xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวปนคน คนปนข่าว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ข่าวปนคน คนปนข่าว

**อนาคตใหม่ของอนาคตใหม่ "ยุบพรรคนี้...ก็มีพรรคใหม่ "คดีอิลลูมินาติ”จ่อคอพาดเขียงอีก หลังศาลรัฐธรรมนูญตีตกคำร้องขอไต่สวนพยานนับถอยหลังวินิจฉัย"ยุบพรรค"

ก่อนนี้โฟกัสกันที่ กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นเรื่องให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ จากที่ “พ่อฟ้า”ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค ปล่อยเงินกู้ให้กับพรรคตัวเอง 191 ล้านบาท ส่อขัดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วย พรรคการเมือง ตอนนี้อยู่ระหว่างศาลรธน. จะพิจารณารับคำร้อง
ล่าสุดมาเป็น "คดีอิลลูมินาติ”หรือ ข้อกล่าวหาพรรคอนาคตใหม่เป็นปฏิปักษ์-ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
เรียกว่า คดีไหลมาเทมา ไม่นับรวมคดี "แฟลชม็อบ"ที่ อยู่ระหว่างขั้นตอนของตำรวจเดินหน้าดำเนินคดี ซึ่งตอนนี้ข่าวว่ามีหมายเรียกออกมาแล้ว
พรรคอนาคตใหม่ ออกมาเปิดเผย ผ่านเฟซบุ๊กว่า เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.62 ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งไม่รับคำร้องของพรรคอนาคตใหม่ ในฐานะผู้ถูกร้อง ที่ขอให้เปิดไต่สวนพยาน ในคดีที่"นายณฐพร โตประยูร" ได้ยื่นร้องศาลรัฐธรรมนูญ ให้ตัดสิทธิ และยุบพรรคอนาคตใหม่ เนื่องจากเป็นปฏิปักษ์-ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และหลังจากนี้จะเหลือเพียงขั้นตอนสุดท้าย คือ ศาลรัฐธรรมนูญ จะนัดวันอ่านคำวินิจฉัยคดีดังกล่าว
พรรคอนาคตใหม่ ระบุว่า ร่วมจับตาการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญต่อไป พร้อมทั้งเผยแพร่ความเป็นมาของคดีดังกล่าว ผ่านเฟซบุ๊ก
คดีนี้ศาลรัฐธรรมนูญ ออกหนังสือแจ้งผู้ร้อง นายณฐพร โตประยูร และผู้ถูกร้อง พรรคอนาคตใหม่ "นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" "นายปิยบุตร แสงกนกกุล" และคณะกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ ในวันเดียวกันแล้วเช่นกัน
"ณฐพร" ได้ยื่นคำร้องเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 ว่า การกระทำของ นายธนาธร นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ และกรรมการบริหารพรรค เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือไม่ โดยศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้องเมื่อ 19 ก.ค.62
หนังสือของศาลรัฐธรรมนูญ ระบุว่า ตามที่ผู้ร้องได้ยื่นคำร้องให้พิจารณาวินิจฉัยกรณีของผู้ถูกร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยศาลรัฐธรรมนูญ สั่งรับคำร้องไว้พิจารณาแล้ว และผู้ถูกร้องทั้งสี่ ได้ยื่นคำร้องขอให้ไต่สวนพยานและคำร้องขอยื่นบัญชีระบุพยาน ฉบับ ลงวันที่ 22 พ.ย.62 นั้น ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่า คดีมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ โดยไม่จำต้องทำการไต่สวน ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 58 วรรคหนึ่ง จึงมีคำสั่งไม่รับคำร้องขอ ทั้งสองฉบับดังกล่าว
ต้องติดตามต่อไปอย่างไม่กะพริบตาว่า "พรรคอนาคตใหม่" ที่ส่อแววว่ากำลังจะหมดอนาคต จะหาอนาคตใหม่ไปทางไหน แต่ที่แน่ๆ "ช่อ" พรรณิการ์ วานิช โฆษกของพรรค บอกเลย ...ไม่แคร์
"ช่อ" บอกว่า "ความหวังเราไม่ได้อยู่ที่พรรคถูกยุบ หรือไม่ แต่ถ้าประชาชนไม่ยอมแพ้ เราก็ไม่ยอมแพ้ ยุบพรรคนี้ ก็มีพรรคใหม่...”
นั่นก็แปลว่า อนาคตใหม่ของอนาคตใหม่จริงๆ ก็คือ เปิดพรรคใหม่ไปเรื่อยๆ ยุบพรรคนี้...ก็มีพรรคใหม่
แว่วว่า เตรียมพร้อมเต็มที่ ทั้งชื่อพรรค หัวหน้าพรรค
ยุบพรรค ณ ตอนนี้ หรือตอนไหน จึงไม่น่าจะเป็นปัญหาของ "ธนาธรและเพื่อน" แต่ยังไงก็อยากฝาก "พ่อฟ้า" ธนาธร คู่หู "ปิยบุตร" และ "ช่อ" จับยามสามตา ปรึกษาซินแสซะหน่อยก็ดี
เขาว่า ที่อนาคตใหม่เป็นอย่างนี้ เพราะ โลโก้พรรคเป็น "สามเหลี่ยม" จึงมีแต่เรื่องทิ่มแทงตัวเอง หรือเปล่า
บางเรื่องที่ทิ่มเข้ามารุนแรงถึงขั้นจะยุบพรรคอย่างว่า
งานนี้ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่.

