"บิ๊กแป๊ะ" ลงพื้นที่ลพบุรี ติดตามคดีฆ่าชิงทรัพย์ร้านทอง คาดเป็นทหารนอกราชการ มอบหมาย "พล.ต.อ.ชัยวัฒน์" รอง ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าทีมสืบสวน สอบสวน ติดตามจับกุมคนร้าย รองโฆษก ตร. วอนอย่าแต่งกายเลียนแบบคนร้าย หวั่นเกิดการเข้าใจผิด ด้าน ผบก.ภ.จว.ลพบุรี เผยยังไม่ชัดว่าคนร้ายเป็นทหาร หรือนักกีฬา มั่นใจเร็วๆ นี้ จับกุมตัวได้แน่ "บิ๊กเล็ก" รองผบ.ทบ. เผย "บิ๊กแดง" กำชับให้ความร่วมมือตำรวจเต็มที่
จากกรณีที่คนร้ายสวมหมวกไอ้โม่ง ใช้อาวุธปืนพร้อมที่เก็บเสียงบุกเข้าไปในร้านทองออโรร่า ภายในศูนย์การค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์เซ็นเตอร์ ลพบุรี อ.เมืองฯ จ.ลพบุรี กราดยิงลูกค้า และพนักงานระหว่างให้บริการ และกวาดทองรูปพรรณใส่กระเป๋าสะพายสีแดงคาดขาว ก่อนเดินออกจากห้างฯ ใช้รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟีโน่ สีขาวแดง หลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 20.44 น. วันที่ 9 ม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บสาหัส 4 ราย
ทั้งนึ้ ผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย ได้แก่ ด.ช.ภานุวิชญ์ หรือ น้องไทตัล วงศ์อยู่ อายุ 2 ขวบ ที่ตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ที่ วัดหัวช้าง ต.ท่าศาลา อ.เมืองฯ จ.ลพบุรี จะทำการฌาปนกิจ นที่ 13 ม.ค.63 ในเวลา 16.00 น. , น.ส.ธิดารัตน์ ทองทิพย์ อายุ 31 ปี พนักงานร้านทอง ที่ตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ที่วัดศรีธรรมโสภณ ต.นิคมสร้างตนเอง อ.เมืองฯ จ.ลพบุรี ทำการฌาปนกิจ วันที่ 13 ม.ค.63 เวลา 16.00 น. และ ศพของนายธีรฉัตร นิ่มมา อายุ 33 ปี เจ้าหน้าที่ รปภ.ห้างโรบินสัน ที่ตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ที่ วัดบ่อเงินเจริญสุข ต.โพธิ์เก้าต้น อ.เมืองฯ จ.ลพบุรี จะทำการฌาปนกิจไปแล้วเมื่อวันที่ 12 ม.ค.
ล็อกเป้าผู้ร้ายทหารนอกราชการ
วานนี้ (12 ม.ค.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้เดินทางไปยังจังหวัดลพบุรี โดยมี พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร พผช.ภ.1 และนายตำรวจระดับสูงให้การต้อนรับ พร้อมเข้าร่วมประชุมกับทีมสืบสวนที่สถานีตำรวจท่องเที่ยวลพบุรี ทั้งนี้ จากการเปิดเผยเบื้องต้นของแหล่งข่าว หลังการประชุมกว่า 1 ชั่วโมง พบว่าจาการตรวจสอบข้อมูลของทีมสืบสวนตามสถานที่ต่างๆ ทำให้เป้าหมายของผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ เป็นชาย อายุ 35-40 ปี ความสูงประมาณ 165-168 ซม. และอาจเป็นทหารนอกราชการ ที่ได้รับการฝึกใช้อาวุธปืนพกสั้นและยุทธวิธีอย่างชำนาญ
ด้านพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. กล่าวว่า เมื่อวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้นำคณะลงพื้นที่ จ.ลพบุรี เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี ไปครั้งหนึ่งแล้ว อีกทั้งได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รอง ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ในการสืบสวนสอบสวน ติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ ซึ่งก็มีการรายงานความคืบหน้ามาเป็นระยะ ส่วนรายละเอียดคงไม่สามารถเปิดเผยได้มาก เนื่องจากอยู่ระหว่างการสืบสวน และเร่งทำงานของเจ้าหน้าที่
