xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ม็อบชนม็อบ “ลุงตู่” ปลุกกองเชียร์ - จูนพรรคร่วมฯ ประชันธนาธร - แฟลชม็อบ - วิ่ง ไล่ ลุง

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ครึกครื้นเอาเรื่องแบบไม่ธรรมดาทีเดียว

การชุมนุมประเดี๋ยวประด๋าว หรือ “แฟลชม็อบ” ที่นำโดย “เฮียเอก” ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่เพิ่งนัดหมายจัดชุมนุมแสดงพลังที่บริเวณสกายวอล์ก หน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ แยกปทุมวัน ภายใต้คอนเซปต์ “#ไม่ถอยไม่ทน #กลัวที่ไหน” ไปเมื่อวันเสาร์ที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา

“สาวกสีล้ม-ติ่งพ่อฟ้า” นับพันชีวิต แห่แหนมาร่วมชุมนุม “โดยสงบ” ภายในเวลา 1 ชั่วโมง ตามคำกล่าวอ้างของ “พ่อของฟ้า” ที่ส่งแกนนำพรรคอนาคตใหม่ อาทิ “จารย์ป๊อก” ปิยบุตร แสงกนกกุล-“เสี่ยทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ - “สาวช่อ” พรรณิการ์ วานิช ผลัดหน้ากันโจมตีรัฐบาล และย้ำถ้อยคำที่ว่า "เมื่อเสียงที่พวกเราเลือกเข้าสภาไม่มีค่า ได้เวลาประชาชนออกมาส่งเสียงด้วยตนเอง" ตลอดการชุมนุม

พยายาม “ฉายภาพ” ว่าเป็น “ผู้ถูกกระทำ” จากฝ่ายอำนาจ - กระบวนการยุติธรรม หลังจากที่ “ธนาธร” ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้พ้นสถานภาพ ส.ส.จากกรณีถือหุ้นสื่อ ขาดคุณสมบัติการเป็นผู้สมัคร ส.ส. และจ่อจะโดน “ยุบพรรค” ปิดตำนานค่ายอนาคตใหม่ ที่มีอายุขัยทางการเมืองแค่ปีเศษ จากรณีกู้เงินจาก “ธนาธร”

อีกทั้งไม่ปกปิดวัตถุประสงค์ที่แท้จริง ในการ “แสดงพลัง” ให้ฝ่ายอำนาจได้รับรู้ถึงพลานุภาพของ “แนวร่วมขั้วตรงข้าม” ที่เคยโดนดูเบามาตลอดว่า “เก่งแต่ในโลกออนไลน์” พิสูจน์ให้เห็นว่า “สาวกสีล้ม-ติ่งพ่อฟ้า” หาได้มีแต่ใน “โลกเสมือน” แต่มีตัวตนกันจริงๆ

เป็นที่น่าสังเกตว่า การชุมนุมรูปแบบใหม่ของ “เฮียทอน” ไม่คิดที่จะขออนุญาตจัดการชุมนุมตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะฯ แม้แต่น้อย เสมือนจงใจ “เก็บแต้ม” เพิ่มคดีให้กับตัวเอง ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าการจัดชุมนุม “ก่อม็อบ-ปลุกคนลงถนน” ลักษณะนี้นั้นเข้าข่ายผิดกฎหมายเต็มๆ

ในระหว่างการชุมนุมก็ได้มี “หน่วยการแสดง” จัดให้ประชาชนบางกลุ่มประจันหน้ากับกำลังตำรวจ พร้อมตะโกนบอกว่า “ตำรวจมาทำไม การชุมนุมเป็นสิทธิ์ที่ประชาชนพึงกระทำได้” พร้อมสร้างซีนผลักดันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ได้ตื่นเต้นกันพอหอมปาหอมคอ

ตามคิวที่ภายหลังการชุมนุม กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ตั้งแท่นรอการดำเนินคดีที่อาจเข้าข่ายเป็นความผิด ประกอบด้วย 1.การชุมนุมในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต, 2.การชุมนุมในลักษณะกีดขวางการใช้บริการสาธารณะ และ 3.ผู้จัดการชุมนุมไม่ควบคุมผู้มาร่วมชุมนุม ทำให้เกิดความไม่สะดวกต่อผู้ใช้ทางสาธารณะ

พ่วงด้วยความผิดจากการยุยงปลุกปั่น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 116 อีกกระทง

ที่มองข้ามไม่ได้คือการ “ปล่อยปละ” ให้เกิดการโพสต์ “ภาพมิบังควร” ในระหว่างการชุมนุมอย่างมี “นัยสำคัญ” ด้วย จนเกิดเป็นดรามาในสังคมออนไลน์ และมีการแจ้งความดำเนินคดีตามมาอีกด้วย เสมือนต้องการสร้างประเด็นย้ำภาพถูกกระทำจากผู้มีอำนาจอย่างไรอย่างนั้น