**สปิริต "สุริยะ" นั่งรถเข็น ถ่อสังขารหลังเดี้ยงเข้าร่วมประชุมพรรค เบื้องหลัง "ประชารัฐ" คลื่นลมสงบ สยบเหลี่ยมของจริง

ว่ากันว่า ก่อนหน้าจะจัดประชุมพรรคพลังประชารัฐ ทางพรรคมีปัญหาภายใน คลื่นใต้น้ำกระเพื่อม จนมีกระแสข่าวกระพือว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แต่สุดท้ายทุกอย่างก็สงบ จบลงด้วยความถ้อยทีถ้อยอาศัยของทุกกลุ่ม
บ้างก็ว่า เพราะบารมี "ลุงป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานยุทธศาสตร์พรรค ที่เปล่งประกายออร่า "เจ้าของ" พรรคตัวจริงหรือบ้างก็ว่า เพราะการแก้เคล็ด ปรับโลโก้ "หกเหลี่ยม" มาเป็น "วงกลม" ตามโหราศาสตร์ทันเวลา ลบเหลี่ยมความขัดแย้งกลายเป็น "กลมเกลียว" ตามคำบอกของ"ลุงป้อม"
จะว่าอย่างไรกันก็ว่ากันไป แต่ที่เห็นๆ กันที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น สถานที่จัดงาน นอกจาก"ลุงป้อม" และ "อุตตม สาวนายน" หัวหน้าพรรค "สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์" เลขาธิการพรรค และผู้บริหารพรรคเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ยังมีแกนนำคนสำคัญ "สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ" ที่เป็นจุดสนใจของสื่อและสมาชิกพรรค
"สุริยะ" มาถึงโรงแรมโดยนั่งรถพยาบาล และนั่งรถเข็นวีลแชร์เข้าร่วมการประชุมฯ
หัวหน้ากลุ่ม "สามมิตร" เฉลยเหตุที่อยู่ในสภาพนั้นว่า สัปดาห์ก่อนได้ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครหาเสียงที่ จ.ขอนแก่น มากเกินไป จนทำให้กระดูกทับเส้นประสาท และแพทย์สั่งพักฟื้นอย่างน้อย 2 สัปดาห์ แต่ต้องมาร่วมประชุม เพราะถือว่ามีความสำคัญมาก เนื่องจากต้องมีการคัดเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคเพิ่มเติม และทุกคนมีหน้าที่ติดตามการทำงานให้นโยบายหาเสียงของพรรคได้ถูกขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม หากทำสำเร็จพรรคจะอยู่ในหัวใจประชาชน และคนที่ทำได้ต้องเป็นคนที่มีความทุ่มเท มีประสบการณ์ และต้องมีส่วนผสมทั้งนักการเมือง และนักวิชาการเข้าไปอยู่ด้วย
นี่ก็ต้องบอกว่า เรื่องอื่นดีไม่ดี ไม่รู้ แต่ถ้าเรื่อง พปชร. นี่ "สุริยะ" ถึงไหนถึงกัน เดี้ยงแค่ไหนก็ต้องมาจริงๆ
การปรากฏตัว หรือมีสุริยะมาร่วม กับไม่มี ย่อมมีความแตกต่างกันลิบลับ ที่ผ่านมา"สามมิตร" โดยการนำของ"สุริยะ" แสดงให้เห็นว่า เป็นกลุ่มนักการเมืองอาชีพ ที่เข้ามาขับเคลื่อนพรรคใหม่อย่าง"พลังประชารัฐ" ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง
พลังดูด ที่ว่ารวบรวมนักการเมืองเบอร์ต้นๆ ของพรรค เพื่อสู้ศึกก็ว่ากันว่า เป็นเพราะฝีมือและบารมีของ"สุริยะ" ชื่อชั้นเหลี่ยมคูทางการเมืองไม่เป็นรองใคร จนกระทั่งได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ก็ต้องให้เครดิตเขาคนนี้
แม้แต่ระหว่างจัดตั้งรัฐบาล หรือหลังฟอร์มคณะรัฐมนตรี ความขัดแย้งหลายๆครั้ง เกิดปัญหาในพรรค หรือนอกพรรค กับพรรคร่วมรัฐบาลเอง "สุริยะ" ก็ถือว่าเป็นมือประสานคนหนึ่งที่พลังประชารัฐจะขาดไม่ได้
และที่คลื่นลมสงบ พลังประชารัฐ "สยบการหักเหลี่ยมเฉือนคม" กันภายในพรรคครั้งนี้ ใครจะรู้ว่าแท้จริงอาจมาจาก.."ฝีมือ"ของ สุริยะ นี่เอง.