" ขอให้เชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ระดมสรรพกำลังของทุกหน่วยในการติดตามจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว คดีนี้ ผบ.ตร. ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกนาย ใช้ความระมัดระวังเนื่องจากคนร้ายมีอาวุธปืน และก่อเหตุอุกฉกรรจน์ หากมีการต่อสู้เจ้าหน้าที่ก็จำเป็นที่จะต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดตามหลักยุทธวิธี และระดับการใช้กำลัง ความคืบหน้าในคดีนั้น ก็คงจะมีการรายงานให้ทราบเป็นระยะ โดยมีการสอบพยานที่เกี่ยวข้องไปแล้วหลายปาก รอผลการตรวจทางนิติวิทยาศาตร์ในทุกมิติ ที่เกี่ยวข้องมาประกอบคดี" รองโฆษก ตร.กล่าว และว่า ผบ.ตร. ขอให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่คณะทำงานทุกภาคส่วน พร้อมทั้งขอความร่วมมือภาคประชาชน หากมีข้อมูลเบาะแส สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ตลอด 24 ชม. และมีรางวัลให้สำหรับผู้แจ้งเบาะแส
เตือนอย่าแต่งกานเลียนแบบคนร้าย
สำหรับประเด็นเรื่องการแต่งกายเลียนแบบคนร้ายนั้น ตนก็ไม่เห็นด้วย สอดคล้องกับชาวโซเชียลฯ ที่มีความเห็นว่า การกระทำดังกล่าวนั้น ไม่เหมาะสม ก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าทำไมถึงทำแบบนี้ แทนที่จะช่วยกันหาเบาะแส เพื่อนำไปสู่การจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะเป็นประโยชน์มากกว่าและอยากให้ผู้ที่กระทำคำนึงถึงความรู้สึกของญาติผู้บาดเจ็บ ผู้เสียชีวิต หากเป็นญาติท่านจะรู้สึกอย่างไร ไม่ควรนำเอาความสูญเสียมาทำเป็นเรื่องล้อเล่น
"ขอฝากเตือนไปยังกลุ่มวัยรุ่นเยาวชน หรือผู้ใดก็ตาม ที่มีความคึกคะนอง แต่งกายเลียนแบบคนร้ายที่ก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งอาจก่อให้เกิดความสับสน หรือเข้าใจผิด ต่อเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ ที่ตามหาตัวคนร้ายในขณะนี้ อีกทั้งการกระทำในลักษณะเช่นนี้ เป็นการกระทำที่ทำให้ประชาชนทั่วไป ตกใจกลัว เกิดความหวาดระแวง เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม อยากให้แสดงออกในเชิงที่สร้างสรรค์เกิดประโยชน์กับสังคมโดยรวมมากกว่า" รองโฆษก ตร.ระบุ
พร้อมกันนี้ขอความร่วมมือทุกหน่วยงาน ประชาชนทุกคน หากใครพบเบาะแส มีข้อมูลของคนร้ายที่ก่อเหตุ สามารถแจ้งมาได้ที่หมายเลข 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชม.
ด้าน พล.ต.ต.ณัฐพล ศุกระศร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี (ผบก.ภ.จว.ลพบุรี) กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุมีเพียงคนเดียว แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นทหาร หรือนักกีฬา ตามที่สังคมตั้งข้อสังเกต และยอมรับว่าคนร้ายได้มีการเตรียมตัวมาก่อเหตุเป็นอย่างดี ทางตำรวจจึงทำให้ต้องใช้เวลาการรวบรวมพยาน หลักฐาน เพื่อที่จะติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ได้มีการสอบปากคำพยานไปแล้ว 10 ปาก พร้อมกับออกตรวจเส้นทาง และภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นที่คนร้ายหลบหนีทุกเส้นทาง คาดว่าน่าจะได้ตัวในไม่ช้า
สำหรับการดูแลความปลอดภัยของพยาน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่คอยเฝ้าดูแลความปลอดภัยของพยานทุกคน
รายงานข่าวแจ้งว่า ทางพนักงานสืบสวนสอบสวน เตรียมประสานไปยังผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธปืน จากทีมงานรายการแฟนพันธุ์แท้ มาช่วยวิเคราะห์ภาพอาวุธปืนของคนร้าย เพื่อนำไปตรวจสอบข้อมูลว่า ปืนรุ่นนี้อยู่ในความครอบครองของใครบ้าง ส่วนกระบอกเก็บเสียง ที่เป็นอุปกรณ์เสริมของปืนนั้น เบื้องต้นคาดว่า น่าจะเป็นแบบไทยประดิษฐ์ แต่มีการปรับแต่ง ยิงเลเซอร์สลักตัวหนังสือลงบนตัวกระบอก เพื่อให้มีลักษณะคล้ายกับของยี่ห้อดัง ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูล พบว่าในเมืองไทยมีร้านรับผลิต และจำหน่ายกระบอกเก็บเสียงแบบนี้ ไม่กี่แห่ง ส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ จ.ลพบุรี ชลบุรี และ กทม.
หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบว่า กระบอกเก็บเสียงที่คนร้ายใช้นั้น จำหน่ายที่ร้านใดบ้าง และใครบ้างที่มาติดต่อซื้อไปใช้ เพราะปกติอุปกรณ์เสริมอาวุธเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะมีครอบครองในกลุ่มของคนที่ชื่นชอบอาวุธปืนเป็นพิเศษ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้หากได้มา จะช่วยในการสืบหาตัวคนร้ายได้อีกช่องทางหนึ่ง
“บิ๊กแดง” กำชับทุกหน่วยให้ความร่วมมือตร.
พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รอง ผบ.ทบ. กล่าวถึงกรณีที่โซเชียลฯ ตั้งข้อสังเกตว่า คนร้ายที่ก่อเหตุฆ่าชิงทองกลางห้าง มีลักษณะการแต่งกาย และมีความชำนาญการใช้อาวุธปืนคล้ายทหารว่า ดูจากเหตุการณ์ ก็มีแนวโน้มที่ทำให้คิดไปแบบนั้นได้ ซึ่งปัจจุบันคนหลากหลายอาชีพบางครั้งก็ยิงปืนแม่นกว่า และได้รับการฝึกในรูปแบบที่คล้ายกับทหาร ซึ่งก็มีแนวโน้ม แต่ขณะนี้ยังไม่เชื่อ 100 เปอร์เซ็นต์ว่า เป็นคนในเครื่องแบบ ต้องรอการพิสูจน์ทราบจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ก็ได้ให้หน่วยทหารในพื้นที่ สนับสนุนการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเต็มที่ และหากคนร้ายหนีเข้าไปในค่ายทหาร ก็พร้อมให้ตรวจสอบ เพราะพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. กำชับให้ทุกหน่วยสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในทุกเรื่อง หากเจ้าหน้าที่ตำรวจขอความร่วมมือมา
จากกรณีที่คนร้ายสวมหมวกไอ้โม่ง ใช้อาวุธปืนพร้อมที่เก็บเสียงบุกเข้าไปในร้านทองออโรร่า ภายในศูนย์การค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์เซ็นเตอร์ ลพบุรี อ.เมืองฯ จ.ลพบุรี กราดยิงลูกค้า และพนักงานระหว่างให้บริการ และกวาดทองรูปพรรณใส่กระเป๋าสะพายสีแดงคาดขาว ก่อนเดินออกจากห้างฯ ใช้รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟีโน่ สีขาวแดง หลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 20.44 น. วันที่ 9 ม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บสาหัส 4 ราย
ทั้งนึ้ ผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย ได้แก่ ด.ช.ภานุวิชญ์ หรือ น้องไทตัล วงศ์อยู่ อายุ 2 ขวบ ที่ตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ที่ วัดหัวช้าง ต.ท่าศาลา อ.เมืองฯ จ.ลพบุรี จะทำการฌาปนกิจ นที่ 13 ม.ค.63 ในเวลา 16.00 น. , น.ส.ธิดารัตน์ ทองทิพย์ อายุ 31 ปี พนักงานร้านทอง ที่ตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ที่วัดศรีธรรมโสภณ ต.นิคมสร้างตนเอง อ.เมืองฯ จ.ลพบุรี ทำการฌาปนกิจ วันที่ 13 ม.ค.63 เวลา 16.00 น. และ ศพของนายธีรฉัตร นิ่มมา อายุ 33 ปี เจ้าหน้าที่ รปภ.ห้างโรบินสัน ที่ตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ที่ วัดบ่อเงินเจริญสุข ต.โพธิ์เก้าต้น อ.เมืองฯ จ.ลพบุรี จะทำการฌาปนกิจไปแล้วเมื่อวันที่ 12 ม.ค.