การเลือกใช้วิธีการชุมนุมเพียง 1 ชั่วโมงนั้น ก็เพราะ “แกนนำค่ายสีส้ม” รู้ดีว่า ประเด็นยังวนเวียนอยู่ใน “เรื่องส่วนตัว” ไม่ว่าจะเป็นการถูกถอดจาก ส.ส.ของ “ธนาธร” หรือแนวโน้มการถูกยุบพรรคอนาคตใหม่ ก็ตาม ครั้นคิดจะจัดชุมนุมยืดเยื้อยกระดับเป็น “ม็อบการเมือง” ให้เห็นมรรคผลโค่นล้มรัฐบาล คงเป็นไปได้ยาก

อีกทั้งประเมิน “มวลชน” ของตัวเองแล้วก็รู้ดีว่า จู่ๆจะให้ออกมาตากแดด นอนกลางดินกินกลางถนน ก็คงไม่มีใครเอาด้วย

แฟลชม็อบของเสี่ยเอกที่บริเวณสกายวอล์ก หน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ
หรือเรียกได้ว่าสถานการณ์ยังไม่สุกงอมนั่นเอง

หลักใหญ่ใจความก็เพื่อต้องการโหมโรง ปั่นกระแส รออีเว้นท์ใหญ่ “วิ่ง ไล่ ลุง” ต้นปีหน้า 12 ม.ค.63 ตามคำประกาศของ “ธนาธร” ที่ว่า วันนี้ถือเป็นการซ้อมใหญ่ เดือนหน้าเราจะเอาจริง ให้ไปซ้อมวิ่งซ้อมเดินได้เลย

และถึงแม้ว่ากิจกรรม “วิ่ง ไล่ ลุง” ที่กำลังจะจัดขึ้นนั้น “คนอนาคตใหม่” หรือ “ธนาธร” เองจะไม่ได้ออกหน้า แต่ในทางลับย่อมมีส่วนไม่มากก็น้อย ด้วยสังเกตที่ผ่านๆมา “คนอนาคตใหม่” ใช้ช่องทางสื่อออนไลน์แชร์ความเคลื่อนไหวของกิจกรรมนี้ต่ออย่างผิดสังเกต และตัว “ธนาธร” ก็มักออกปากเชิญชวนในช่วงที่ลงพื้นที่พบปะประชาชนอยู่ตลอด

อีกทั้ง “แฟลชม็อบหอศิลป์ - วิ่ง ไล่ ลุง” ยังมีรูปแบบการโปรโมทที่คล้ายกันโดยบังเอิญ มีการสร้างข่าวว่าถูกเจ้าหน้าที่รัฐใช้อำนาจในการสกัดกั้น ทั้งที่ไม่ปรากฏข้อเท็จจริง อาทิ การที่เพจผู้จัด “วิ่ง ไล่ ลุง” ระบุว่า ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกดดันเจ้าของสถานที่ จนไม่สามารถแถลงข่าวจัดงานได้หลายครั้ง ขณะที่ “แฟลชม็อบหอศิลป์" ก็มีการโพสต์ภาพบนสถานีรถไฟฟ้า อ้างว่า มีคำสั่งไม่ให้รถไฟฟ้าวิ่งไปทางสถานีสยาม ที่ไม่ได้ใกล้เคียงความจริงแม้แต่น้อย

เท่ากับเป็นการใช้ “เฟกนิวส์” ปั่นดรามาโปรโมทกันดื้อๆ ราวกับออกมาจาก “วอร์รูม” เดียวกัน

การจัดอีเวนท์ทั้ง 2 รายการนี้ ยังมีความอิหลักอิเหลื่อพอสมควร สำคัญที่ขาดประเด็นชักชวนมวลชนให้ออกมาแสดงพลัง แต่ทางรัฐบาลก็คง “ดูเบา” ไม่ได้ โดยเฉพาะหากมีการจัดอย่างต่อเนื่องให้เกิดอารมณ์ร่วมของสังคม ท่ามกลางปัจจัยเสริมในเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง ที่สาหัสสากรรจ์ถ้วนหน้า

ลุงตู่เดินสายไปหา FC ที่ “เยาวราช-สีลม”

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์และอนุทิน ชาญวีรกูล จับมือร้องเพลงยืนยันความเหนียวแน่นของพรรคร่วมรัฐบาล
ถ้ามีประเด็นเด็ด ประเภทรัฐบาลสะดุดขาตัวเอง ไม่ว่าการทุจริตคอร์รัปชั่น สองมาตรฐานทางการเมืองเอื้อพวกพ้อง อีกนิด ก็คงดูไม่จืด

ฟากรัฐบาลเองก็คง “มอนิเตอร์” เกาะติดความเคลื่อนไหวของกิจกรรมขั้วตรงข้าม เช่นกัน อย่างหลังมีข่าวกิจกรรม “วิ่ง ไล่ ลุง” ออกมาไม่นาน “แฟนเพจเชียร์ลุง” ที่ให้การสนับสนุน “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ก็ได้ประกาศกิจกรรม “วิ่ง ตาม ลุง” ก่อนจะปรับรูปแบบเป็น “เดิน เชียร์ ลุง” ซึ่งจะจัดในวันเดียวกับงาน “วิ่ง ไล่ ลุง” นัยว่าวัดพลังกันซึ่งๆหน้าไปเลย