** พลังประชารัฐเฮ!! เลือกตั้งซ่อมขอนแก่น"สมศักดิ์ คุณเงิน" ชนะ"ธนิก มาสีพิทักษ์" จากพรรคเพื่อไทย ไปกว่า 2 พันคะแนน เพิ่มเสียงรัฐบาลหนีปริ่มน้ำได้อีก 1 เสียง

การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต7 จ.ขอนแก่น แทนตำแหน่งที่ว่าง เนื่องจาก "นายนวัธ เตาะเจริญสุข" อดีต ส.ส.เพื่อไทย ที่ต้องคำพิพากษาประหารชีวิต และถูกคุมขังอยู่ระหว่างการอุทธรณ์ในคดีจ้างวานฆ่า อดีตปลัด จังหวัดขอนแก่น จึงทำให้ขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส. ซึ่งการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ เป็นการวัดพลังกันระหว่างฝ่ายค้านกับรัฐบาลว่าใครจะมาวิน
"ธนิก มาสีพิทักษ์" เบอร์ 1 ตัวแทนจากพรรคเพื่อไทย ซึ่งก่อนหน้านี้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค แล้วยื่นลาออกเพื่อมาลง ส.ส.เขต เพื่อรักษาพื้นที่ให้กับพรรค ขณะที่ "สมศักดิ์ คุณเงิน" ลงสนามอีกครั้งในสังกัดพรรคเดิมคือพรรคพลังประชารัฐ ที่ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น เขาได้ 26,553 คะแนน แพ้ "นวัธ" จากพรรคเพื่อไทยไปเพียง 3,197 คะแนนเท่านั้น ศึกครั้งนี้จึงเป็นศึกล้างตา ครั้งสำคัญ ...
หลังปิดหีบเริ่มนับคะแนน ก็ปรากฏว่า "สมศักดิ์" มีคะแนนนำมาตั้งแต่ต้น แม้จะไม่ได้ทิ้งห่างก็ตาม บรรดาแกนนำพรรค รวมทั้งกองเชียร์ของทั้งสองฝ่ายต่างนั่งลุ้นตัวโก่ง อยู่ที่ที่ทำการพรรค กระทั่ง เวลา20.42 น. ทุกหน่วยนับคะแนนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ปรากฏผลอย่างไม่เป็นทางการว่า "สมศักดิ์ คุณเงิน" เบอร์ 2 จากพรรคพลังประชารัฐ ได้ 40,151 คะแนน ชนะ "ธนิก มาสีพิทักษ์" เบอร์ 1 จากพรรคเพื่อไทย ที่ได้ 37,959 คะแนน ซึ่งคะแนนห่างกัน 2,192 คะแนน
ทั้งนี้ เขต 7 ที่เป็นพื้นที่เลือกตั้งครั้งนี้ ประกอบด้วย 2 อำเภอ คือ อ.หนองเรือ กับ อ.มัญจาคีรี หากดูคะแนนแยกตามอำเภอปรากฏว่า ที่ อ.หนองเรือ "ธนิก"ได้ 19,873 คะแนน "สมศักดิ์" ได้ 25,040 คะแนน ส่วนที่ อ. มัญจาคีรี "ธนิกได้" 18,086 คะแนน "สมศักดิ์"ได้ 15 ,111 คะแนน
หลังรู้ผลคะแนน "สมศักดิ์" และแกนนำพรรคก็ประกาศชัยชนะ ด้วยการขอบคุณพี่น้องประชาชนทั้งสองอำเภอ..."ผมสัญญาว่า จะรักพี่น้อง 2 อำเภอ เสมอกัน จะรับใช้ที่น้องชาวขอนแก่น แก้ไขปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวิกฤตภัยแล้ง เรื่องสิทธิประโยชน์ที่ประชาชนควรจะได้รับ และคาดหวังว่า พรรคพลังประชารัฐ จะเป็นทางเลือกในการแก้ไขปัญหา ให้กับพี่น้องชาวอีสานได้ในอนาคตอันใกล้นี้ "
แน่นอนว่า การที่ชาวขอนแก่นเลือก "สมศักดิ์" ในครั้งที่ ถือเป็นการมอบของขวัญปีใหม่ ชิ้นใหญ่ให้กับรัฐบาล "ลุงตู่" เพราะนอกจากจะช่วยแก้ปัญหาเสียงปริ่มน้ำให้กระเตื้องขึ้นมาแล้ว ยังเอาไปเคลมได้ว่า ประชาชนมอบความไว้วางใจ ให้รัฐบาลนี้บริหารประเทศชาติต่อไป
--------------------------------
รูป- ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ - ปิยบุตร แสงกนกกุล –พรรณิการ์ วานิช
–สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
-สมศักดิ์ คุณเงิน



กำลังโหลดความคิดเห็น