นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ขณะนี้ กมธ.วิสามัญฯได้พิจารณาปรับลดงบประมาณรายจ่ายปี 2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท จำนวน 55 มาตรา ที่มีนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เป็นประธานกมธ. เสร็จเรียบร้อยแล้วในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา รอนำเข้าสู่การพิจารณาสภาผู้แทนราษฎร ในวาระ 2-3 ระหว่างวันที่ 8-9 ม.ค.63 โดย กมธ.ได้พิจารณาปรับลดงบฯ ลงไปทั้งสิ้น 16,231 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามในส่วนของกมธ.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย หลายคนขอสงวนความเห็นในฐานะกมธ. เพื่อนำไปอภิปรายวาระ2-3 ในภาพรวม โดยจะขอปรับลดงบประมาณของกระทรวงต่างๆ ลง10-15% แต่จะไม่ปรับลดงบประ มาณในส่วนที่เกี่ยวข้องกับหมวดของสถาบันฯ เนื่องจากเห็นว่างบประมาณรายจ่ายปี 2563 กว่าจะผ่านขั้นตอนความเห็นชอบจากวุฒิสภา และรอดูจะมีผู้ร้องว่ามีเนื้อหาขัดต่อรัฐธรรมนูญ หรือไม่ ดูแล้วน่าจะมีผลบังคับใช้ได้ประมาณปลายเดือนก.พ. หรือต้นมี.ค.63 เท่ากับมีระยะเวลาการใช้งบประมาณเหลือแค่ 7 เดือน จึงไม่สมควรตั้งงบไว้ตามปกติ จะต้องปรับลดงบลงมาตามระยะเวลาการใช้งบประมาณที่ลดลง
ทั้งนี้ ในส่วนของตน จะขอสงวนความเห็นตัดลดงบประมาณในส่วนเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นจาก 96,000 ล้านบาท เหลือ 56,000 ล้านบาท ตัดงบไปทั้งสิ้น 40,000 ล้านบาทเนื่องจากเหลือระยะเวลาการใช้งบรายจ่ายปี 63 แค่ 7 เดือน จึงไม่ควรตั้งงบไว้เต็มจำนวนที่ 9.6 หมื่นล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับร่าง พ.ร.บ.บประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 วาระ2-3 นั้น มีกมธ. สงวนความเห็น 25คน และมีส.ส. สงวนความเห็น 146คน โดยหน่วยงานที่ถูกกมธ.ปรับลดงบประมาณรายจ่ายปี 2563 มากที่สุด 3 อันดับแรกได้แก่ 1.กระทรวงกลาโหม ถูกตัดลดงบประมาณ1,518,272,500 บาท จาก 125,918,522,500 บาท เหลือ 124,400,250,000 บาท 2.กระทรวงสาธารณสุข ถูกตัดงบประมาณ 1,318,310,800 บาท จาก 28,049,048,300 บาท เหลือ 26,730,737, 500 3. กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ถูกตัดลดงบประมาณ1,147,479,100บาท จาก 49,037, 823,700 บาท เหลือ 47,890,344,600 บาท
ทั้งนี้ กมธ.ตั้งข้อสังเกตการใช้งบประมาณรายจ่ายของกระทรวงกลาโหมว่า ควรให้ความสำคัญกับกำลังพลในเชิงคุณภาพมากกว่าปริมาณ โดยควรใช้วิธีรับสมัครแทนการเกณฑ์ทหาร เพื่อให้คัดเลือกบุคคลที่มีความสามารถ มีคุณภาพสอดคล้องกับความต้องการกำลังพล
อย่างไรก็ตามในส่วนของกมธ.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย หลายคนขอสงวนความเห็นในฐานะกมธ. เพื่อนำไปอภิปรายวาระ2-3 ในภาพรวม โดยจะขอปรับลดงบประมาณของกระทรวงต่างๆ ลง10-15% แต่จะไม่ปรับลดงบประ มาณในส่วนที่เกี่ยวข้องกับหมวดของสถาบันฯ เนื่องจากเห็นว่างบประมาณรายจ่ายปี 2563 กว่าจะผ่านขั้นตอนความเห็นชอบจากวุฒิสภา และรอดูจะมีผู้ร้องว่ามีเนื้อหาขัดต่อรัฐธรรมนูญ หรือไม่ ดูแล้วน่าจะมีผลบังคับใช้ได้ประมาณปลายเดือนก.พ. หรือต้นมี.ค.63 เท่ากับมีระยะเวลาการใช้งบประมาณเหลือแค่ 7 เดือน จึงไม่สมควรตั้งงบไว้ตามปกติ จะต้องปรับลดงบลงมาตามระยะเวลาการใช้งบประมาณที่ลดลง
ทั้งนี้ ในส่วนของตน จะขอสงวนความเห็นตัดลดงบประมาณในส่วนเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นจาก 96,000 ล้านบาท เหลือ 56,000 ล้านบาท ตัดงบไปทั้งสิ้น 40,000 ล้านบาทเนื่องจากเหลือระยะเวลาการใช้งบรายจ่ายปี 63 แค่ 7 เดือน จึงไม่ควรตั้งงบไว้เต็มจำนวนที่ 9.6 หมื่นล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับร่าง พ.ร.บ.บประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 วาระ2-3 นั้น มีกมธ. สงวนความเห็น 25คน และมีส.ส. สงวนความเห็น 146คน โดยหน่วยงานที่ถูกกมธ.ปรับลดงบประมาณรายจ่ายปี 2563 มากที่สุด 3 อันดับแรกได้แก่ 1.กระทรวงกลาโหม ถูกตัดลดงบประมาณ1,518,272,500 บาท จาก 125,918,522,500 บาท เหลือ 124,400,250,000 บาท 2.กระทรวงสาธารณสุข ถูกตัดงบประมาณ 1,318,310,800 บาท จาก 28,049,048,300 บาท เหลือ 26,730,737, 500 3. กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ถูกตัดลดงบประมาณ1,147,479,100บาท จาก 49,037, 823,700 บาท เหลือ 47,890,344,600 บาท
ทั้งนี้ กมธ.ตั้งข้อสังเกตการใช้งบประมาณรายจ่ายของกระทรวงกลาโหมว่า ควรให้ความสำคัญกับกำลังพลในเชิงคุณภาพมากกว่าปริมาณ โดยควรใช้วิธีรับสมัครแทนการเกณฑ์ทหาร เพื่อให้คัดเลือกบุคคลที่มีความสามารถ มีคุณภาพสอดคล้องกับความต้องการกำลังพล