“สอดแนมการเมือง”
“ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”
ชาติไทยมีกฎหมายมาตรฐานเดียวเท่านั้น! แต่มี “นักการเมือง” กับ “เจ้าหน้าที่รัฐ” เลวกลุ่มหนึ่ง มักบังคับใช้กฎหมายแบบ“สองมาตรฐาน”มาตลอด!
โดยรัฐบาลทั้ง “เลือกตั้ง” และ“รัฐประหาร”ที่ผ่านมา มักใช้วาทกรรมหลอกประชาชนทั้งชาติว่า รัฐบาลพวกตนปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่มีการกระทำ “สองมาตรฐาน” เด็ดขาด ด้วยรัฐบาลต้องทำให้ชาติไทยเป็นนิติรัฐ เพราะทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน
แถมบางรัฐบาลยังชอบคุยโม้โดยไม่ละอายปากว่า ใครจะมีอำนาจใหญ่โตขนาดไหน? จะรวยล้นฟ้าหรือยากจน ถ้าทำผิดกฎหมาย ก็ต้องถูกลงโทษทั้งสิ้น เพราะคุกมีไว้ขังทุกคนที่ทำผิดกฎหมายนะเว้ยเฮ้ย..
แต่เรื่องจริงมิได้อิงนิยายในสังคมไทยนั้น “ผู้มีอำนาจ” และ“เจ้าหน้าที่รัฐ”เลวกลุ่มหนึ่ง มักทำให้ผู้คนในสังคมเห็นว่า “คนมีอำนาจ-คนใกล้ชิดรัฐบาล-คนร่ำรวย ฯลฯ” กระทำผิดไม่ว่าเรื่องเล็กหรือใหญ่ มักได้เจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม ช่วยกันเล่นแร่แปรธาตุจากผิดหนักเป็นเบา จากผิดเป็นไม่ผิด กระทั่งปล่อยคนผิดหลบคดีความลอดรักแร้ไปได้ ทำให้“คนชั่ว-ทำชั่ว”โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย..
ยุครัฐบาลเลือกตั้งเครือข่าย “ทักษิณ ชินวัตร” คำว่า “สองมาตรฐาน” เป็นคำยอดฮิตติดลมบน เพราะเรื่องและการกระทำแบบเดียวกัน มักมีการปฏิบัติที่แตกต่างกันราว “ฟ้ากับดิน” ไม่ว่าจะด้วยจงใจหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ โดย “ผู้มีอำนาจ” และ “เจ้าหน้าที่รัฐ” เลวกลุ่มหนึ่ง ด้วยการละเลย-ละเว้นต่อการปฏิบัติหน้าที่ ทำให้การโกงชาติและความอยุติธรรม เพิ่มมากขึ้นในสังคมไทย
การปฏิบัติแบบ “สองมาตรฐาน” เกิดขึ้นอย่างมากมาย ทั้งในวงนักการเมืองและข้าราชการ จากระบบอุปถัมภ์ที่ฝังรากลึกในสังคมมาเนิ่นนาน จนเกิดการให้คุณให้โทษ และการเล่นพรรคเล่นพวก ด้วยการปฏิบัติที่แตกต่างกันเสมอ สื่อให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำต่ำสูง ในสังคมไทยทุกยุคทุกสมัย จนสร้างทัศนคติกับความเคยชิน ให้ผู้คนตกอยู่ในสภาพจำยอมมาจนทุกวันนี้..
เรื่อง “สองมาตรฐาน” ถือเป็นอุปสรรคใหญ่ ที่ขวางขัดฉุดรั้งการฟื้นฟูและการพัฒนาระบอบประชาธิปไตย จนประชาชนไทยเรียกร้อง “ผู้นำชาติ” เร่งแก้ไขให้ลดน้อยหรือหมดไป เช่น
ยุครัฐบาลเลือกตั้ง “ทักษิณ” และเครือข่าย ก็มีเหตุการณ์ “สองมาตรฐาน” เกิดขึ้นมากมาย จนเกิดการเรียกร้องให้รัฐบาล “ทักษิณ” ลดหรือยุติการกระทำในเรื่อง“สองมาตรฐาน” ทันที
ส่วนยุครัฐบาลรัฐประหา ร“บิ๊กตู่” ที่มีอำนาจเผด็จการนานกว่า 5 ปี จนถึงยุครัฐบาลเลือกตั้ง “บิ๊กตู่”ในวันนี้ พรรคการเมืองเครือข่าย “ทักษิณ” ที่เป็นฝ่ายค้าน รวมทั้ง “พรรคอนาคตใหม่” ของ “บิ๊กธร” กับพวกพ้อง ก็มีการเรียกร้องให้ “บิ๊กตู่” ยุติการกระทำ “สองมาตรฐาน” ที่ไม่เป็นธรรม และส่งผลร้ายต่อชาติและประชาชน..
