นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวถึงพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พุทธศักราช 2562 ว่า กฎหมายที่ตราขึ้นใหม่นี้จะช่วยอุดช่องว่างและแก้ไขข้อบกพร่องของกฎหมายเดิม โดยเฉพาะการลดการใช้ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ลง นอกจากนี้การเก็บภาษียังปรับเปลี่ยนไปคิดจากมูลค่าของที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง โดยประเมินจากประโยชน์ใช้สอยในที่ดิน เช่น ใช้เป็นที่อยู่อาศัย ใช้ในเชิงพาณิชย์ หรือใช้เพื่อการเกษตร ซึ่งแต่ละประเภทจะเสียภาษีในอัตราที่ต่างกัน โดยการคำนวณภาษีในลักษณะเช่นนี้จะทำให้การประเมินภาษีตรงกับความเป็นจริงมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ท้องถิ่นที่มีความพร้อมเริ่มประเมินภาษีและจัดส่งให้แก่เจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างแล้ว ขอให้ประชาชนตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้อง
นอกจากนี้ กฎหมายฉบับดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป โดยช่วงต้นปีจะเป็นการประเมินและแจ้งเอกสารเพื่อให้เจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างไปเสียภาษี หากไม่มีข้อผิดพลาดใดๆ การจ่ายภาษีจะดำเนินการประมาณเดือนเมษายน อย่างไรก็ตาม การบริหารงานส่วนท้องถิ่นแต่ละแห่งมีความพร้อมไม่เท่ากัน กระทรวงมหาดไทยจึงประกาศให้ขยายระยะเวลาออกไปอีก 4 เดือน ทั้งนี้ ยังอยู่ในกรอบระยะเวลาการจัดเก็บภาษีปี 2563