คล้ายกับสมัยที่มีประเด็นเพลง “ประเทศกูมี” และมีการส่งเพลง “ประเทศกูดี” ออกมาประชัน

ขณะเดียวกันความเคลื่อนไหวจัดการชุมนุมของ “ธนาธร” ที่ประกาศเป็นนัยๆว่าจะพาคนถนนนั้น ก็อยู่ในหูตา “บิ๊กตู่” เช่นกัน และมีการประเมินว่าจะมีการงัด “สงครามมวลชน” ออกมาใช้ในไม่ช้า เป็นที่มาก็การวางกำหนดการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมถนนคนเดิน เยาวราช-สีลม เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา แต่กำหนดการถูกปล่อยออกมาก่อนที่จะมีการประกาศจัดแฟลชม็อบของ “ธนาธร” เสียอีก

เป็นที่มาของบรรยากาศการลงพื้นที่ ที่มีประชาชนให้การต้อนรับ และตะโกนทำนองว่า “เชียร์ลุงตู่” เป็นพิเศษ แล้วยังส่ง “สัญญะ” ผ่านหลายบทเพลงในระหว่างการลงพื้นที่ โดยเฉพาะบทเพลง “คนดีไม่มีวันตาย” ซึ่งเป็นเพลงโปรดท็อปลิสต์ของ “นายกฯตู่” เอง

บังเอิญ หรือตั้งใจ ก็แล้วแต่มุมมอง แต่การลงพื้นที่ของ “ลุงตู่” ยามนี้คงไม่ใช่การตรวจราชการพื้นๆทั่วไป

ตัดสลับมาวันพุธที่ 18 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นมีการจัดกิจกรรมรับประทานอาหารของ “นายกฯตู่” และคณะ ร่วมกับสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล ที่เป็นธรรมเนียมปฏิบัติทุกปีในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

อย่างไรก็ดีในงานสานสัมพันธ์ “กระจอกข่าว” กับ “บิ๊กรัฐบาล” ก็ถูก “ขโมยซีน” ด้วยฉากความชื่นมื่นของ “ลุงตู่” กับ 2 หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล อย่าง “อู๊ดด้า” จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ แห่งพรรคประชาธิปัตย์ และ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข แห่งพรรคภูมิใจไทย

โดยเฉพาะช่วงที่ “ประยุทธ์ -จุรินทร์ - อนุทิน” คว้าไมโครโฟนไปครวญเพลงร่วมกัน เรียกว่าคัดเพลย์ลิสต์เดียวกับวันที่ “นายกฯตู่” ลงพื้นที่เยาวราชเป๊ะๆ แต่ละเพลงส่ง “นัย” ถึงความสมานฉันท์กลมเกลียวแน่นปึ้กของรัฐบาล ทั้งสิ้น

ไม่ว่าจะเป็นท่อนเปิดหัวของเพลง “รางวัลแด่คนช่างฝัน” ที่ “อนุทิน” ประกาศออกไมโครโฟนเสียงดังว่า เขาและ “จุรินทร์” ขอมอบบทเพลงนี้ให้แก่ท่านนายกฯ ที่ว่า “อย่ากลับคืนคำที่เธอย้ำสัญญา อย่าเปลี่ยนวาจาเมื่อเวลาแปรเปลี่ยนไป”

ก่อนจะมาเน้นๆ อีกครั้งตรงท่อนสร้อยที่ว่า “บนทางเดินที่มีขวากหนาม ถ้าเธอคร้าม ถอยไปฉันคงเก้อ ฉันยังพร้อมช่วยเธอเสมอ เพียงตัวเธอ ไม่หนีไปเสียก่อน”

หรือเพลงสนุกๆ “จับมือกันไว้” ของ “พี่เบิร์ด” ธงไชย แมคอินไตย์ ที่เหมือนประกาศว่า รัฐบาลไร้รอยแตกร้าว ดังท่อนฮุกที่ว่า “จับมือไว้แล้วไปด้วยกัน เหมือนว่าไม่มีวันจะพรากไป ทำอะไรได้ดังฝันใฝ่ถ้าเราร่วมใจ จุดหมายที่ฝันกันไว้ก็คงไม่เกินมือเรา”

คล้ายเป็นการโชว์ภาพว่า ไม่เพียงแต่ในทางมวลชนที่ปึ้กเท่านั้น ในทางการเมือง “ลุงตู่” ก็ยังเอาอยู่ เสี้ยมก็ไม่แตก เรือเหล็กไม่มีรั่ว

แฟลชม็อบของ “เฮียทอน” ไม่สะเทือน วิ่ง ไล่ ลุง ก็ไม่ สะท้อน

“ลุงตู่” เล่นเกมนี้ได้อีกยาวๆ

ก็มีแต่ “เฮียทอน” และพรรคอนาคตใหม่เท่านั้น ที่ยังไม่รู้ว่าอนาคตของตัวเองจะเดินไปในทิศทางใด.


กำลังโหลดความคิดเห็น