ล็อกเป้าผู้ร้ายทหารนอกราชการ
วานนี้ (12 ม.ค.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้เดินทางไปยังจังหวัดลพบุรี โดยมี พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร พผช.ภ.1 และนายตำรวจระดับสูงให้การต้อนรับ พร้อมเข้าร่วมประชุมกับทีมสืบสวนที่สถานีตำรวจท่องเที่ยวลพบุรี ทั้งนี้ จากการเปิดเผยเบื้องต้นของแหล่งข่าว หลังการประชุมกว่า 1 ชั่วโมง พบว่าจาการตรวจสอบข้อมูลของทีมสืบสวนตามสถานที่ต่างๆ ทำให้เป้าหมายของผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ เป็นชาย อายุ 35-40 ปี ความสูงประมาณ 165-168 ซม. และอาจเป็นทหารนอกราชการ ที่ได้รับการฝึกใช้อาวุธปืนพกสั้นและยุทธวิธีอย่างชำนาญ
ด้านพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. กล่าวว่า เมื่อวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้นำคณะลงพื้นที่ จ.ลพบุรี เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี ไปครั้งหนึ่งแล้ว อีกทั้งได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รอง ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ในการสืบสวนสอบสวน ติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ ซึ่งก็มีการรายงานความคืบหน้ามาเป็นระยะ ส่วนรายละเอียดคงไม่สามารถเปิดเผยได้มาก เนื่องจากอยู่ระหว่างการสืบสวน และเร่งทำงานของเจ้าหน้าที่
" ขอให้เชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ระดมสรรพกำลังของทุกหน่วยในการติดตามจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว คดีนี้ ผบ.ตร. ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกนาย ใช้ความระมัดระวังเนื่องจากคนร้ายมีอาวุธปืน และก่อเหตุอุกฉกรรจน์ หากมีการต่อสู้เจ้าหน้าที่ก็จำเป็นที่จะต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดตามหลักยุทธวิธี และระดับการใช้กำลัง ความคืบหน้าในคดีนั้น ก็คงจะมีการรายงานให้ทราบเป็นระยะ โดยมีการสอบพยานที่เกี่ยวข้องไปแล้วหลายปาก รอผลการตรวจทางนิติวิทยาศาตร์ในทุกมิติ ที่เกี่ยวข้องมาประกอบคดี" รองโฆษก ตร.กล่าว และว่า ผบ.ตร. ขอให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่คณะทำงานทุกภาคส่วน พร้อมทั้งขอความร่วมมือภาคประชาชน หากมีข้อมูลเบาะแส สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ตลอด 24 ชม. และมีรางวัลให้สำหรับผู้แจ้งเบาะแส
เตือนอย่าแต่งกานเลียนแบบคนร้าย
สำหรับประเด็นเรื่องการแต่งกายเลียนแบบคนร้ายนั้น ตนก็ไม่เห็นด้วย สอดคล้องกับชาวโซเชียลฯ ที่มีความเห็นว่า การกระทำดังกล่าวนั้น ไม่เหมาะสม ก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าทำไมถึงทำแบบนี้ แทนที่จะช่วยกันหาเบาะแส เพื่อนำไปสู่การจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะเป็นประโยชน์มากกว่าและอยากให้ผู้ที่กระทำคำนึงถึงความรู้สึกของญาติผู้บาดเจ็บ ผู้เสียชีวิต หากเป็นญาติท่านจะรู้สึกอย่างไร ไม่ควรนำเอาความสูญเสียมาทำเป็นเรื่องล้อเล่น
"ขอฝากเตือนไปยังกลุ่มวัยรุ่นเยาวชน หรือผู้ใดก็ตาม ที่มีความคึกคะนอง แต่งกายเลียนแบบคนร้ายที่ก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งอาจก่อให้เกิดความสับสน หรือเข้าใจผิด ต่อเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ ที่ตามหาตัวคนร้ายในขณะนี้ อีกทั้งการกระทำในลักษณะเช่นนี้ เป็นการกระทำที่ทำให้ประชาชนทั่วไป ตกใจกลัว เกิดความหวาดระแวง เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม อยากให้แสดงออกในเชิงที่สร้างสรรค์เกิดประโยชน์กับสังคมโดยรวมมากกว่า" รองโฆษก ตร.ระบุ
พร้อมกันนี้ขอความร่วมมือทุกหน่วยงาน ประชาชนทุกคน หากใครพบเบาะแส มีข้อมูลของคนร้ายที่ก่อเหตุ สามารถแจ้งมาได้ที่หมายเลข 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชม.