อืม..เรื่อง “ผู้มีอำนาจ” มีพฤติกรร “สองมาตรฐาน” มักเกิดขึ้นทุกยุคทุกสมัย โดย “ผู้มีอำนาจ”มักจะ “ปากพูดอย่าง-ทำอีกอย่าง” ชอบโกหกประชาชนอย่างหน้าตาเฉยว่า “รัฐบาลนี้ไม่เคยปฏิบัติสองมาตรฐานกับใคร” หรือ “รัฐบาลนี้ให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่ายเสมอ” ฯลฯ
เอาล่ะ..คราวนี้มาดูตัวอย่าง “สองมาตรฐาน” ทั้งของรัฐบาลเลือกตั้งเครือข่าย “ทักษิณ” และรัฐบาล “นายกฯ รัฐประหารบิ๊กตู่” ซึ่งได้แปลงโฉมมาเป็นรัฐบาล “นายกฯ เลือกตั้งบิ๊กตู่” ที่ล้วนทำเรื่อง “สองมาตรฐาน” ด้วยกันทั้งคู่ เช่น
ในยุค “ทักษิณ” ด้วยเหตุที่ได้เสียงสส.ท่วมท้นเกินครึ่งสภาฯ เป็นประวัติการณ์ ทำให้ “ทักษิณ” เหิมเกริมจนลืมตัว หลงเชื่อว่า..ประชาชนรักฉัน(ทักษิณ)มากกว่าใครในชาติไทย กับ ฉัน(ทักษิณ)จะทำอะไรก็ได้ในประเทศนี้ จึงทำให้ “ทักษิณ”กล้าพูดกล้าทำในเรื่อง “สองมาตรฐาน” แถมยังกล้าโกงชาติอย่างมโหฬารต่อเนื่อง..
เรื่อง “สองมาตรฐาน” จาก “คำพูดแบบเปิดเผย” ของ “ทักษิณ” แสดงความด้อยวุฒิภาวะ ในฐานะ“ผู้นำชาติ” ที่มาจากระบอบประชาธิปไตยเลือกตั้งแบบไทยๆ โดย “ทักษิณ”ได้พูดคราครั้งครม.สัญจรไป จ.นครสวรรค์ เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2548
“..นครสวรรค์ได้มอบความไว้วางใจให้กับเรา ด้วยการเลือกสส.รัฐบาลทั้งจังหวัด แน่นอนครับอันนี้ก็ตรงไปตรงมา ก็ต้องได้รับสิทธิ์ในการจะต้องดูแลเป็นพิเศษก่อนนะครับ อันนี้..ผมไม่อ้อมค้อมนะครับ..แต่เราก็ต้องดูแลคนทั้งประเทศ แต่..เวลามันจำกัด ก็ต้องเอาเวลาไปจังหวัดที่ไว้วางใจเราเป็นพิเศษก่อน จังหวัดที่ไว้วางใจเราน้อย ก็ไปทีหลัง ไม่ใช่ไม่ไป แต่ไปทีหลัง..ต้องเรียงคิวกัน..”
เรื่องข้างต้นมิใช่แค่ “พูด” “ทักษิณ ”ในฐานะนายกฯ “ทำ” จริงๆนะ เพราะมีการเปิดโปงว่า ยุคนั้นสส.จังหวัดต่างๆของฝ่ายค้าน โดยเฉพาะภาคใต้ที่พรรคประชาธิปัตย์ชนะเลือกตั้ง ได้รับเงินงบประมาณน้อยเกินควร แถมเม็ดเงินฯที่ได้ ยังลงถึงพื้นที่ช้าเกินควรอีกด้วย..
โอ๊ย!..เรื่อง “สองมาตรฐาน” ของ “ทักษิณ”มีมากมาย โดยเฉพาะกรณีคดีความต่างๆ ของ “ทักษิณ” มักถูก “ทักษิณ”ให้ร้ายป้ายสีจาก“ขาวเป็นดำ-ดำเป็นขาว”อยู่เสมอ เช่น ถ้าศาลพิพากษาว่า..ทักษิณไม่มีความผิด “ทักษิณ” ก็จะชื่นชมศาลฯว่ามีความยุติธรรม! แต่ถ้าคราใดศาลตัดสินว่า..ทักษิณมีความผิด “ทักษิณ”จะโวยวายทันทีว่า “ศาลฯ ไม่ยุติธรรม”
อืม.. ว่าแล้ว..กรณี “ศาลฯ ยกฟ้องโอ๊ค” ที่ไปพัวพันกับเงิน 10 ล้านบาทของ “กฤษฎามหานคร”.. วันนี้ “ทักษิณ” คงมีความสุขสุดเหวี่ยง และคงชมแล้วชมอีกว่า “ศาลฯ ยุติธรรมจริงๆ ที่ยกฟ้องลูกสุดที่รักของเรา”..ว้าว..กรี๊ดส์ส์ส์..
