่างๆ พร้อม กว่ายุคนั้น
เพียงแต่ว่าทุกขั้นตอนของงานที่จะทำให้ยุคนี้ ต้องผ่านการโกงทุกระดับ!
บึงขนาดใหญ่ในภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง รวมทั้งแม่น้ำสายหลัก เมื่อน้ำแห้ง เราได้เห็นชัดว่ามันตื้นเขินมาก กว๊านพะเยา บึงสีไฟ บึงบอระเพ็ด บึงอื่นๆ อ่างหลังเขื่อนเก็บน้ำได้ไม่มาก เพราะไม่เคยมีโครงการขุดลอก แล้ววิสัยทัศน์ดักดาน
เมื่อก้นแม่น้ำตื้นเขิน มีน้ำมากก็ทะลักขึ้นตลิ่ง สร้างปัญหาให้คนในเมืองใหญ่ นักการเมือง ผู้บริหารไร้วิสัยทัศน์ แฝงแนวคิดโกงล้ำลึก ก็ร้องเอะอะอยากสร้างเขื่อน เอาหน้าทั้งหวังจะโกงกินหัวคิวอีก คิดโกงทุกลมหายใจเข้าออก กะให้สิ้นชาตินั่นเลย!
ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงแนะให้ขุดแก้มลิงเพื่อเก็บน้ำ ทรงย้ำแล้วย้ำอีกเรื่องเกษตรอินทรีย์ เศรษฐกิจพอเพียง แต่พวกกังฉินเจ้าเล่ห์แสนกล ร้อยลิ้นกะลาวนแปลงสาร เอาไปหาช่องทางเอื้ออวยนายทุนให้ร่ำรวยรีดนาทาเร้นประชาชนไม่หยุด
ทำไมไม่สร้างเขื่อนยาง เขื่อนพร้อมประตูระบายน้ำ มีระบบให้เรือเข้าออกปากแม่น้ำเจ้าพระยา เหมือนในประเทศอื่นๆ กั้นน้ำเค็มก็ได้ กักเก็บน้ำจืดไว้ไม่ให้ไหลลงทะเลเร็วเกินไปก็ได้ แต่เราดันมีผู้กุมอำนาจไร้วิสัยทัศน์ คิดคด ยโสโอหัง ไม่ฟังใคร
กองทัพมีหน่วยทหารพัฒนา เครื่องมือ กำลังพลพร้อม ไม่มีศึกเหนือเสือใต้ที่ไหน ก็ควรจัดงบให้หน่วยทหารได้ช่วยเอาเครื่องมือกล กำลังพลไปจัดการ ไม่ใช่เรื่องยากเย็น เพียงแต่ว่าเจ้านายที่หวังดีต่อบ้านเมือง ต้องทนกับพวกเสือหิวระดับบน
อย่าให้หน่วยทหารพัฒนาเลย งบบานไม่ได้มาก สู้ให้พวกพ่อค้าประมูลไม่ได้ คอมมิชชั่นเงินใต้โต๊ะเป็นกอบเป็นกำ ไม่มีคนสอดรู้เห็นมาก ส่วนแบ่งก็เยอะด้วย ถ้าจัดเป็นระบบ พ่อค้าผู้รับเหมาเจ้าเดิมก็จะได้งานต่อเนื่อง เป็น วิน-วิน สำหรับทุกฝ่าย
ถ้าผู้กุมอำนาจรัฐ ใจซื่อ มือสะอาด มีเจตนาดีต่อบ้านเมือง ไม่คิดคดทรยศประชาชน บ้านเมืองคงไม่อยู่ในสภาพน่าอนาถดังเช่นทุกวันนี้ ซึ่งปล่อยให้สารพิษเคมีเกษตรฆ่าประชาชนแบบตายผ่อนส่ง เห็นแก่ผลประโยชน์ของพ่อค้าผู้อุปถัมภ์
ใช้อำนาจเปิดทางให้เอาขยะพิษจากกว่า 60 ประเทศทั่วโลก เข้ามาถมประเทศไทยมากกว่า 1 ล้านตัน แม้จะมีเสียงโวยวายจากประชาชนคนห่วงบ้านเมือง ผู้กุมอำนาจก็เอาหูทวนลม ไม่ใส่ใจความทุกข์ร้อน ทำตัวเป็นคนหนักแผ่นดินเสียเอง
พฤติกรรมเยี่ยงนี้ ถ้าไม่ใช่เป็นความชั่วร้ายเลวทรามบัดซบ ที่เป็นเจตนาทำลายสิ่งแวดล้อม ความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง อู่ข้าวอู่น้ำ จะให้เรียกว่าอะไร ถ้าไม่ใช่พฤติกรรมขายชาติ บ่อนทำลายความมั่นคงของประเทศ
มีทุจริตเชิงนโยบายผ่านโครงการประชานิยม ยังซ้ำเติมด้วยการทำลายแผ่นดินซึ่งควรเป็นพื้นที่ทำการเกษตร เหมาะสำหรับให้คนอยู่อาศัย ไม่ใช่การให้เปิดโรงงานกำจัดขยะพิษกระจายทั่วประเทศ แบบนี้ไม่ใช่โง่ธรรมดา เป็นความบัดซบสิ้นคิดสุดๆ!
แต่คนไทยก็ยังยอมทนกันได้จนทุกวันนี้ เหลือเชื่อ แต่ก็เป็นจริง!