ด้าน พล.ต.ต.ณัฐพล ศุกระศร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี (ผบก.ภ.จว.ลพบุรี) กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุมีเพียงคนเดียว แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นทหาร หรือนักกีฬา ตามที่สังคมตั้งข้อสังเกต และยอมรับว่าคนร้ายได้มีการเตรียมตัวมาก่อเหตุเป็นอย่างดี ทางตำรวจจึงทำให้ต้องใช้เวลาการรวบรวมพยาน หลักฐาน เพื่อที่จะติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ได้มีการสอบปากคำพยานไปแล้ว 10 ปาก พร้อมกับออกตรวจเส้นทาง และภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นที่คนร้ายหลบหนีทุกเส้นทาง คาดว่าน่าจะได้ตัวในไม่ช้า
สำหรับการดูแลความปลอดภัยของพยาน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่คอยเฝ้าดูแลความปลอดภัยของพยานทุกคน
รายงานข่าวแจ้งว่า ทางพนักงานสืบสวนสอบสวน เตรียมประสานไปยังผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธปืน จากทีมงานรายการแฟนพันธุ์แท้ มาช่วยวิเคราะห์ภาพอาวุธปืนของคนร้าย เพื่อนำไปตรวจสอบข้อมูลว่า ปืนรุ่นนี้อยู่ในความครอบครองของใครบ้าง ส่วนกระบอกเก็บเสียง ที่เป็นอุปกรณ์เสริมของปืนนั้น เบื้องต้นคาดว่า น่าจะเป็นแบบไทยประดิษฐ์ แต่มีการปรับแต่ง ยิงเลเซอร์สลักตัวหนังสือลงบนตัวกระบอก เพื่อให้มีลักษณะคล้ายกับของยี่ห้อดัง ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูล พบว่าในเมืองไทยมีร้านรับผลิต และจำหน่ายกระบอกเก็บเสียงแบบนี้ ไม่กี่แห่ง ส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ จ.ลพบุรี ชลบุรี และ กทม.
หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบว่า กระบอกเก็บเสียงที่คนร้ายใช้นั้น จำหน่ายที่ร้านใดบ้าง และใครบ้างที่มาติดต่อซื้อไปใช้ เพราะปกติอุปกรณ์เสริมอาวุธเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะมีครอบครองในกลุ่มของคนที่ชื่นชอบอาวุธปืนเป็นพิเศษ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้หากได้มา จะช่วยในการสืบหาตัวคนร้ายได้อีกช่องทางหนึ่ง
“บิ๊กแดง” กำชับทุกหน่วยให้ความร่วมมือตร.
พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รอง ผบ.ทบ. กล่าวถึงกรณีที่โซเชียลฯ ตั้งข้อสังเกตว่า คนร้ายที่ก่อเหตุฆ่าชิงทองกลางห้าง มีลักษณะการแต่งกาย และมีความชำนาญการใช้อาวุธปืนคล้ายทหารว่า ดูจากเหตุการณ์ ก็มีแนวโน้มที่ทำให้คิดไปแบบนั้นได้ ซึ่งปัจจุบันคนหลากหลายอาชีพบางครั้งก็ยิงปืนแม่นกว่า และได้รับการฝึกในรูปแบบที่คล้ายกับทหาร ซึ่งก็มีแนวโน้ม แต่ขณะนี้ยังไม่เชื่อ 100 เปอร์เซ็นต์ว่า เป็นคนในเครื่องแบบ ต้องรอการพิสูจน์ทราบจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ก็ได้ให้หน่วยทหารในพื้นที่ สนับสนุนการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเต็มที่ และหากคนร้ายหนีเข้าไปในค่ายทหาร ก็พร้อมให้ตรวจสอบ เพราะพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. กำชับให้ทุกหน่วยสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในทุกเรื่อง หากเจ้าหน้าที่ตำรวจขอความร่วมมือมา