"กรมสรรพากร” หวังปีนี้มีผู้ยื่นแบบเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเข้าระบบเกิน 11 ล้านราย คาดภาษี “e-Business” มีผลบังคับใช้ปี 2564 ตั้งเป้าปีแรก เก็บภาษีเพิ่ม 4 พันล้าน บ. ตั้ง “กองสำรวจธุรกิจนอกระบบ” (กสน.) ไล่ดึงผู้ขายของออนไลน์เข้าระบบ
วานนี้ (19 ธ.ค.) นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ได้ตั้งกองสำรวจธุรกิจนอกระบบ (กสน.) ขึ้นมาใหม่ เพื่อสำรวจและตรวจสอบผู้ค้าขายของบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ทั้งเฟซบุ๊ก ลาซาด้า ช้อปปี้ ว่ามีการเสียภาษีอย่างถูกต้องหรือไม่ โดยวัตถุประสงค์หลักของกรมไม่ได้ต้องการรีดภาษีจากกลุ่มดังกล่าว แต่ต้องการผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบการเสียภาษีอย่างถูกต้อง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้ประกอบการรายอื่นที่จ่ายภาษี พร้อมกันนี้ คาดว่าในปี 2562 จะมีผู้ที่ยื่นแบบเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเข้าสู่ระบบได้มากกว่า 11 ล้านราย จากปี 2561 ที่อยู่ในระบบ 10 ล้านราย ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากผู้ขายของออนไลน์ด้วย
ส่วนความคืบหน้าการจัดเก็บภาษีจากผู้ประกอบการที่มีรายได้จากธุรกิจการให้บริการระหว่างประเทศ กรมอยู่ระหว่างผลักดันร่างพระราชบัญญัติรองรับการจัดเก็บภาษีจากผู้ประกอบการธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (e-Business) ที่จัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จากการให้บริการในต่างประเทศนั้น คาดว่าจะผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรและออกเป็นกฎหมายในปี 2563 เชื่อว่าจะมีผลบังคับใช้และจัดเก็บภาษีได้จริงในปี 2564 ทั้งนี้ คาดว่าการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวจะส่งผลให้กรมมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 4,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในส่วนของการคิดภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ยังมีช่องโหว่อยู่ โดยกรมได้เตรียมยกเลิกยกเว้นการจัดเก็บแวต 7% กับสินค้าที่สั่งซื้อออนไลน์และส่งไปรษณีย์เข้ามาจากต่างประเทศทุกชนิดที่มีมูลค่าไม่เกิน 1,500 บาท คาดว่าจะมีผลภายในปี 2563
วานนี้ (19 ธ.ค.) นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ได้ตั้งกองสำรวจธุรกิจนอกระบบ (กสน.) ขึ้นมาใหม่ เพื่อสำรวจและตรวจสอบผู้ค้าขายของบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ทั้งเฟซบุ๊ก ลาซาด้า ช้อปปี้ ว่ามีการเสียภาษีอย่างถูกต้องหรือไม่ โดยวัตถุประสงค์หลักของกรมไม่ได้ต้องการรีดภาษีจากกลุ่มดังกล่าว แต่ต้องการผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบการเสียภาษีอย่างถูกต้อง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้ประกอบการรายอื่นที่จ่ายภาษี พร้อมกันนี้ คาดว่าในปี 2562 จะมีผู้ที่ยื่นแบบเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเข้าสู่ระบบได้มากกว่า 11 ล้านราย จากปี 2561 ที่อยู่ในระบบ 10 ล้านราย ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากผู้ขายของออนไลน์ด้วย
ส่วนความคืบหน้าการจัดเก็บภาษีจากผู้ประกอบการที่มีรายได้จากธุรกิจการให้บริการระหว่างประเทศ กรมอยู่ระหว่างผลักดันร่างพระราชบัญญัติรองรับการจัดเก็บภาษีจากผู้ประกอบการธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (e-Business) ที่จัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จากการให้บริการในต่างประเทศนั้น คาดว่าจะผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรและออกเป็นกฎหมายในปี 2563 เชื่อว่าจะมีผลบังคับใช้และจัดเก็บภาษีได้จริงในปี 2564 ทั้งนี้ คาดว่าการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวจะส่งผลให้กรมมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 4,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในส่วนของการคิดภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ยังมีช่องโหว่อยู่ โดยกรมได้เตรียมยกเลิกยกเว้นการจัดเก็บแวต 7% กับสินค้าที่สั่งซื้อออนไลน์และส่งไปรษณีย์เข้ามาจากต่างประเทศทุกชนิดที่มีมูลค่าไม่เกิน 1,500 บาท คาดว่าจะมีผลภายในปี 2563