xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นสื่อตายเดี่ยวกู้เงินตายหมู่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: สุรวิชช์ วีรวรรณ



ผลการตัดสินหุ้นสื่อออกมาแล้วว่า เชื่อไม่ได้ว่ามีการโอนหุ้นกันจริงในวันที่ 8 มกราคม และทำให้ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พ้นจากตำแหน่ง ส.ส.กรณีนี้จะไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะอย่างที่ กกต.เคยแจ้งไว้ว่าจะมีคดีอาญาตามมาซึ่งมีโทษจำคุก ซึ่งต้องติดตามว่า คดีนี้จะยาวใหญ่ไปถึงแม่และภรรยาของธนาธรที่เข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่

ขั้นตอนต่อไปที่ศาลจะหยิบยกมาพิจารณาคือกรณีกู้เงินซึ่งจะหนักหนาสาหัสยิ่งกว่า เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่ “ตายเดี่ยว” แต่จะ “ตายหมู่” กันเลยทีเดียว

ล่าสุดคณะะกรรมการการเลือกตั้งได้ประชุมพิจารณาสํานวนการสืบสวนกรณีมีผู้กล่าวหาว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจได้ให้พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินของตนเองถือว่าเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง และพรรคการเมืองตามมาตรา 66 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 โดยได้บริจาคเงินทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดให้แก่พรรคการเมืองมีมูลค่าเกินกว่า 10,000,000 บาทต่อพรรคการเมืองต่อปี

โดย กกต.มีมติเป็นเอกฉันท์ให้พรรคอนาคตใหม่ส่งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องมาประกอบการพิจารณาเพิ่มเติม อันจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายต่อไป โดยเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องเป็นเอกสารที่คณะอนุกรรมการวินิจฉัยคําร้องและปัญหาหรือข้อโต้แย้งใดเคยเรียกเอกสารดังกล่าวแล้ว แต่พรรคอนาคตใหม่ไม่ได้จัดส่งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้แก่คณะอนุกรรมการวินิจฉัยคําร้อง และปัญหาหรือข้อโต้แย้งแต่อย่างใด

อย่าลืมว่า พ.ร.ป.พรรคการเมืองนั้นระบุที่มาของเงินพรรคการเมืองเอาไว้ในมาตรา 62 ใน 7 วงเล็บ

ทีนี้มาดูมาตรา 66 บุคคลใดจะบริจาคเงินทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดให้แก่พรรคการเมืองมีมูลค่าเกินสิบล้านบาทต่อพรรคการเมืองต่อปีมิได้ และในกรณีที่บุคคลนั้นเป็นนิติบุคคลการบริจาคเงินทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดให้แก่พรรคการเมือง ไม่ว่าพรรคเดียวหรือหลายพรรคเกินปีละห้าล้านบาท ต้องแจ้งให้ที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นทราบในการประชุมใหญ่คราวต่อไปหลังจากบริจาคแล้ว

พรรคการเมืองจะรับบริจาคเงินทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด ซึ่งมีมูลค่าเกินวรรคหนึ่งมิได้

จะเห็นว่า ถ้อยคำในเนื้อของมาตรา 66 นั้น มีที่มาของเงินประกอบด้วย 1. การบริจาคเงิน 2. การให้ทรัพย์สิน หรือ 3. การให้ประโยชน์อื่นใด

มาตรา 4 นิยาม คำว่า บริจาค และประโยชน์อื่นใดไว้ว่า

“บริจาค” หมายความว่าการให้เงินหรือทรัพย์สินแก่พรรคการเมืองนอกจากค่าธรรมเนียมและค่าบํารุงพรรคการเมือง และให้หมายความรวมถึงการให้ประโยชน์อื่นใดแก่พรรคการเมืองบรรดาที่สามารถคํานวณเป็นเงินได้ตามที่คณะกรรมการกําหนดด้วย

“ประโยชน์อื่นใด” หมายความรวมถึงการให้ใช้ทรัพย์สินการให้บริการหรือการให้ส่วนลดโดยไม่มีค่าตอบแทน หรือมีค่าตอบแทนที่ไม่เป็นไปตามปกติทางการค้า และการทําให้หนี้ที่พรรคการเมืองเป็นลูกหนี้ลดลงหรือระงับสิ้นไปด้วย

ดังนั้นเมื่อที่มาของเงินตามมาตรา 62 ไม่ได้ระบุไว้ว่าให้สามารถกู้ยืมเงินได้ ตามหลักกฎหมายมหาชนก็ต้องถือว่า ถ้ากฎหมายไม่ให้เขียนให้ทำได้ก็ไม่สามารถทำได้ นั้น เขาจะเขียนที่มาของรายได้ไว้ทำไม

แต่ถามผมว่าตีความได้ไหมว่า อาจจะเป็นประโยชน์อื่นใดตามมาตรา 62(4) เงินทรัพย์สินและประโยชน์อื่นใดที่ได้จากการจัดกิจกรรมระดมทุนของพรรคการเมือง

การกู้ยืมเงินก็อาจจะหมายถึงประโยชน์อื่นใดที่ได้จากการจัดกิจกรรมระดมทุนของพรรคการเมือง

มาตรา 66 บุคคลใดจะบริจาคเงินทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดให้แก่พรรคการเมืองมีมูลค่าเกินสิบล้านบาทต่อพรรคการเมืองต่อปีมิได้

