คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ฯ งบประมาณ และคณะอนุกรรมาธิการ มีมติ คืน“งบวิจัย 8 พันล้าน” แก่กองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สกสว. หลัง งบวิจัยโดนหั่น 8 พันล้านบาท
แหล่งข่าวระดับสูงที่รัฐสภา เปิดเผยเมื่อเร็วๆ นี้ว่า คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 สภาผู้แทนราษฎร มีมติให้คืนงบกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กองทุน ววน.) 8,000 พันล้าน แก่กองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หลัง สกสว. เข้าชี้แจ้งข้อมูลเพิ่มเติม โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านล้วนเล็งเห็นความสำคัญด้านงบประมาณการวิจัย ต่างเสนอให้ประธานมีมติคืนงบประมาณวิจัยครั้งนี้
สืบเนื่องจากที่ คณะอนุกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ซึ่งมีมติปรับลดงบประมาณกองทุน ววน. ปี 2563 ไปจำนวน 8,000 ล้านบาท จากเดิมที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ 12,554 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 63.7 ของงบประมาณกองทุนฯ เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา
จากกรณีดังกล่าว แหล่งข่าวคนเดียวกัน เปิดเผยว่า ปัญหาเกิดจากความไม่เข้าใจในบทบาทหน้าที่ ของ สกสว.ที่เปลี่ยนจากหน่วยงานให้ทุนวิจัย ที่เดิมเป็น สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) มาเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่เชิงนโยบาย คือ ทำหน้าที่จัดทำแผน และ การจัดสรรงบประมาณด้านการวิจัยในระบบ ววน. ผ่านกองทุน ววน. ประกอบกับปีนี้เป็นปีแรกของการเปลี่ยนแปลงทางด้านระบบการวิจัย ตามเจตนารมณ์ของ ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ที่จะปฏิรูประบบวิจัยประเทศไทย เพื่อลดความซ้ำซ้อนการจัดสรรงบประมาณการวิจัย ไม่ให้เป็นเบี้ยหัวแตก เช่นเดียวกับการปรับเปลี่ยนบทบาทของ สกสว.
ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการเมืองหรือไม่นั้น แหล่งข่าวระดับสูง กล่าวว่า มิเชล ฟูโกต์ กล่าวไว้ ไม่มีที่ใด ไม่มีการเมือง และก็มีทั้งการเมืองภายนอกและภายใน จนบางครั้งการเมืองก็อยู่เหนือเหตุผล แต่อย่างไรก็ดีสถานการณ์ที่เป็นอยู่กำลังถูกคลี่คลาย ทั้งในส่วนของการทำหน้าที่การนำเสนอข้อมูลประกอบคำชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการฯและคณะอนุกรรมาธิการฯ ของ สกสว. และ การทำความเข้าใจถึงบทบาทหน้าที่ของหน่วยงานในระบบ ววน. สิ่งเหล่านี้ทำให้บรรยากาศการทำงานร่วมกันนั้นดีขึ้น