นั่นคือ “ทักษิณ” นักการเมืองทุนสามานย์ อดีต“นายกฯ” ซึ่งเคยพูดในวาระ “วันเด็ก” เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2549 ณ ทำเนียบรัฐบาลว่า..
“..ในสมัยก่อนคำขวัญวันเด็กก็จะเน้นเรื่อง การมีวินัย ความซื่อสัตย์ ตรงต่อเวลา อะไรต่ออะไร ซึ่งบังเอิญยุคสมัยมันเปลี่ยน ผมอยากเห็นเด็กไทยเติบโตขึ้นมาฉลาดและคิดเป็น ถ้าไม่ฉลาดและคิดไม่เป็น มันจะเป็นเหยื่อ เพราะโลกเศรษฐกิจทุนนิยม เป็นโลกที่คนฉลาดได้เปรียบ คนฉลาดน้อยกว่าถูกกิน ปลาใหญ่กินปลาเล็ก คนฉลาดกินคนโง่กว่า เป็นโลกที่ชอบไม่ชอบก็ต้องอยู่กับมัน”
อืม..นั่นเป็น “คำสอน” เด็กและบอกผู้คนทั่วไป ให้ยอมรับสภาพ “ปลาใหญ่เขมือบปลาเล็กอย่างเสรี” โดยไร้ซึ่งความเอื้ออาทร อีกทั้งรัฐบาลจะไม่ปกป้องผู้ด้อยกว่า โดยปล่อยให้ “คนขี้โกง-กิน-คนซื่อสัตย์”ได้อย่างเต็มที่นั่นเอง
“ทักษิณ” ยึดถือเงินทองและอำนาจเป็นสรณะ เพราะ“ทักษิณ” รู้ว่า “อำนาจสร้างเงินทอง-เงินทองสร้างอำนาจ” วันนี้ “ทักษิณ” ยังมีเงินทองมหาศาล จึงยากจะวางมือจากการแย่งชิงให้ได้มาซึ่งอำนาจ
หลายคนเคยเรียกร้องให้ “ก้าวข้ามทักษิณ” แต่จนวันนี้หลายคนก็ยังก้าวข้าม “ทักษิณ”ไม่ได้! หลายคนเรียกร้องให้ “ทักษิณ” ก้าวข้าม “อำนาจ” แต่ความหวังดีต่อ “ทักษิณ” เหล่านั้น ก็ต้องพังทลายลงครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะ“ทักษิณ”ยังติดหนึบใน“อำนาจ”และ“เงินทอง”
นั่นทำให้โอกาสทองของการได้เป็น“วีรบุรุษชาติ” ของอดีต“นายกฯทักษิณ” กลับกลายเป็น“โมฆะบุรุษ” แถมผู้คนมิใช่น้อย มอง“ทักษิณ”เป็น“ทรราช”ไปเลย
อย่างไรก็ตาม..มนุษย์ทุกคนมิใช่มีแต่เรื่องเลวร้ายไปเสียทั้งหมด “ทักษิณ” ก็ทำเรื่องดีๆให้กับประชาชนมิใช่น้อย ดังนั้น แม้ “บิ๊กตู่ ”เคยร่วมกับ “บิ๊กบัง” ทำรัฐประหารล้มรัฐบาลยุค “ทักษิณ” แถมรัฐประหารครั้งล่าสุด หลังโค่นล้มรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์” “บิ๊กตู่” ยังเป็นทั้งผู้นำรัฐประหารและนายกฯเองด้วย
แต่เพราะในยามมีอำนาจเผด็จการนานกว่า 5 ปี “บิ๊กตู่” มิได้ปราบคนโกงชาติจริงจัง! มิได้ลดความเหลื่อมล้ำในการกระจายรายได้ ให้ผู้มีรายได้น้อยและคนจนอย่างเป็นธรรม แถมยังทำให้สภาพ “รวยกระจุกจนกระจาย” พุ่งปรี๊ดติดอันดับต้นๆ ของโลก ฯลฯ
ที่สำคัญ “บิ๊กตู่”ไม่ได้ปฏิรูปชาติก่อนเลือกตั้ง มีแต่ทำผลงานทั่วไปให้กับชาติเท่านั้น
“บิ๊กตู่” จึงไม่สามารถครองใจประชาชน เอาชนะผลงานที่ผ่านมาของ “ทักษิณ”ได้เท่าที่ควร นั่นทำให้ “บิ๊กตู่” ชนะเลือกตั้งได้เสียง สส. ในสภาแบบปริ่มน้ำ จึงเป็นได้แค่นายกฯและรัฐบาล “เป็ดง่อย” ในวันนี้ไงล่ะ
(อ่าน“สองนายกฯ-สองมาตรฐาน” ตอนต่อไป วันพุธหน้า)