xs
xsm
sm
md
lg

ครูเตือนสติลุงตู่อย่าโมโหง่าย-พูดไม่เพราะ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เมื่อเวลา 09.30 น.วานนี้ (16 ม.ค.) ที่ห้องประชุมคุรุสภา เนื่องในโอกาสวันครู พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีงานวันครู โดยกำหนดแก่นสาระว่า “โลกก้าวไกล ครูไทยก้ารวทัน สร้างสรรค์คุณภาพเด็กไทย”โดยนายกฯ ได้มอบคำขวัญวันครู พ.ศ. 2563 คือ“ครูไทย รักศิษย์ คิดพัฒนา”
ทั้งนี้เมื่อนายกฯ เดินทางถึงได้สักการะปฐมบูรพาจารย์ พิธีคารวะครูอาวุโส เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวที และน้อมรำลึกถึงพระคุณครู โดยนายกฯ ได้คารวะ ครูวีระ เดชพันธุ์ ที่เคยสอนสมัยที่นายกฯ เป็นนักเรียนโรงเรียนวัดนวลนรดิศ
ครูวีระ กล่าวว่าพล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาเรียนที่โรงเรียนวัดนวลนรดิศ เมื่อปี 2518 ในชั้น ม.2 ซึ่งโรงเรียนวัดนวลนรดิศ เป็นโรงเรียนชายล้วน นักเรียนส่วนใหญ่ในสมัยนั้น ก็มีวัตถุประสงค์ที่จะเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนเตรียมอุดม และเตรียมทหาร ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ก็สามารถเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนเตรียมทหารได้ ถือว่าเป็นคนเก่ง และ 2-3 ปี ที่เป็นนายกฯ ทำให้เราได้รู้จักเขาชัดเจนมากขึ้น รู้ว่าเขาเป็นใครมาจากไหน และเป็นคนอย่างไร ซึ่งคนที่เป็นครู ต้องรัก และปิติยินดีกับลูกศิษย์ ที่ได้ทำประโยชน์ต่อประเทศชาติ นำความภาคภูมิใจมาสู่โรงเรียน และครูอาจารย์
"ถ้าจะให้บอกในฐานะครู ก็ขอบอกว่าเราไม่เคยเห็นตัวเราเอง เพราะดูกระจกก็เห็นแค่เงา แต่ถ้ามีคนมาบอกเราให้ฟังว่า เราเป็นคนโมโหคนง่าย คุณพูดไม่เพราะ หรือคุณเป็นคนที่แสดงกิริยาท่าทางอะไรที่ไม่เหมาะสม เพราะเราไม่รู้ แต่คนที่บอกเขารู้ เขาเห็น และที่เขาบอกเรา แสดงว่าเขาได้ชี้ขุมทรัพย์ให้เรา" ครูวีระ กล่าว
ในช่วงท้าย ครูวีระ กล่าวว่าวันนี้โลกมีการเปลี่ยนแปลงสังคมมีความเจริญก้าวหน้ามีการใช้เทคโนโลยีเข้ามา ซึ่งมีความเจริญเร็วกว่าที่คนธรรมดาควรจะรู้ได้ เพราะฉะนั้นคนที่เป็นครู จะต้องมีการพัฒนาและปรับปรุงตัวเอง นำอุปกรณ์เทคโนโลยีเข้ามาใช้ ซึ่งอาจจะทำให้เด็กเข้าใจได้ดีมากกว่าเดิม คนเป็นครูจะต้องรู้เท่าทันเทคโนโลยี ต้องมีความรัก มีความปรารถนาดีต้องรักนักเรียน บุคลิกจะต้องเป็นคนที่น่ารัก น่าเคารพ คนเป็นครูต้องสอนเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย ไม่ปิดบังความรู้ ไม่ชักชวนลูกศิษย์ไปในทางที่ไม่ถูก ต้องชมเชยเมื่อเขาทำดี เมื่อมีโอกาสอันสมควรและเหมาะสม อย่างวันนี้ตนชมเชย พล.อ.ประยุทธ์ เพราะถึงเวลาที่ต้องชมเชย
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนนึกถึงพระคุณของครูเสมอมา คุณแม่ก็เป็นครูสอนหนังสือ ตนเองก็เป็นครู ภรรยาก็เป็นครู และตลอดชีวิตที่รับราชการในกองทัพมา 40 ปี ก็เป็นครูทหาร แนะนำการดำรงชีวิตและการรบ
วันนี้ได้เจอกับครูอาวุโส เป็นสิริมงคล เป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทิตา ต่อครูผู้มีพระคุณที่คอยเสริมสร้างภูมิปัญญาให้แก่ศิษย์ ด้วยความอุตสาหะ เสียสละ เพื่อให้ลูกศิษย์เจริญก้าวหน้าทางสติปัญญา มีจิตใจมีคุณธรรมในการประกอบอาชีพ ถือเป็นหน้าที่อันยิ่งใหญ่ของครู ที่เปรียบเหมือนดวงประทีปส่องทาง เป็นแบบอย่างที่ดี เพื่อให้เด็กเติบโตเป็นพลเมืองที่ดี เป็นพ่อแม่คนที่ 2
นอกจากนั้น ครูยังต้องช่วยให้ลูกศิษย์มีงานทำด้วย ในยุคสมัยนี้จบมาแล้วต้องรู้จักคิดวิเคราะห์เป็นกระบวนการ วันนี้ปัญหาสังคมมีมากมาย ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปัญหาฝุ่น ปัญหาจราจร ใครเป็นคนทำ ก่อให้เกิดปัญหาเหล่านี้ แม้กระทั่งตนเองก็ยังทำ ทุกคนทำโดยไม่รู้ตัว แต่ด้วยความจำเป็นการใช้รถ การเผาอะไรต่างๆ มีหลายส่วนที่ทำอยู่ สิ่งเหล่านี้จะแก้เป็นรูปธรรมได้ทุกคนต้องร่วมมือกัน
นอกจากนี้ คนเราต้องยึดมั่นในศีลธรรมอันดี มีหลักคิด มีทัศนคติที่ดีต่อประเทศไทย รักประเทศไทย แล้วช่วยกันพัฒนาบ้านเมือง นั่นแหละคือหน้าที่ของครู ที่จะช่วยรัฐบาลในการทำงานทุกวิถีทาง รัฐบาลก็พร้อมส่งเสริมให้อย่างเต็มกำลังเท่าที่จะสามารถดำเนินการได้ ในปัจจุบันและวันข้างหน้า ต้องทำให้เด็กเฉลียวฉลาด รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลก เพื่อนำมาพัฒฯาประเทศของเรา
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับครูในทุกด้าน และพยายามจะส่งเสริมการศึกษาและความรู้ของครูให้เปิดกว้าง ก้าวทันโลก นอกจากนี้ ก็จะมีการให้ทุนเรียนในสาขาที่สอนอยู่ ส่งไปอบรมในเรื่องที่สนใจเพื่อพัฒนาให้ก้าวหน้าอยู่เสมอ
" สมองมีอยู่ 84,000 เซลล์ ไม่มีคอมพิวเตอร์ไหนเก่งเท่าสมองเรา ไม่ใช่สมองผมคนเดียว สมองท่านด้วย อย่าให้มันใช้งานไม่ครบ บางคนใช้ข้างเดียว หรือใช้แค่ข้างหน้า ข้างหลัง หรือข้างๆ มันมีคนละหน้าที่อยู่แล้ว ใช้ให้ครบ ไม่งั้นสมองก็จะฝ่อหมด" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น