ในกรณีนี้มีบทกำหนดโทษไว้ตามมาตรา 124 ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา 66 วรรคหนึ่งต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนดห้าปี

ส่วนความผิดของพรรคจะเป็นตามมาตรา 125 พรรคการเมืองใดรับบริจาคเงินทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดมีมูลค่าเกินที่กําหนดไว้ในมาตรา 66 วรรคสองต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของหัวหน้าพรรคการเมือง และกรรมการบริหารพรรคการเมืองมีกําหนดห้าปี และให้เงินทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดส่วนที่เกินมูลค่าที่กําหนดไว้ตามมาตรา 66 ตกเป็นของกองทุน

จะเห็นได้ว่า ผิดทั้งคนบริจาคตามมาตรา 124 มีโทษติดคุก และหัวหน้าพรรคการเมืองและกรรมการบริหารพรรคจะต้องถูกตัดสิทธิ์ 5 ปี ปรับ 1 ล้านบาท และยังริบเงินส่วนที่เกินมูลค่าตกเป็นของกองทุนด้วย

กรณียืมเงินนั้นไม่มีข้อโต้แย้งอื่น เพราะเป็นการยอมรับต่อสาธารณะอย่างชัดแจ้ง จะไปโทษว่าใครกลั่นแกล้งก็ไม่ได้ รศ.ดร.ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคก็เป็นนักกฎหมายมหาชนย่อมจะต้องรู้และเข้าใจหลักกฎหมายดีอยู่แล้ว

หลักกฎหมายมันมีอยู่แล้วจะไปร้องว่าถูกโบยตีด้วยความอยุติธรรมก็ดูจะเป็นเรื่องตลก เพราะเป็นฝ่ายฝ่าฝืนกฎเกณฑ์ของความยุติธรรมเสียเอง เพราะหลักคิดง่ายๆว่า เขาเขียนที่มาของเงินรายได้เอาไว้ชัดแจ้ง จำกัดวงเงินที่จะรับได้ จำกัดทรัพย์สิน และประโยชน์อื่นใดที่จะรับได้ ว่ามีวงเงินไม่เกินเท่าใด เขามีข้อบังคับกฎเกณฑ์ของการใช้จ่ายเงินของพรรคการเมืองไว้ชัด นั่นคือเขาป้องกันนายทุนเข้ามาครอบงำพรรค

ถ้าให้ยืมเงินกันเป็น 100 ล้านได้ ต่อไปใครจะตั้งพรรคก็ให้กู้ยืมเงินกันเป็นพันล้าน ถ้าทำแบบนี้ได้นายทุนก็สามารถครอบงำพรรคได้ ใครจะไม่เกรงใจเจ้าของเงิน แถมกรณีนี้เจ้าของเงินเป็นถึงหัวหน้าพรรคแล้วใครจะไม่เกรงใจหัวหน้าพรรคแถมยังมองไม่ออกเลยว่า พรรคอนาคตใหม่จะเอาเงินที่ไหนมาคืนหัวหน้าพรรค และสะท้อนว่า ถ้าขาดเงินดังกล่าวพรรคก็ยากจะดำเนินการในการเลือกตั้งครั้งนี้ได้ เพราะไม่มีเงิน

แล้วที่แปลกก็คือล่าสุด กกต.แถลงว่า ได้ขอให้พรรคอนาคตใหม่ส่งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องมาประกอบการพิจารณาเพิ่มเติมมาให้ ทั้งนี้เอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องเป็นเอกสารที่คณะอนุกรรมการวินิจฉัยคําร้อง และปัญหาหรือข้อโต้แย้งใดเคยเรียกเอกสารดังกล่าวแล้ว แต่พรรคอนาคตใหม่ไม่ได้จัดส่งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้แก่คณะอนุกรรมการวินิจฉัยคําร้อง และปัญหาหรือข้อโต้แย้งแต่อย่างใด

ซึ่งมีคำถามตามว่า ทำไมไม่ส่งเอกสารการกู้ยืมเงินให้ กกต.

ดังนั้นชะตากรรมของธนาธรแม้จบลงแล้ว เพราะศาลไม่เชื่อว่ามีการโอนหุ้นกันจริง แต่ชะตากรรมของพรรคอนาคตใหม่ทั้งพรรค และกรรมการบริหารทั้งหมดยังคงอกสั่นขวัญแขวน และความเห็นของนักกฎหมายส่วนใหญ่ เชื่อว่า การกู้ยืมเงินนั้นไม่สามารถทำได้แน่

แม้พรรคอนาคตใหม่จะอ้างว่า สิ่งที่ตัวเองทำนั้นต้องการเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาที่มาของเงิน แต่นั่นก็ไม่ใช่เป็นข้ออ้างที่จะมาอ้างได้ เพราะหลักของบ้านเมืองที่เราต้องยึดก็คือสภาพบังคับของกฎหมายนั่นเอง

แล้วเรื่องนี้จะมาโทษว่าใครกลั่นแกล้งไม่ได้ เพราะการกระทำที่พรรคอนาคตใหม่ทำขึ้นมาเองทั้งสิ้น




ติดตามผู้เขียนได้ที่ https://www.facebook.com/surawich.verawan


กำลังโหลดความคิดเห็น